'ทุนกาตาร์' เล็งใช้งบ 3.2 แสนล้านบาท​ ซื้อ 'แมนยู' ปาดหน้าเศรษฐีผู้ดี | คมชัดลึก

"dailymail" สื่อแดนผู้ดี ประเทศอังกฤษ รายงานว่า หลังจาก "ตระกูลเกลเซอร์" ประกาศยืนยันชัดเจนว่าพร้อมขายกิจการของสโมสร ยักษ์ใหญ่ "แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งราคาไว้สูงถึง 6 พันล้านปอนด์ หรือราว 2.4 แสนล้านบาท รวมถึง ค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 2 พันล้านปอนด์ เพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในสโมสร  โดยมีการกำหนดเส้นตายรับข้อเสนอไว้กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งล่าสุด มี "กลุ่มทุนกาตาร์" เตรียมยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์ครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งพร้อมทุ่มข้อเสนออย่าง "เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์" มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ก็ตาม 

 

โดยมีรายงานเพิ่มเติมว่า "กลุ่มทุนกาตาร์" ที่เป็นคนละกลุ่มจากของทาง นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ เจ้าของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้องการเทคโอเวอร์เป็นเจ้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเต็มรูปแบบ โดยเป็นการนำเทคโอเวอร์ของ ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล ธานี ประมุขของกาตาร์ ซึ่งมีความประสงค์จะทุ่มซื้อในครั้งนี้ 

 

 

สำหรับ ทรัพย์สินส่วนพระองค์ที่มีมากถึง 3.35 แสนล้านดอลลาร์ หรือเทียบเป็นเงินไทย ราว 10 ล้านล้านบาท ซึ่งความเพียบพร้อมของ ชีค ทามิม ยังมีพระราชวังมากมายทั้งในประเทศกาตาร์ และ โอมาน และยังมียานพาหนะประจำตำแหน่ง มีรถยนต์ซูเปอร์คาร์มากมายแล้ว ยังมีเรือยอชต์ขนาดใหญ่อีก 2 ลำ ที่ราคาตกลำละ 300 ล้านปอนด์ หรือ 12,000 ล้านบาทไทย รวมถึงยังมีสายการบินที่ให้บริการเฉพาะ VIP ส่วนตัว ที่มีชื่อว่า Qatar Amiri Flight อีกด้วย

 

ซึ่งได้มีการเปรียบเทียบ ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล ธานี กับ ชีค มันซูร์ อัล นาห์ยาน เจ้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยปรากฎว่า มีทรัพย์สินมากกว่า ชีค มันซูร์ ที่มีทรัพย์สินทั้งหมด 12,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 5 แสนล้านบาท ถึง  20 เท่าตัวเลยทีเดียว 

 

 

ทั้งนี้ จากรายงานยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า " พวกเขาต้องการสานต่อความสำเร็จของฟุตบอลโลกด้วย พวกเขาตระหนักดีว่า สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปรียบเสมือนดั่งมงกุฎเพชร และมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะซื้อสโมสรนี้และพาทีมไปสู่จุดที่ควรอยู่ให้ได้"

 

นอกจาก "กลุ่มทุนกาตาร์" ที่เตรียมยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว ยังมีอีกหนึ่งแคนดิเดต คือ "เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์" มหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในเกาะอังกฤษ เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Ineos ซึ่งเตรียมยื่นข้อเสนอในคราวนี้ด้วยเช่นกัน 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม "ตระกูลเกลเซอร์" เข้ามาครอบครอง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ตั้งแต่ปี 2005 ด้วยราคา 790 ล้านปอนด์ จนถึงตอนนี้ก็เป็นระยะเวลา 18 ปีเต็ม และคาดว่า นักธุรกิจจากแดนมะกัน จะขายสโมสรและได้กำไร ไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านปอนด์ 

 

ที่มา : dailymail

CREDIT PHOTO : manutd_hqs , HHTamimBinHamd , ManUtdMEN