
6 เม.ย. 2538 คนไทยช็อคซ้ำ อุบัติเหตุคร่าชีวิต 'โจ้ นิสา'
#วันนี้ในอดีต คอลัมน์วาไรตี้ประวัติศาสตร์ที่ควรแค่การความทรงจำ
****************************
ถ้าพูดถึงนางเอกไทยที่หน้าหวานสมความเป็นหญิงไทยที่สุดคนหนึ่ง คนรุ่นหนึ่งจะต้องนึกถึง “โจ้ นิสา วงศ์วัฒน์”
แต่น่าเสียดายที่วันนี้ของเมื่อ 25 ปีก่อน ตรงกับวันที่ 6 เมษายน 2538 โจ้ นิสา ต้องมาจากไปก่อนวัยอันควรจากอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำชนเสาไฟฟ้าบริเวณโค้งบนถนนรัชดาภิเษกหน้าศาลอาญา หรือที่หลายคนเรียกว่าโค้ง 100 ศพ
วันนี้เรามารำลึกถึงนางเอกคนนี้กันอีกครั้ง
นิสา วงวัฒน์ หรือมีชื่อจริงว่า “วณิชยา วงศ์วัฒน์” ชื่อเล่น “โจ้” เกิดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2510 เป็นนักแสดงหญิงชาวไทย มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา
โจ้มีพี่น้อง 8 คน จบการศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรกรรม จ. ฉะเชิงเทรา จากนั้นมาเรียนต่อที่มหาวิยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ
แต่เรียนได้พักเดียวก็ต้องหยุดไป เพราะมีงานเดินแบบ งานละครมากมาย เธอเลยเลือกที่จะหารายได้ตรงนี้ก่อน แต่มีข้อมูลว่ากว่าที่เธอจะเข้าวงการเธอทำงานมาหลายอย่าง อย่างการพับถุงกระดาษขายก็เคยทำมาแล้ว
นอกจากนี้เพื่อนๆ ในวงการยังพูดตรงกันว่า โจ้เป็นคนพูดตรง เป็นลูกกตัญญู เลี้ยงดูครอบครัว โจ้เริ่มงานในวงการบันเทิงจากผลงานภาพยนตร์จอเงินแนวบู๊ซึ่งสร้างโดยคุณเทอด ดาวไท (ป้อมเพชร)ในปี พ.ศ. 2529
โดยแรกเริ่มใช้ชื่อในวงการว่า วชิรา วงศ์วัฒน์ ส่วนใหญ่คู่กับสรพงษ์ ชาตรี อาทิ เช่นเรื่อง ตามฆ่า, ยิงทิ้ง, ลายพาดกลอน, เดนมนุษย์, พระรามทรงปืน ฯลฯ ต่อมาเปลี่ยนชื่อในวงการว่า นิสา วงศ์วัฒน์ และทิ้งท้ายกับภาพยนตร์จอเงินเรื่อง โหดตามสั่ง คู่กับพันนา ฤทธิไกร โดยทั้งหมดส่วนมากดจ้ รับบทเเฟนพระเอก บทรอง ไม่ได้เด่นมาก
ต่อมาราวปี 2531 จึงเริ่มมีผลงานละครเรื่องแรกคือ ธิดาดาวดำ ทางช่อง 3 จนกระทั่งมามีละครในปี 2532-2533 เช่น เจ้าสาวครึ่งคืน ทางช่อง 9 ซึ่งเป็นดราม่าที่โจ้มีบทร้องไห้เยอะมาก
มาพีคสุดๆ ในปี 2533 กับเรื่อง “เพลิงพ่าย” ที่เล่นเป็น เวฬุรีย์ แฝดผู้น้องที่มีความเก็บกดและอิจฉาพี่สาวของตนเป็นอย่างมาก ละครเรื่องนี้เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งให้โจ้มีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้น โจ้เคยให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้ยากและท้าทาย ภูมิใจมากที่ได้เล่นบทนี้จนคนเกลียดทั้งบ้าน ทั้งเมือง
และยังผลงานสร้างชื่อเรื่องอื่นๆ เช่น แม่ผัวมหาภัย กับ สะใภ้สารพัดพิษ, พ่อปลาไหล แม่พังพอน ,สายเลือดเดียวกัน, สะใภ้, สกุลกา, ชลาลัย, พ่อปลาไหลแม่พังพอน(ละครคอมมิดี้), เจ้าจอม, เมียนอกกฎหมาย, เหลี่ยมลูกไม้, อีเปรี้ยวตลาดแตก, ภูตสาวเจ้าเสน่ห์(กลับมาเป็นนางเอกอีกครั้ง) และฝากผลงานเรื่องสุดท้ายไว้กับ “สาวรำวง” ก่อนจะเสียชีวิตไปในวัย 28 ปี
ละครสะไภ้
อย่างไรก็ดี ช่วงหนึ่งมีกระแสข่าวว่าโจ้เบื่อวงการบันเทิง อยากจะทำอย่างอื่น ภายหลังจึงตัดสินใจลงเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม คณะนิเทศศาสตร์ เพราะมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเรียนให้จบปริญญาตรี ต่อมายังไปทำงานประจำเป็นประชาสัมพันธ์ของบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งกับจอย-จามจุรี เชิดโฉมเพื่อนสนิทอีกด้วย
อนึ่ง คนไทยคงไม่ลืมว่า ในปี 2538 ที่โจ้เสียชีวิต วงการบันเทิงไทยไมได้สูญเสียโจ้คนเดียว ปีนั้นมีดาราอีกหลายคนที่ต้องกลับสวรรค์ จนหลายคนเรียกปีนั้นว่าปีแห่งคนตาย
ในปีนั้นมีดาราที่เสียชีวิตเรียงลำดับดังนี้ “ธรรม์ โทณะวณิก” ที่เสียชีวิตจากการโดดคอนโด หนีปัญหาชีวิต วันที่ 19 มีนาคม 2538
ตามด้วย โจ้ “นิสา วงศ์วัฒน์” วันที่ 6 เมษายน 2538 อุบัติเหตุทางรถยนต์ จากนั้นคือ เก๋ “บุญพิทักษ์ จิตต์กระจ่าง” วันที่ 27 ตุลาคม 2538 และ “จอห์น ดีแลน” อุบัติเหตุรถยนต์ไฟคลอกเสียชีวิต วันที่ 1 ธันวาคม 2538
https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/300226
แต่ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าจะพูดถึงความสูญเสียดาราที่จากไปก่อนวัยอันควร หากย้อนไปในปี 2536 คนไทยก็เพิ่งสูญเสีย “ปู วิชชุดา สวนสุวรรณ” มายังไม่ทันหายเศร้ากันเลยด้วยซ้ำ นี่ต้องมาช็อคติดๆ กันในปี 2538 อีก มันน่าสลดใจยิ่ง
https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/357832
และวันนี้หาก โจ้ นิสา วงศ์วัฒน์ ยังมีชีวิตอยู่ ปีนี้เธอจะมีอายุ 53 ปี ขอรำลึกถึงดาวทุกดวงที่กล่าวมา ณ ที่นี้
*********************************