ข่าว

พยากรณ์อากาศวันนี้ 3 พ.ย. 67  เตือนฉบับ 6 ฝนตกหนัก ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย. นี้

พยากรณ์อากาศวันนี้ 3 พ.ย. 67 เตือนฉบับ 6 ฝนตกหนัก ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย. นี้

03 พ.ย. 2567

พยากรณ์อากาศวันนี้ 3 พ.ย. 2567 เตือนฉบับที่ 6 ฝนตกหนักถึงหนักมาก ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย. นี้ ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-2 องศา

พยากรณ์อากาศวันนี้ 3 พ.ย. 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนเรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ ฉบับที่ 6 (255/2567) มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3–6 พฤศจิกายน 2567

 

 

พยากรณ์อากาศวันนี้ 3 พ.ย. 67  เตือนฉบับ 6 ฝนตกหนัก ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย. นี้

 

 

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง 

 

โดยภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลงอีก 1–2 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง

 

 

ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลางและตอนล่าง ประกอบกับในช่วงวันที่ 3–4 พ.ย. 67 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านในบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน

 

 

พยากรณ์อากาศวันนี้ 3 พ.ย. 67  เตือนฉบับ 6 ฝนตกหนัก ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย. นี้

 

 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้

 

ในวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2567 

  • ภาคใต้ : จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา และกระบี่

 

ในวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2567 

  • ภาคใต้ : จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

 

พยากรณ์อากาศวันนี้ตั้งแต่เวลา 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

 

ภาคเหนือ

  • อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส 
  • โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส 
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส 
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

 

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส  
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส 
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 

 

 

ภาคตะวันออก

  • อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากตามแนวชายฝั่งทะเล
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส 
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร 
  • บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

  • อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค 
  • โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
  • บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
  • ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
  • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป : ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร  

 

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

  • มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
  • บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

 

กรุงเทพและปริมณฑล

  • เมฆบางส่วน กับมีลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส 
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 

 

ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา