"โรนัลโด้"ทุบสถิติโลกรับค่าเหนื่อยสูงสุดเหนือ"เอ็มปัปเป้"-"เมสซี"
ดีลเจรจา ดึงตัวกัปตันทีมชาติโปรตุเกส "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" ไปค้าแข้งกับทีมในลีกสูงสุดซาอุดีอาระเบีย กลายเป็นการสร้างประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล เมื่อ "อัล นาสเซอร์" ยินดีที่จะจ่ายค่าเหนื่อย "โรนัลโด้" ต่อปี สูงถึง 4.7 พันล้านบาท เหนือซูเปอร์สตาร์ปารีสแซงแชร์กแมงต์
ผลตอบแทนในการย้ายมาร่วมงานกับ สโมสรฟุตบอล อัลนาสร์ หรือ อัลนาสเซอร์ ทีมในลีกสูงสุดของประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วัย 37 ปี กัปตันทีมชาติโปรตุเกส จะได้รับตลอดการร่วมงานกับสโมสรฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ กลายเป็นสถิติหรือสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยตัวเลขของค่าตอบแทนที่สูงถึง 200 ล้านยูโร หรือกว่า 7,400 ล้านบาท ที่ "โรนัลโด้" ได้รับต่อฤดูกาล หรืออาจกล่าวได้ว่าตัวเลขดังกล่าว ได้กลายเป็นสถิติโลกของวงการฟุตบอลไปในที่สุด
อัล นาสเซอร์ สโมสรฟุตบอลในลีกสูงสุด ของซาอุดีอาระเบีย ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศคือริยาด มี รูดี้ การ์เซีย อดีตเทรนเนอร์ ของ โอลิมปิก ลียง ในลีกเอิงฝรั่งเศส และ โรม่า กัลโชซีเรียอา อิตาลี คุมทัพ ทั้งนี้ อัล นาสเซอร์ เซ็นสัญญากับ " โรนัลโด้" มี ผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2023 เป็นข้อตกลงที่มีระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ไปสิ้นสุดใน 2024/25 หรือ เมื่อนักฟุตบอลรายนี้มีอายุครบ 40 ปี หากประเมินจากตัวเลขผลตอบแทนที่ได้รับต่อฤดูกาล คือ 200 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทย 7,400 ล้านบาท
เท่ากับว่า "โรนัลโด้" ได้สร้างสถิติใหม่ ในการได้รับค่าเหนื่อยตลอดฤดูกาล เหนือ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ จาก ทีมชาติฝรั่งเศส และ ลีโอเนล เมสซี จากอาร์เจนตินา โดยสองผู้เล่นจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มีรายได้ต่อฤดูกาล เฉลี่ยที่ 3,800 พันล้านบาท ( ภายใต้สัญญาเดิม ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 )
สำหรับ อัลนาสเซอร์ ทีมจากซาอุดีอาระเบีย ไม่ได้มีเป้าหมายในการเซ็นสัญญากับ โรนัลโด้ เพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น สโมสรยังมีแผนที่จะเซ็นสัญญาเพิ่มเติม เพื่อให้ โรนัลโด้ ทำงานร่วมกับสโมสรไปจนถึงปี 2030 ซึ่งเป็นรอยต่อที่ซาอุดีอาระเบีย เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 ร่วมกับ
ประเทศกรีซและอียิปต์ โดย กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ถูกวางตัวให้เป็นฑูตวัฒนธรรมของ ซาอุดีอาระเบีย ต่อการทำหน้าที่เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 ที่จะมีขึ้น
CREDITPHOTO : selecaoportugal