คอลัมนิสต์

หยุดเกียร์ว่างทันที

หยุดเกียร์ว่างทันที : บทบรรณาธิการวันจันทร์ที่ 19 มกราคม 2558

             อย่างน้อยที่สุด เท่าที่ปรากฏเป็นข่าวก็ 2-3  ครั้งด้วยกัน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงอาการไม่พอใจการทำงานของข้าราชการบางส่วนบางคนที่อยู่ในลักษณะเช้าชามเย็นชาม หรือมากกว่านั้นก็คือ เกียร์ว่าง โดยวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 นายกรัฐมนตรีกล่าวระหว่างการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่า ที่กระทรวงมหาดไทย ตอนหนึ่งว่า “ผมให้แนวทางไปแล้ว ต้อง 1.ทำก่อน ทำทันที คิดมาแล้วทำมา ภายใน 1 เดือน หรือ 3 เดือนก็แล้วแต่ 2.ต้องเห็นผลสัมฤทธิ์ภายใน 1 ปี ด้วยกฎหมายก็ได้ หรืออะไรก็แล้วแต่ แก้มาแล้วก็ส่งต่ออย่างยั่งยืน การส่งต่อจะทำยังไง ทุกคนบอกว่าเสียของ เดี๋ยวก็กลับมาใหม่ แต่ผมไม่กลับมาอยู่แล้ว ยังไงก็กลับมาไม่ได้ มีบางคนพูดมาว่า อดทนไปเถอะ เดี๋ยวหนึ่งปีมันก็ไป เดี๋ยวผมจะย้ายมันตรงนี้ ระวัง ผมมีชื่อแล้วด้วย อย่าพูดคะนองปากแบบนี้อีก ผมโกรธ พูดแบบนี้ไม่ได้ เพราะมันไม่รักประเทศไทย ที่พูดแบบนี้ ไม่ควรเป็นข้าราชการ”
    
              ต่อมา วันที่ 25 ธันวาคม 2557 นายกรัฐมนตรีได้เรียกร้องให้ข้าราชการเร่งเดินหน้าทำงานที่รับผิดชอบตามนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ โดยต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันให้ได้ เลิกคิดถึงวัฒนธรรมองค์กร และร่วมกันขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น "ทุกวันนี้ปัญหาอยู่ที่คน ไม่ได้อยู่ที่ระบบ รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย คิดต่างเห็นต่าง แต่ประเทศชาติเป็นหลัก เวลาของเราใกล้จะหมดแล้ว" นอกจากนี้ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ยังแต่งตั้งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. โดยให้เหตุผลว่า พล.อ.ประวิตร มีความคุ้นเคยกับทหารเป็นอย่างดี และคณะกรรมการก็จะได้ตรวจสอบการทุจริตและการทำงานของราชการว่าเกียร์ว่างหรือไม่
    
              กล่าวสำหรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มานั้น ปัญหาความล่าช้าของการทำงานตามนโยบาย โดยเฉพาะในส่วนของข้าราชการที่มีหน้าที่ขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ มันจะเกิดจากสภาพความเป็นรัฐบาลผสมที่มาจากหลายพรรคการเมืองจนเกิดเป็น "พรรคพวก" ซ้ำร้ายยังมีเรื่องโกงกินเข้ามาบ่อนเซาะ สร้างความเสียหายให้แก่การพัฒนาประเทศอย่างมหาศาล แต่ในความเป็นจริงที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์กำลังประสบอยู่ก็คือ การเผชิญหน้ากับ "พรรคข้าราชการ" ที่สะท้อนผ่านการกระทำของข้าราชการบางกลุ่ม บางคน ซึ่งมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลชั่วคราว อยู่ไม่นาน เช่นนี้แล้ว ยังผลให้งานเก่าถูกแช่แข็งเอาไว้รอรัฐบาลใหม่ ขณะที่งานใหม่ของรัฐบาล คนทำหน้าที่ขับเคลื่อนก็พร้อมใจกันเกียร์ว่าง ซึ่งเป็นปัญหาที่ พล.อ.ประยุทธ์แลเห็นและพยายามกระตุ้นเตือนให้ข้าราชการกลุ่มนั้นเห็นแก่สังคมโดยรวม
    
              ผลกระทบอันเนื่องมาจากสภาพ "เกียร์ว่าง" ของข้าราชการบางกลุ่มบางคน ก็คือปัญหาเศรษฐกิจ ปมใหญ่ประเด็นหนึ่งของประเทศไทยในขณะนี้ก็คือ การเบิกจ่ายงบประมาณไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งๆ ที่เป็นเครื่องจักรใหญ่ที่จะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ เฉพาะอย่างยิ่งสำหรับไตรมาสแรกของปี 2558 ซึ่งต่อเนื่องจากปีงบประมาณมานานหลายเดือนแล้วนี้ รัฐบาลมีหลายแผนงานเพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างน้อย 4% จึงคลอดเมกะโปรเจกท์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ก็ต้องฝากความหวังเอาไว้กับข้าราชการด้วยว่า กลุ่มที่กำลังเกียร์ว่างอยู่นั้น จะต้องหันหน้ากลับมาร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อนำความผาสุกคืนสู่สังคมไทยโดยเร็วที่สุด
 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ