ข่าว

บ้านทองหยอด โรงงานขนมหวาน สู่โรงงานเจียระไน นักแบดมินตันอาชีพ มือต้นของโลก

บ้านทองหยอด โรงงานขนมหวาน สู่โรงงานเจียระไน นักแบดมินตันอาชีพ มือต้นของโลก

06 ส.ค. 2567

โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด จากโรงงานขนมหวาน สู่ โรงงานเจียระไน นักแบดมินตันมืออาชีพ ผู้คว้ารางวัลระดับโลก

บ้านทองหยอด แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียง "โรงงานขนมหวาน" ส่งขายตลาดใกล้เคียง ติดแบรนด์ตัวเองบ้าง แบรนด์คนอื่นที่ซื้อไปบ้าง ก่อนจะเริ่มกลายเป็นที่รู้จักและส่งขนมขายทั่วประเทศใต้ชื่อแบรนด์ "บ้านทองหยอด"

 

ความชื่นชอบในการเล่นแบดมินตันของ คุณกมลา ทองกร เจ้าของโรงงาน "บ้านทองหยอด" เธอจึงอยากมี "คอร์ตแบดมินตัน" เป็นของตัวเอง ให้ลูก ๆ หลาน ๆ ของเธอได้มีพื้นที่ในการเล่นแบดมินตัน 

 

ธุรกิจ ขนมหวานของ คุณกมลา ดำเนินไปได้อย่างไม่ติดขัด แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนชอบกีฬาแบดมินตัน ตั้งแต่เป็นเด็ก แต่ไม่มีโอกาสได้เล่นหรือซ้อม เพราะตอนเด็กเป็นครอบครัวที่ยากจน 

 

"เพราะเด็กๆเราเป็นครอบครัวที่ยากจน เราเลยต้องทำงานตั้งแต่เด็กๆ พอว่างหลังเลิกงานค่อยได้เล่น" คุณกมลา กล่าว

 

คุณกมลา กล่าวอีกว่า ในช่วงชีวิตที่เริ่มมีเวลา งานเริ่มอยู่ตัว มีเวลาเราก็ไปเล่นแบดกับครอบครัวและพาลูกๆไปเล่นด้วย พอเห็นคอร์ตข้างๆมีโค้ชสอนเป็นเรื่องราว เราเลยให้ลูกไปเรียนอย่างถูกต้อง นั่นคือจุดเริ่มต้นค่ะ

 

โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด

ชมรมแบดมินตันบ้านทองหยอด

 

ปี 2534 "ชมรมแบดมินตันบ้านทองหยอด" ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการด้วยความตั้งใจที่อยากจะให้ลูก เพื่อน ๆ ของลูก มาเล่นแบดมินตัน ของคุณกมลา ก่อนจะขึ้นทะเบียนเป็น สมาชิกสามัญของสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ 

 

ส่วนที่มาของชื่อ "ชมรมแบดมินตันบ้านทองหยอด" เนื่องจากเป็นธุรกิจของคุณกมลาเอง

 

ในช่วงเริ่มตัน ชมรมแบดมินตันบ้านทองหยอด มีเเพียง 1 สนาม และนักกีฬาเพียง 4 คน โดยมีอาจารย์พรโรจน์ บัณฑิตพิสุทธิ เป็นผู้ฝึกสอน จนกระทั่งนักกีฬาเริ่มมีผลงานสามารถเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ในปีถัดมาอาจารย์พรโรจน์ มีความจำเป็นต้องย้ายราชการครูไปสอนที่จังหวัดกระบี่ จึงได้แนะนำให้หาโค้ชมืออาชีพที่สามารถทำงานได้เต็มเวลา

 

ทางชมรมฯจึงได้ติดต่อสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ และก็ได้โค้ช  Mr.Xie Zhihua (จื่อ หัว เซี่ย) มาช่วยฝึกสอน 

 

ต่อมาเริ่มมีนักกีฬามาเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทางชมรมฯ ได้ย้ายมาสอนที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี และสอนได้อีกประมาณ 4 ปี จำนวนสนามเริ่มไม่พอกับจำนวนนักกีฬา

 

ชมรมแบดมินตันบ้านทองหยอด สู่ โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด

 

โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ก่อตั้งขึ้นในปี 2546 โดยคุณกมลา ได้ลงทุนสร้างด้วยเงินรวมทุกอย่างที่ 100 ล้านบาท 

 

ในช่วงแรกของการเปิด โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากนัก แม้จะมีการเข้ามาของ นักเรียนทุนโดยมีสปอนเซอร์เข้ามาดูแลบ้าง แต่การส่งนักแบดมินตันไปแข่งในเวทีระดับนานาชาติ (ต่างประเทศ) ยังเป็นแบบจำกัด

 

กระทั่ง เมย์ รัชนก อินทนนท์ สามารถคว้าชมป์โลก แบดมินตันหญิงเดี่ยวในปี 2013 ทำให้ แบดมินตัน กลายเป็นกระแสฟีเวอร์ทั่วประเทศ รวมไปถึงการเป็นที่รู้จักของโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดด้วย 

 

ชื่อของบ้านทองหยอด คือหมุดหมายของนักแบดมินตันทุกคนที่อยากมาเรียนที่นี่ เพราะคำว่าอยากเป็นแชมป์โลกเหมือน "พี่เมย์"

 

  • โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด

 

รายได้ที่เข้ามากับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปอย่างคุ้มค่า

 

ปัจจุบันโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด มีเด็ก ๆ ที่เข้ามาเรียนในสังกัดประมาณ 300 คน มีทั้งแบบเสียเงิน กับนักกีฬาทุน (ได้เรียนฟรี+ที่พัก) 

 

สำหรับคนที่ไม่ใช่นักกีฬาทุนจะมีค่าใช้จ่าย เดือนละ 8,000 บาท แต่หากใครเรียนแบบพักที่อะคาเดมี่ด้วยเลยก็จะเป็นเดือนละ 12,000 บาท 

 

คิดเป็นตัวเลขกลมๆ เดือนละ 300 คน เฉลี่ยคนละ 10,000 บาท ต่อเดือน ทางบ้านทองหยอดจะมีรายได้ตรงนี้เข้ามาเดือนละ 3 ล้านบาท หรือตกปีละ 36 ล้านบาท

 

ซึ่งคุณกมลา ทองกร เสริมว่า หากย้อนไปช่วงหลังจากเมย์ได้แชมป์โลก ตอนนั้นพีคกว่านี้ รายได้ตกปีละ เกือบ 60 ล้านบาท

 

เมย์ รัชนก

 

"แต่เงินจำนวนเหล่านั้น แทบจะเทียบไม่ได้เลยกับการปั้นนักกีฬา 1 คนเพื่อให้โตไปบนเส้นทางอาชีพ หรือก้าวไปในระดับโลก เพราะต้องมีโค้ช มีนักวิทยาศาสตร์การกีฬาส่วนตัว มีนักกายภาพ ตามติดไปด้วยเวลาไปแข่งต่างประเทศ เฉลี่ยแล้วนักกีฬา 1 คนจะมีค่าใช้จ่ายเดือนละเกือบ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว" กมลา ทองกร อธิบายถึงนักกีฬาและค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายไป

 

อย่างไรก็ตามเธอย้ำว่า เงินเหล่านี้ที่จ่ายไป ทองบ้านทองหยอดเต็มใจส่งต่อให้นักกีฬา ต่อนักกีฬาพวกนี้ไม่มีเงินเดือนอยู่แล้ว ส่วนเงินรางวัลที่พวกเขาได้มาจากการแข่งขัน ก็เก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวไป ทางบ้านทองหยอดไม่ได้หักเข้ากระเป๋า จะมีเพียงนักฬาจะแบ่งเงินเข้ากองทุนบ้านทองหยอดเป็นเงิน 10% เพื่อเอาเงินจากกองทุนเหล่านี้ ไปส่งต่อให้นักกีฬาเด็กๆเบยาวชนรุ่นต่อไปให้ได้มีโอกาสเรียน แข่งแบดมินตัน ทั้งระดับประเทศ และระดับนานาชาติ เหมือนรุ่นพี่ของพวกเขาเคยได้ประสบการณ์เหล่านี้มาแล้ว

 

"ถ้าคุ้มทุนที่ลงไปนี่ยังหรอกค่ะ แต่เราได้สถานที่ตรงนี้ขึ้นมา อย่าลืมว่าสิ่งที่ได้มาเราเอาไปส่งเสริมเด็กขึ้นมา เงินรายได้ก็หมุนเวียนเป็นวัฏจักร ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น หากถามว่าเราได้ทุนที่ลงไปคืนมาหรือยัง มันคงไม่ได้หรอก เราเน้นไปที่การลงทุนเพื่อการกีฬาและสร้างเด็กขึ้นมา เราส่งเด็กไปแข่ง 20-30 คน ใช่ว่าเราจะได้ผู้เล่นที่โดดเด่นเป็นเพชรเม็ดงามขึ้นมาเลย แต่ถ้าเราไม่ลงทุน เราก็จะไม่เจอเด็กที่เก่งขึ้นมาเลย"

 

โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด โรงงานเจียระไน นักแบดระดับโลก 

 

ปัจจุบันโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด สร้างนักแบดมินตันชาวไทยก้าวไปเป็นแชมป์โลกได้ถึง 2 คน นั่นคือ 

 

  • "เมย์" รัชนก อินทนนท์ ที่เป็นแชมป์โลกแบดมินตันหญิงเดี่ยวเมื่อปี 2013
  • และคนที่ 2 คือ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยวที่ได้แชมป์โลกเมื่อต้นเดือน กันยายนของ 2023 และล่าสุดสามารถคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขัน แบดมินตันชายเดี่ยว โอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ได้สำเร็จ และเป็นการเปิดหน้าประวัติศาตร์ให้กับทัพนักกีฬาแบดมินตันไทยอีกด้วย 
     
  • บ้านทองหยอด โรงงานขนมหวาน สู่โรงงานเจียระไน นักแบดมินตันอาชีพ มือต้นของโลก