เทียบอัดฉีด 'ฟุตบอล-วอลเลย์บอล' คว้าแชมป์ นักกีฬายิ้มรับทรัพย์
เทียบเงินอัดฉีด 2 กีฬามหาชนชาวไทย ฟุตบอลทีมชาติไทย ที่คว้าแชมป์อาเซียน 2022 สมัยที่ 7 และ วอลเลย์บอลหญิง ที่ล่าสุดคว้าแชมป์เอเชีย 2023 สมัยที่ 3 กับเงินรางวัลที่ได้รับ
"วอลเลย์บอลหญิง" ทีมชาติไทย สร้างผลงานด้วยการ ล้ม ทีมชาติจีน อย่างสุดมัน 3-2 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์วอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่จังนครราชสีมา ส่งผลให้เป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ โดยมีการเปิดเผยยอดเงินรางวัลอัดฉีด ที่ทัพตบลูกยางสาวไทยจะได้รับ
ทั้งนี้ภายในปี 2023 ที่ผ่านมา ทัพนักกีฬาไทย ในชนิดกีฬาต่าง ๆ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถคว้ารางวัลกลับมาได้หลายประเภท แต่ วันนี้ "คมชัดลึก" ได้ทำการเทียบ 2 ชนิดกีฬามหาชนที่ชาวไทยให้ความสนใจมากที่สุด ทั้ง ฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
โดยล่าสุดกับการคว้าแชมป์ของ "วอลเลย์บอลหญิง" ทีมชาติไทย ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ศึก ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่จังหวัดนครราชสีมา มีชาติเข้าร่วมทั้งหมด 14 ประเทศ ประกอบด้วย มองโกเลีย , ออสเตรเลีย , อินเดีย , อิหร่าน , ญี่ปุ่น , เกาหลีใต้ , ไต้หวัน , อุซเบกิสถาน , เวียดนาม , คาซัคสถาน , ฮ่องกง , จีน , ฟิลิปปินส์ และ ไทย (เจ้าภาพ)
ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์การแข่งขันระดับนานาชาติ (ที่ส่งแข่งขันโดยใช้คำว่า แห่งประเทศไทย) ในระดับชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย หากคว้าเหรียญทองจะได้เงินรางวัล 600,000 บาท , เหรียญเงิน ได้เงินรางวัล 400,000 บาท และเหรียญทองแดง ได้เงินรางวัล 200,000 บาท
ดังนั้น เบื้องต้นหากนับเฉพาะเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพียงอย่างเดียว ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยชุดนี้จะได้รับเงินรางวัลตกคนละ 600,000 บาท (หกแสนบาท) รวมทั้งหมด 14 คน เป็นเงินทั้งหมด 8,400,000 บาท โดยที่ยังไม่นับรวมกับเงินรางวัลที่สมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จะได้รับ 30 เปอร์เซ็นต์ และ เจ้าหน้าที่ทีมโค้ชจะได้รับอีกจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ จากกองทุนอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีจากสเปอนเซอร์ เครื่องดื่ม เอส โคล่า และ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ ยูบีอี ได้มอบเงินโบนัสสนับสนุนแด่สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยจำนวนคนละ 1,000,000 บาท รวมไป 2,000,000 บาท
ทางด้าน ฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เมื่อต้นปีที่ผ่านมากับการ คว้าแชมป์ ฟุตบอล รายการ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริค คัพ 2022 ที่ผ่านมา โดยปรากฎว่า ช้างศึก ทีมชาติไทย เอาชนะ เวียดนาม สกอร์รวม 2 นัด 3-2 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 7 ได้สำเร็จ
โดยมีการเปิดเผยถึงจำนวนยอดเงินอัดฉีดทั้งหมด 35 ล้านบาท แบ่งเป็น 300,000 เหรียญสหรัฐจากการแข่ง (ราว 20 ล้านบาท) , มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย เงินอักฉีด จากการเข้ารอบแรก 5 ล้านบาท , รอบรองชนะเลิศ 5 ล้านบาท และ รอบชิงชนะเลิศ อีก 10 ล้านบาท รวมถึง พลตํารวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย 5 ล้านบาท จึงรวมเป็น 35 ล้านบาท