"แม่ปุก" ภูมิใจ "วิว กุลวุฒิ" มาไกลเกินเป้า มองอีก 4 ปีข้างหน้า อาจเป็นของเรา
แม่ปุก บ้านทองหยอด สุดภูมิใจ "วิว กุลวุฒิ" ครั้งนี้มาไกลเกินเป้า วันนี้ถือว่าได้กำไรแล้ว มองอีก 4 ปีข้างหน้า อาจเป็นของเรา ชมลูกชาย "โค้ชเป้" เสียสละเวลากับครอบครัวเพื่อทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ
การแข่งขัน แบดมินตัน โอลิมปิก 2024 ชายเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศ จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา โดยผลการแข่งขัน ปรากฎว่า "วิว กุลวุฒิ" พ่ายให้กับ มืออันดับ 8 โลก พ่าย วิคเตอร์ อเซลเซน มืออันดับ 2 โลก 2-0 เกม ด้วยแต้ม 11 - 21 และ 11 - 21
โดย แม่ปุก - กมลา ทองกร ผู้ก่อตั้งและประธานโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ได้เปิดใจหลังจบการแข่งขันว่า น้องทำเต็มที่แล้ว วันนี้ยังไม่ใช่วันของวิวจริงๆ เพราะวิคเตอร์ตีดีมากๆ เขาเล่นไม่มีเปอร์เซ็นต์เสียเลย กลับกันที่วิวใจร้อนกว่า วิวอาจจะมีความตั้งใจที่อยากจะได้มากเกินไป ลูกที่บางทีที่อยู่ในคอร์ด ที่ควรจะได้แต้ม กลับกลายเป็นเสียแต้ม แต่มาถึงตรงนี้ได้ก็เต็มที่แล้วและเขาพยายามทำดีที่สุดแล้ว ส่วน วิคเตอร์ ก็สมกับแชมป์มาก เพราะเค้าตีดีมาก แทบจะไม่มีช่องให้วิวได้ลุ้นทำคะแนนเลย เราไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เหรียญทองมา เพราะเราต้องเผื่อใจเอาไว้
การแข่งในครั้งนี้ ถือว่า "วิวมาไกลแล้ว มันเกินเป้าของเรา และวิวมากๆ แล้ว รู้สึกภูมิใจมากๆ มองว่าวันนี้ถือว่าได้กำไรแล้ว จะได้จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับวาสนาของเราในวันนี้ ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน" พร้อมขอชื่นชม วิคเตอร์ ในการเล่น เพราะเราไม่สามารถเจาะช่องการเล่นได้เลย ยิ่งดูยิ่งตัน อีกฝ่ายทำการบ้านมาดีมาก ในขณะที่เราเองก็วางแผนเหมือนกัน แต่ว่ามันเป็นไปตามแผน เกมเราวันนี้จะใจร้อนกว่าเขา
แม่ปุก ยังบอกอีกว่า บ้านทองหยอด เองก็รู้สึกดีใจที่สามารถปั้นนักกีฬาแบดมินตันไทยไปคว้าเหรียญโอลิมปิกกลับมาได้ "มันทำให้เรารู้ว่าอีก 4 ปีหน้า ก็ยังจะมีความหวังอีก ยังไม่หมดหวัง วันนี้เรามาชิงเพียงแค่ครั้งแรก ถ้าหากครั้งหน้า เราได้มาชิงอีก ก็อาจจะเป็นวันของเราก็ได้"
ที่ผ่านมาวิวตั้งแต่มาอยู่ที่ บ้านทองหยอด เขาไม่เคยทำอะไรให้หนักใจในเรื่องของวินัยของเขาเลยเพราะน้องมีความมุ่งมั่นในทุกวัน ไม่มีข้อติให้เขาเลย เขาตั้งเป้าของเขา และมาถึงวันนี้ เราก็ควรจะพอใจในระดับนี้ แต่ถ้าหากว่าน้องอยากได้มากกว่านี้ ให้ถึงโอลิมปิกครั้งหน้า เราก็มีเวลาให้น้องได้เรียนรู้ประสบการณ์ อีก 4 ปีมองว่าในอนาคตข้างหน้า ประสบการณ์ก็จะมากกว่านี้สภาพจิตใจทนต่อความกดดันได้มากกว่านี้ ในอนาคตน้องก็ต้องใจเย็นกว่านี้
หลังจากกลับมาแล้ว จะดูแลน้องอย่างไรนั้น มองว่าในอนาคต เราก็ต้องเต็มที่กับการดูแลร่างกายของน้องวิวส่วนเรื่องสภาพจิตใจ ตนไม่ได้คิดว่ามันเป็นปัญหา และไม่ได้คิดว่าอะไรที่เป็นปัญหาเลยแต่ต้องรอดูว่าอีก 4 ปีข้างหน้า น้องยังคงมุ่งมั่นแบบนี้อีกหรือไม่
"อยากส่งกำลังใจให้ทุกคนทุกคนทำดีที่สุดแล้วทุ่มเทก่อนไป ส่วน โค้ชเป้ (ลูกชาย) เสียสละเวลาที่อยู่กับครอบครัวมาเพื่อทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ ได้เหรียญเงินมามันถือว่ายากเย็นมากสำหรับวงการ แบดมินตัน ของไทย มาถึงตรงนี้แล้วทุกคนก็น่าจะมีกำลังใจอีกเยอะ"
นอกจากนี้ บ้านทองหยอด ยังได้พาน้องนักเรียนแบดมินตันมาดูการแข่งขันของน้องวิวด้วย ซึ่งมองว่า เพราะต้องการให้เขารู้ว่าการแข่งขันกีฬาในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแมตช์ใหญ่หรือแมตช์เล็ก ต้องเรียนรู้ว่ามีทั้งความสมหวังและผิดหวัง วันนี้เราเตรียมตัวมาเชียร์วิวเต็มที่ แม้จะไม่ได้ทำได้อย่างที่ทุกคนหวัง แต่นี่คือกีฬา มีทั้งแพ้และชนะ มีทั้งสมหวังและผิดหวัง ต้องให้น้องน้องนักกีฬาเข้าใจการเล่นกีฬามากขึ้น เชื่อว่าการที่มาเชียร์น้องวิวในแมตช์นี้ น้องก็ได้ประสบการณ์เยอะมากขึ้นแล้ว เพราะพี่วิวถือเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬา แบดมินตัน ของทุกคน
และหลังจากนี้ วิว จะกลับมาถึงไทยช่วงเช้ามืดวันที่ 7 ส.ค. ก็คงจะไปรับที่สนามบินและมากินเลี้ยงกันเล็กๆ ใน บ้านทองหยอด เพราะยังไงเราก็ภูมิใจและดีใจกับน้องแล้วเท่านี่ก็มาเกินเป้าแล้ว ซึ่งน้องๆ นักกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอด ก็ยังส่งกำลังใจไปให้ วิว กุลวุฒิ กันด้วยแม้จะไม่ได้เหรียญทองก็ตาม
ภาพ : Banthongyord Badminton School