
“ปลัดฯ บุญสงค์” มอบ สปส. ช่วยเหลือลูกจ้าง เหตุรถทัวร์พลิกคว่ำ จ.ปราจีนบุรี
ปลัดฯ บุญสงค์ มอบหมาย สปส. ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือลูกจ้าง เหตุรถทัวร์ดูงานของคณะเทศบาลตำบลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ พลิกคว่ำเสียชีวิต บาดเจ็บหลายราย ที่จังหวัดปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 04.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ของคณะศึกษาดูงานจากสำนักงานเทศบาลตำบลพรเจริญ อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณศาลปู่โทน ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ขณะเดินทางไปดูงานที่จังหวัดระยอง พบว่า มีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บ 30 ราย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใย พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ได้กำชับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านสิทธิประโยชน์ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์รวมประมาณล้านกว่าบาท
ด้าน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมมอบหมายให้ประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรีและประกันสังคมจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พบว่า รถทัวร์ที่ประสบเหตุมีผู้โดยสารทั้งหมด 46 คน เป็นคณะชาวบ้าน เครือข่าย และเจ้าหน้าที่เทศบาล ตำบลพรเจริญ อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ กำลังเดินทางไปศึกษาดูงาน “โครงการพัฒนาศักยภาพและการศึกษาดูงานคณะกรรมการธนาคารขยะหมู่บ้าน” ที่จังหวัดระยอง ขณะเดินทางรถทัวร์คันดังกล่าวได้เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณ ศาลปู่โทน ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย ตรวจสอบพบเป็น
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 เสียชีวิต จำนวน 1 ราย คือ นางสาวอภิญญา บุตรวัง อายุ 34 ปี เป็นลูกจ้างของสำนักงานเทศบาลตำบลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ตำแหน่งผู้ช่วยนักวิชาการสาธารณสุข ทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน ดังนี้ เงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท เงินค่าทดแทนกรณีถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงาน และเงินบำเหน็จชราภาพ รวมทั้งสิ้น 1 ล้านกว่าบาท
- ผู้ประกันตน มาตรา 40 ที่เสียชีวิต จำนวน 2 ราย คือ นางสาวสุจิตตรา วิเศษทรัพย์ อายุ 42 ปีทายาทผู้เสียชีวิตจะได้ตามสิทธิกองทุนประกันสังคม ได้เงินค่าทำศพและบำเหน็จชราภาพ รวมทั้งสิ้นประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท
และนายบุญโฮม จันทร์อ่อน อายุ 58 ปี ทายาทผู้เสียชีวิตจะได้ตามสิทธิกองทุนประกันสังคม ได้เงินค่าทำศพและบำเหน็จชราภาพ รวมทั้งสิ้นประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท
นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33, 39, 40 จำนวน 5 ราย ซึ่งมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคม สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ 30 ราย จากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นประกันตน 3 ราย คือ นางดารุณี ศรีศักดิ์ อายุ 26 ปี เป็นลูกจ้างของสำนักงานเทศบาลตำบลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน ส่วนอีก 2 ราย คือ นายนาวิน ชูปัญญา อายุ 53 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และนางลำภู ศรีบุญเรือง อายุ 51 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ประสบอันตรายไม่เนื่องจากการทำงานจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรีได้ประสานให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งชี้แจงสิทธิประโยชน์ทั้ง 2 กองทุน แก่ทายาทผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บได้รับทราบแล้ว
ในวันเดียวกัน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้มอบหมายให้นางปาริฉัตร จันทร์อำไพ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบของ ณ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี และโรงพยาบาลนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมฝากกำชับไปยังลูกจ้าง ผู้ประกันตนที่ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ หมั่นตรวจสอบความพร้อมของรถอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญอย่าประมาท เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็ขอให้มั่นใจว่า สำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้าง ผู้ประกันตน รวมทั้งทายาทของผู้เสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนในทุกกรณี