
เชียงใหม่ ฝุ่นยังวิกฤต เด็ก 7 ขวบ เลือดกำเดาไหลทุกปี ปีนี้หนักสุด
ฝุ่นควันเชียงใหม่ยังไม่พ้นวิกฤติ กระทบสุขภาพ ปชช. โดยเฉพาะเด็กๆ เลือดกำเดาไหล อีกรายภูมิแพ้ผื่นขึ้นเต็มตัว เลือดกำเดาไหลหนักมาก
22 มี.ค. 2568 จากสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันและมลพิษอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ย่ำแย่อย่างต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้ป่วยโรคเรื้อรัง สตรีมีครรภ์ คนแก่และเด็ก ซึ่งพบว่ามีเด็กๆ ที่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมากเกิดอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและเลือดกำเดาไหล เห็นได้จากการแจ้งข้อมูลที่มีการโพสต์เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียทั้งทางเพจเฟซบุ๊กชื่อดังและเฟซบุ๊กส่วนตัว
แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่มีอาการรุนแรงถึงขั้นต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่ย่อมสร้างความกังวลใจเกี่ยวกับผลกระทบสุขภาพในระยะยาว เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
พบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมีเลือดกำเดาไหลพุ่งออกมาจากจมูกเป็นจำนวนมาก จนกระดาษทิชชูที่ใช้ซับเลือดเป็นสีแดงและเลือดยังเปื้อนเสื้อที่สวมใส่ด้วย พร้อมบรรยายข้อความว่า "ฝุ่นควันเชียงใหม่เรียกว่าเลวร้ายหรือเปล่า?.... ก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าวันนี้(19มี.ค.68) พาลูกสาวออกบ้านไปทำงานด้วย แวะนั่งกินข้าวข้างทางเสร็จ พอพาขึ้นรถเท่านั้น......ก็เป็นไปตามที่เห็น เชื่อว่าช่วงนี้คนเชียงใหม่บ้านไหนที่มีเด็กๆ ก็เจอเหมือนกัน #ฝุ่นควัน #ไฟป่า #อากาศสะอาด #เชียงใหม่" ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นห่วงเป็นใยเด็กหญิงเป็นจำนวนมาก
นายชัย (นามสมมติ) ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ลูกสาวของตัวเองชื่อน้องมะนาว อายุ 7 ปี เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเที่ยงวันที่ 19 มี.ค. เชื่อว่าเป็นผลมาจากสถานการณ์ฝุ่นควันและมลพิษอากาศที่คนทั้งจังหวัดเชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดภาคเหนือกำลังเผชิญอยู่อย่างแน่นอน เนื่องจากตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมาสถานการณ์ฝุ่นควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เลวร้ายมาก และทุกๆ ปีในช่วงที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้ ลูกสาวของตัวเองมักจะมีเลือดกำเดาไหลเสมอ ซึ่งปีนี้ตัวเองได้พยายามดูแลและปกป้องลูกสาวอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการให้ทำกิจกรรมอยู่แต่ในบ้านและเพิ่งติดตั้งเครื่องเติมอากาศและเปิดเครื่องฟอกอากาศด้วย
อย่างไรก็ตามในวันที่เกิดเหตุนั้น ตัวเองมีความจำเป็นต้องออกไปธุระที่นัดหมายในตัวเมืองเชียงใหม่และต้องพาลูกสาวไปด้วย ซึ่งระหว่างทางได้จอดรถในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เพื่อแวะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อและกินข้าวกลางวันในร้านอาหารที่อยู่ในปั๊มประมาณ 15 นาที จำเป็นต้องถอดหน้ากากอนามัยที่สวมใส่ และเมื่อเสร็จแล้วได้รีบกลับขึ้นรถยนต์ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่กำลังสตาร์ทรถและจะขับออกไปนั้น ลูกสาวของตัวเองได้ร้องบอกว่า เลือดกำเดาไหล จึงจอดรถดูอาการและพบว่าลูกสาวมีเลือดกำเดาไหลออกมามากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จนเลือดเต็มกระดาษทิชชูที่ใช้ซับและเปื้อนเสื้อผ้า ทำให้ตัวเองต้องรีบพาลูกสาวกลับบ้านและยกเลิกการทำธุระที่นัดหมายไว้
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกสาวของตัวเองไม่ได้ตื่นตกใจ แม้ว่าเลือดกำเดาจะไหลออกมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเนื่องจากคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้พอสมควรเพราะเกิดขึ้นทุกปี แต่สำหรับตัวเองที่เป็นพ่อแล้วยอมรับว่ารู้สึกเป็นห่วงและกังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับสุขภาพของลูกสาว โดยเฉพาะในระยะยาว จากการที่ต้องได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาฝุ่นควันที่จังหวัดเชียงใหม่ต้องเผชิญวิกฤตซ้ำซากเป็นประจำทุกปี เชื่อว่านอกจากลูกสาวของตัวเองแล้ว ยังมีเด็กๆ อีกเป็นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ทราบดีว่าวิกฤติฝุ่นควันไฟป่านั้น เป็นปัญหาใหญ่ที่ยากจะแก้ไขให้หมดสิ้นไปในทันที แต่อยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มุ่งแก้ไขบรรเทาปัญหาด้วยความจริงใจ โดยยึดข้อเท็จจริงและความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ มากกว่าที่จะมัวเป็นห่วงภาพลักษณ์หรือเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ขณะที่ผู้ปกครองอีกท่านเผยลูกสาวเป็นเด็กหญิงอีกคนเกิดผื่นแดงขึ้นเต็มใบหน้าและตามร่างกายซึ่งเป็นเหมือนลักษณะของโรคภูมิแพ้เกิดขึ้น ซึ่งเริ่มเป็นมาตั้งแต่ช่วงวิกฤติคุณภาพอากาศพบว่าเป็นแบนี้ต่เนื่องมากกว่า 1 เดือน เมื่อทานยาแก้แพ้ก็จะหายไป1-2วันก็กลับมาเป็นอีกตอนนี้ต้องทานยาแก้แพ้กันแทบทุกวัน