"ชลบุรี เอฟซี"น้ำท่วมปาก " สะสม พบประเสริฐ" เมินจับมือโค้ช บุรีรัมย์ยูไนเต็ด | คมชัดลึก

ศศิศ สิงห์โตทอง   ผู้จัดการทีมชลบุรี  เอฟซี   สโมสรฟุตบอลในไทยลีก 1  "รีโว่ ไทยลีก" ให้สัมภาษณ์กับ    "คมชัดลึก" ว่า  การแสดงออกของ สะสม  พบประเสริฐ  หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอล  เอฟซี  ที่ปฎิเสธต่อการจับมือทักทายกับ  มาซาตาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด      และภาพดังกล่าวซึ่งถูกบันทึกไว้ ถูกเผยแพร่ออกไปสู่สังคม     ระหว่างการแข่งขันฟุตบอล รีโว่ไทยลีก  นัดประจำวันอาทิตย์   โดย บุรีรัมย์  ยูไนเต็ด เล่นในบ้านพบกับ ชลบุรี  เอฟซี   แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 29  มกราคม ที่จังหวัดบุรีรัมย์  ท่าทีของ  "สะสม พบประเสริฐ"  ที่แสดงออกไปนั้น   โดยส่วนตัวในฐานะผู้จัดการทีม  และอยู่ในเหตุการณ์ ก็ได้ร้องขอไปแล้วเพื่อขอให้สะสม  พบประเสริฐ    แสดงท่าทีที่เหมาะสม

 

 

 

 

 แต่ตัวหัวหน้าผู้ฝึกสอนชลบุรี  เอฟซี  ก็อธิบายว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่ คือ  "สะสม พบประเสริฐ"   กับ   มาซาทาดะ อิชิอิ   หัวหน้าผู้ฝึกสอนบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ดังนั้นมื่อ  สะสม    ตัดสินใจและเลือกที่จะแสดงออกแบบนี้  ด้วยการเมินเฉย   หรือไม่ได้แสดงท่าที ในแบบที่สนองตอบกับอีกฝ่าย  ก็ต้องยอมรับว่า  เฮดโค้ชของ "ชลบุรี เอฟซี"   เลือกที่จะให้เป็นแบบนั้น ในส่วนของสโมสรเอง  ไม่เห็นด้วยกับการวางท่าทีแบบนี้  เพราะตระหนักดีว่าในสังคมกีฬา  การแสดงออกในมิตรภาพ  น้ำใจนักกีฬา  ถือเป็นหัวใจสำคัญ

 

 

 

 

ดังนั้นในเมื่อ  สะสม พบประเสริฐ  เลือกที่จะวางเฉย ในส่วนของชลบุรี  เอฟซี  ก็คงไปทำอะไรไม่ได้  แต่ขอยืนยันว่าสโมสร ตระหนักดี ถึงความรู้สึกของสังคม  ทว่าในเมื่อสะสม พบประเสริฐ  เลือกที่จะให้สถานการณ์เป็นแบบนั้น   แสดงออกด้วยท่าทีที่เย็นชาต่ออีกฝ่าย  ก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล 

 

 

 

"ไม่ว่าจะเป็นผม หรือ  ในนามของสโมสร  เราไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอนต่อการวางท่าทีที่เย็นชา  ของ เฮดโค้ชทีม   ที่แสดงออกกับโค้ชของทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด แบบนั้น   แต่ในเมื่อทำความเข้าใจไปแล้ว และเขาก็มีเหตุผลของเขาว่า  มันมาจากเรื่องระหว่างทั้งคู่ จะให้สโมสรไปรบเร้ามากกว่านี้   ก็เท่ากับว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล   โค้ชสะสม เลือกแบบนี้  ก็ต้องปล่อยเขาไป   สังคมจะมองเขาอย่างไร  เขาก็ต้องรับสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง  ย้ำว่าสโมสรไม่เห็นด้วยกับการวางท่าทีแบบนั้น  แต่เมื่อโค้ชสะสม  เลือกจะให้เกิดบรรยากาศแบบนั้น ในฐานะคนกลาง  คงไม่สามารถทำอะไรได้  ซึ่งจะให้สโมสรไปออกบทลงโทษ ก็คงไม่ใช่  ขอให้สังคมตัดสินเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น " ผู้จัดการทีมชลบุรี  เอฟซี  ระบุ