วันนี้ในอดีต

วันนี้ในอดีต 11 ส.ค. 2544  น้ำป่า-โคลนถล่ม ‘บ้านน้ำก้อ’ 

วันนี้ในอดีต 11 ส.ค. 2544  น้ำป่า-โคลนถล่ม ‘บ้านน้ำก้อ’ 

11 ส.ค. 2560

วันนี้ในอดีต 11 ส.ค. 2544 เกิดน้ำป่าและโคลนถล่ม บ้านน้ำก้อ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์  พัดพาบ้านหายไปทั้งหลัง ทำให้ผู้เสียชีวิตถึง 136 คน

            วันนี้ในอดีต 11 ส.ค. 2544 เวลา 03.00 น. หลังจากฝนตกอย่างหนักราวกับฟ้ารั่ว ที่บ้านน้ำก้อ ตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เกิดกระแสน้ำป่าอันเชี่ยวกราก พัดเอาบ้านที่อยู่ในรัศมีทางน้ำของชาวบ้านที่กำลังนอนหลับใหล พัดหายไปทั้งหลัง ทั้งหมู่บ้านราบเป็นหน้ากลอง ด้วยฤทธิ์น้ำป่าที่หอบเอามาทั้งดินโคลน และซากต้นไม้ กิ่งไม้ อย่างถอนรากถอนโคน เช้าวันรุ่งขึ้นทางการพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยเข้าเคลียร์พื้นที่ สิ่งที่พบเห็นล้วนเป็นภาพแห่งความสลดหดหู่ เพราะมีแต่ซากปรักหักพัง และถูกทับด้วยต้นไม้ กิ่งไม้ และดินโคลน และเต็มไปด้วยศพ นับรวมเป็นจำนวนมากมายถึง 136 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 109 คน สูญหาย 4 คน  บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 188 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 441 หลัง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 645 ล้านบาท 

             ทั้งนี้สาเหตุ ที่เหตุการณ์ที่บ้านน้ำก้อ มีความรุนแรง ก็เพราะมีการสร้างชุมชนซึ่งอยู่ห่างจากไหลเขาเพียงไม่กี่กิโลเมตรและห่างจากช่องเขาน้ำก้อใหญ่ตัดกับเขาวังบาน เพียง 2.5กิโลเมตร ดังนั้นเมื่อเกิดการพังทะลายของลาดเขาโดยเฉพาะเขาน้ำก้อใหญ่ ปริมาณน้ำหลากผสมโคลนต้นไม้ ตอไม้  จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 6- 10นาทีก็จะถึงบริเวณหมู่บ้าน ซึ่งความเร็วของโคลนดังกล่าวมีประมาณ 4 - 6 ม./วินาทีดังนั้นชาวบ้านจึงไม่มีเวลาเตรียมตัวได้ทัน ประกอบกับเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณตี3ซึ่งเป็นเวลาหลับนอนอย่างสนิทความสูญเสียจึงมาก และแรงกระแทกที่กระทบต่อเสาอาคารบ้านเรือน พบว่าด้วยความเร็วของสายน้ำและโคลนดังกล่าวและด้วยความหนาหรือความลึกของชั้นโคลนประมาณ1เมตร แรงกระแทกมีไม่ต่ำกว่า1ตัน โครงสร้างอาคารจึงไม่สามารถต้านแรงกระแทกน้ำได้

             หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านน้ำก้อ ได้คืนผืนป่าให้กับธรรมชาติ โดยการทำเกษตรกรรมของชาวบ้าน จะเป็นการทำนา ทำใบยาสูบ ปลูกข้าวโพด พืชผัก ไม่มีการตัดไม้ ทำลายป่า ไม่มีการทำไร่เลื่อนลอย และปัจจุบันหมู่บ้านน้ำก้อ  ยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง เพื่อรองรับน้ำจากเขาด้านบน และมีหอเตือนภัยในชุมชน แจ้งเหตุ เพราะหมู่บ้านน้ำก้อ เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากน้ำป่าและโคลนถล่ม และชาวบ้านน้ำก้อ จะตื่นตัวและเตรียมพร้อมระวังเหตุทุกครั้งเมื่อฤดูฝนมาถึง