สว.ชาญวิทย์ แนะสมาคมฯฟังกระแส ปม 'สตาฟทีมชาติไทย ' ร่วมวิวาทนัดชิงซีเกมส์
สว.ชาญวิทย์ ผลชีวิน มองบทลงโทษ "สตาฟทีมชาติไทย" พักงาน 1 ปี "สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย" ควรมองให้รอบด้าน หลังเป็นประเด็นลงโทษเบาไป ขณะที่เฮดโค้ชนอร์ทกรุงเทพ เอฟซี ชูตัวอย่างความเป็นผู้นำ "สันติ ทรงเต๊ะ" ยกนิ้ว ยุทธนา หยิมการุณ เลือกลาออกจากตำแหน่งผอ.ทีมชาติกู้ชื่อ
ชาญวิทย์ ผลชีวิน สมาชิกวุฒิสภา ( สว. ) และอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์กับ "คมชัดลึก" ว่า อยากให้ "สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย" พิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเหมาะสม ภายหลังการประกาศบทลงโทษ ด้วยการสั่งพักงานหรือยุติการทำหน้าที่ ของผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย ด้วยกัน ซึ่งทำหน้าที่เป็น "สตาฟทีมชาติไทย" ในฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 32 หรือ " ซีเกมส์ 2023" ทั้งนี้จากเหตุทะเลาะวิวาทนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซีเกมส์ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย โดยมีสตาฟทีมชาติไทย ประกอบด้วยโค้ชผู้รักษาประตู และเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทย 2 ราย เข้าไปเกี่ยวข้อง กับเหตุการณ์ชุลมุนในสนามระหว่างการแข่งขัน
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกลงโทษด้วยการพักงานบุคคลทั้ง 3 ราย ต่อการทำงานให้กับทีมชาติไทย เป็นระยะเวลา 1 ปี ส่วนนักฟุตบอลที่มีอายุ 21 ปี และ 22 ปี 2 ราย พักงานทีมชาติไทย เป็นเวลา 6 เดือน อย่างไรก็ตามในประเด็นบทลงโทษ "สตาฟทีมชาติไทย" ด้วยการพักงาน 1 ปี กลายเป็นประเด็นที่ถูกต้้งคำถามกลับไปยัง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่เห็นว่าการลงโทษดังกล่าวเบาไป
"ผมไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษที่ออกมา อยากให้สมาคมกีฬาฟุตบอล ได้พิจารณาในรายละเอียดมากกว่านี้ จริงอยู่ที่คณะกรรมการสอบสวนเห็นควรให้พักงาน 1 ปี และเสนอผลกลับไปยัง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แต่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็สามารถที่จะนำทบทวนได้ อยากให้พิจารณาถึงความรู้สึกของสังคมด้วย มากกว่าการที่จะมองในมุมของการทำงานในภาคสนาม เพราะการไปทำหน้าที่ของบุคลากรทุกคนในนามทีมชาติไทย คือการใช้เงินงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐ " ชาญวิทย์ ระบุ
- เฮดโค้ชต้องแสดงอออกมากกว่านี้
ดำรงศักดิ์ บุญม่วง หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลนอร์ทกรุงเทพ เอฟซี สโมสรฟุตบอลในลีกอาชีพไทยลีก 3 ให้สัมภาษณ์กับ " คมชัดลึก"ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทีมชาติไทย หากหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ออกมาแสดงความผิดชอบต่อเหตุการณ์มากกว่านี้ ภาพที่ออกมาจะลดทอนบรรยากาศที่มีต่อทีมชาติไทย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียง ยุทธนา หยิมการุณ ผู้อำนวยการทีมชาติไทย ที่ขอลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการทีมชาติไทย และมีบทลงโทษตามมากับสตาฟทีมชาติไทย ในขณะที่ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่จะแสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำ ที่มาจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่เป็นรูปธรรมเลย ท่ามกลางวิกฤตความเสื่อมเสียชื่อเสียงที่เกิดขึ้น
" การทำงานของผมกับสโมสรนอร์ทกรุงเทพ ผมเป็นคนเลือกทุกคนเข้ามา เพื่อร่วมทำหน้าที่สตาฟ เลือกนักฟุตบอลเข้ามาเพื่อสร้างทีม ดังนั้นหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผมจะเป็นคนแรกที่ออกหน้าเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ผมไม่ได้ปกป้องความผิด แต่ผมต้องการทำให้ทุกคนรับรู้ว่า ด้วยการเป็นผู้นำทีม ผมจะแสดงออก ผมจะไม่นิ่งเฉย ผมเป็นคนเลือกเพื่อนร่วมงานมาเป็นสตาฟ ผมเป็นคนเลือกนักฟุตบอลเข้ามา ดังน้้นผมพร้อมจะทำอะไรที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ทุกคนรับรู้ว่า ผมเสียใจและตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่การวิวาทในสนามแบบตัวต่อตัว แต่เป็นการร่วมตะลุมบอน " ดำรงศักดิ์ ระบุ
- ยกนิ้วผอ.ทีมชาติไทยลาออกลดกระแส
สันติ ทรงเต๊ะ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอล เอ็มโอเอฟศุลกากรยูไนเต็ด ทีมในลีกฟุตบอลอาชีพไทยลีก 2 ให้สัมภาษณ์กับ "คมชัดลึก" ว่า ขอเป็นกำลังใจไปถึง ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ฟุตบอลทีมชาติไทย ในกีฬาซีเกมส์ ด้วยการประกาศลาออก ต่อการทำหน้าที่ ผู้อำนวยการฟุตบอลทีมชาติไทย การเลือกแนวทางดังกล่าว ถือเป็นการลดกระแสของสังคม ที่มีต่อทีมชาติไทยจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทลงไปบ้าง ทำให้เห็นถึงภาวะของบุคคลที่เป็นผู้นำ ที่พร้อมจะแสดงออกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ส่วนบทลงโทษความเหมาะสม ในเงื่อนระยะเวลา 1 ปี จะเหมาะหรือไม่นั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ต้องทำเรื่องนี้ให้สังคมรับรู้ว่า ที่ผ่านมาวางบทลงโทษไว้อย่างไร หากเกิดกรณีบุคคลที่ทำงานในนามทีมชาติไทยก่อเรื่องดังกล่าวขึ้น เพราะหากมีกรอบการลงโทษที่ชัดเจนว่าแนวทางเป็นแบบนี้ ก็คงจะลดทอนกระแสความรู้สึกของสังคม ที่มีต่อภาพลักษณ์ของทีมชาติไทยลงไป ตราบใดที่เรื่องนี้ไม่มีความกระจ่าง การตั้งข้อสังเกตุถึงความเหมาะสมในเรื่องของบทลงโทษ ก็จะกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์ไม่รู้จบ เขา กล่าว
เหตุทะเลาะวิวาทในการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์นัดชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย - ทีมชาติอินโดนีเซีย