อ่านก่อนทำ "เสริมหน้าอก" มีกี่แบบ แบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา
ปัญหาคนหน้าอกเล็กจะหายไป สนใจอยากทำหน้าอก แต่ไม่รู้ทำนมราคาเท่าไหร่ เสริมหน้าอกกี่ccดี ที่นี่ได้รวบรวมคำถามที่สาวๆ สงสัย
ปัญหาคนหน้าอกเล็กจะหายไป เพราะเทคโนโลยีศัลยกรรมปัจจุบันสามารถ "เสริมหน้าอก" ให้มีรูปทรงที่สวย เข้ากับสรีระของคุณผู้หญิงได้อย่างลงตัว สนใจอยากทำหน้าอก แต่ไม่รู้ทำนมราคาเท่าไหร่ เสริมหน้าอกกี่ccดี ที่นี่ได้รวบรวมคำถามที่สาวๆ สงสัยตั้งแต่เสริมอก 300cc ราคาเท่าไหร่? เสริมหน้าอกเจ็บไหม? ทําหน้าอกพักฟื้นกี่วัน? เสริมหน้าอกอยู่ได้กี่ปี? และทำนมที่ไหนดี? ไว้ในบทความนี้แล้ว
ทำนมแบบไหนจึงจะเหมาะกับเรา
ผู้ที่มีความต้องการทำนม ส่วนใหญ่อาจไม่ทราบลักษณะซิลิโคนว่าควรเลือกทำรูปทรงแบบไหนจึงเหมาะกับสรีระของตัวเองมากที่สุด เนื่องจากลักษณะหน้าอกเดิมของแต่ละคนมีปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งก่อนตัดสินใจทำนม ผู้ที่สนใจจึงควรปรึกษาศัลยแพทย์จากสถาบันความงามที่มีมาตรฐาน มีความเชี่ยวชาญด้านการทำหน้าอก เพื่อช่วยให้คำแนะนำในการเลือกซิลิโคน รวมไปถึงการผ่าตัดเสริมหน้าอกให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
ทำนม "เสริมหน้าอก" มีกี่รูปแบบ
ฉีดไขมันหน้าอก
การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง เป็นลักษณะการศัลยกรรมโดยทำการดูดไขมันส่วนเกินจากบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา หรือบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการลด (โดยสามารถใช้ได้ทั้งวิธี ดูดไขมันแบบ Manual หรือ ใช้เครื่องดูดไขมันรุ่น Body-jet ก็ได้ ขึ้นกับปริมาณไขมันที่ต้องการนำออกมา) แล้วนำไขมันส่วนเกินดังกล่าวมาเสริมหน้าอกให้มีรูปทรงอวบอิ่ม เต่งตึง เป็นแบบธรรมชาติ ไม่เป็นพังผืด เห็นผลชัดเจนหลังทำหน้าอกภายใน 1 เดือน
เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน เป็นลักษณะการศัลยกรรมโดยใช้ถุงซิลิโคน ซึ่งซิลิโคนที่ใช้มีหลากหลายแบบได้เลือก ได้แก่ ซิลิโคนแบบผิวเรียบ บางนิ่มเป็นทรงธรรมชาติ , แบบผิวกำมะหยี่ เนื้อนิ่มมีความธรรมชาติมากที่สุด และแบบผิวทราย เนื้อแน่นเน้นทรงตัวได้สมดุล
- โดยซิลิโคนที่กล่าวไปมีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ให้คนไข้เลือกเสริมหน้าอกได้ตามใจชอบ ใครที่ต้องการเสริมหน้าอกทำนมขนาดใหญ่ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกซิลิโคนไซส์ใหญ่ได้ ซึ่งเห็นผลชัดเจนหลังผ่าตัดทำหน้าอกทันที
เสริมหน้าอกไฮบริด
การเสริมหน้าอกแบบไฮบริด เป็นลักษณะการศัลยกรรมโดยใช้วิธีฉีดไขมันหน้าอกร่วมกับการใส่ซิลิโคนสำหรับทำนม ยกตัวอย่างเช่น คนไข้ A อยากเสริมหน้าอก 350cc แพทย์อาจแนะนำให้เสริมหน้าอก 250cc ด้วยการใช้ถุงซิลิโคน ส่วนอีก 150cc ใช้ไขมันส่วนเกินของตัวเอง เห็นผลชัดเจนหลังผ่าตัดทำหน้าอกทันที และจะได้หน้าอกที่เป็นธรรมชาติมาก
"เสริมหน้าอก" มีแผลไหม
หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอกจะมีแผลหลังการผ่าตัด โดยบริเวณที่ทางศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดจะเป็น ช่วงใต้รักแร้ , รอบปานนม หรือใต้ราวนม ซึ่งใต้ราวนมจะเป็นจุดที่แพทย์นิยมผ่าตัดมากที่สุด เนื่องจากใต้ราวนมเป็นจุดอับสายตา มองเห็นแผลไม่ชัด อาการเจ็บปวดน้อยกว่าจุดอื่น และใช้ระยะเวลาพักฟื้นจากการเสริมหน้าอกค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับจุดอื่น ๆ
1. เสริมนมเหนือกล้ามเนื้อ
การเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ ความเจ็บปวดหลังผ่าตัดค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับตำแหน่งอื่น ระยะพักฟื้นน้อย แต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเต้านมเสียทรงผิดรูปได้ง่ายกว่า เช่น ภาวะนมแฝด เห็นรอยซิลิโคนที่ทำนมชัดเจน ผู้ที่กำลังให้นมบุตรไม่ควรเสริมหน้าอกรูปแบบนี้ เนื่องจากน้ำนมอาจปนเปื้อนสารเคมีจากซิลิโคนได้
2. เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ
การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับคนไข้ที่เนื้อหน้าอกน้อย หลังจากทำหน้าอกใต้กล้ามเนื้อจะได้หน้าอกที่มีความเด้งฟู กลมนูนเป็นธรรมชาติ แต่หลังผ่าตัดอาจรู้สึกเจ็บมากกว่า และจะใช้เวลาฟื้นฟูนานกว่าการเสริมหน้าอกในตำแหน่งอื่นเล็กน้อย
3. เสริมนม Dual Plane
การทำนม Dual Plane เป็นเทคนิคผ่าตัดแบบผสมโดยใช้การเสริมหน้าอกแบบเหนือกล้ามเนื้อ และใต้กล้ามเนื้อร่วมกัน ทำให้หลังทำหน้าอกมีรูปทรงที่เต่งตึง มีความเป็นธรรมชาติ ไร้ขอบ ลดโอกาสการเกิดหน้าอกผิดรูป และใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย
เสริมหน้าอกอยู่ได้กี่ปี
เรื่องระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับวิธีการทำนม รูปแบบซิลิโคนที่ใช้ และเทคนิคการทำหน้าอก แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้นวัตกรรมการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน การใส่ซิลิโคน สามารถคงรูปทรงอยู่ไปตลอด
ยกเว้นในกรณีที่คนไข้น้ำหนักขึ้นหรือน้ำหนักลง จะทำให้ทรงที่เสริมหน้าอกเปลี่ยนแปลงไปได้ หรือบางครั้งตัวซิลิโคนอาจเกิดการผิดรูปทรงเป็นริ้วรอย เป็นคลื่น เกิดพังผืด หรือภาวะนมแฝด อาจทำให้คนไข้ต้องผ่าตัดเสริมหน้าอกใหม่
วิธีเตรียมตัวก่อนทำนม
ก่อนทำหน้าอกกับแพทย์ ต้องเตรียมความพร้อม 10 วิธีการ ดังนี้
- ปรึกษาศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญการเสริมหน้าอก เพื่อทราบขั้นตอนการผ่าตัด ผลข้างเคียงหลังผ่าตัด รวมไปถึงการแจ้งโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการทำนม
- นัดตรวจบริเวณหน้าอกด้วย เครื่องตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) และเครื่องอัลตราซาวด์
- งดทานยาจำพวก วิตามิน และงดดื่มของมึนเมา อย่างสุรา งดสูบบุหรี่ ก่อนเสริมหน้าอก 1 เดือน
- ออกกำลังกายตรงส่วนหน้าอกให้แข็งแรง ก่อนเสริมหน้าอก 1 เดือน
- ทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดก่อนทำนม 8 ชั่วโมง
- งดแต่งหน้า ทาครีมบำรุง และใส่เครื่องประดับทุกชนิด
- ตัดเล็บให้เรียบร้อย และล้างสีเล็บ 1 นิ้ว เพื่อให้วิสัญญีแพทย์สังเกตอาการระหว่างทำนม
- วันผ่าตัดเสริมหน้าอก ให้สวมใส่เสื้อผ้าสบายตัว มีกระดุมด้านหน้า ไม่รัดทรวดทรง
- วันผ่าตัดควรพาคนรู้จัก เพื่อน ญาติ มารับกลับบ้านหลังทำหน้าอกเสร็จ
หลังเสริมหน้าอกอาจเกิดอาการเหล่านี้
หลังจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกเสร็จสิ้น ในช่วงระหว่างการพักฟื้นคนไข้จะมีอาการบวมช้ำ แสบร้อน ชา คลื่นไส้ (24 ชั่วโมงแรก) และกล้ามเนื้อแขนอ่อนแรงหลังทำนมได้บ้าง ทำให้คนไข้ที่ทำหน้าอกต้องทานยาบรรเทาอาการเจ็บปวดตามที่แพทย์สั่ง โดยอาการเหล่านี้จะบรรเทาลงเมื่อผ่านเวลาไป 1-2 เดือน
หลังทำนมดูแลตนเองอย่างไรบ้าง
10 วิธีดูแลหลังเสริมหน้าอก มีดังนี้
- งดทำกิจกรรมหนักๆ ขยับตัวให้น้อยที่สุด
- ท่านอนหลังทำหน้าอกควรนอนหงาย ไม่ควรนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง ประมาณ 1 เดือน
- งดอาบน้ำประมาณ 5-7 วัน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวแทน เมื่อเช็ดบริเวณแผลที่ทำนม ต้องซับให้แห้ง
- พันผ้าบริเวณที่เสริมหน้าอกประมาณ 2 สัปดาห์
- สวมใส่สปอร์ตบราสำหรับพยุงหน้าอก งดใส่บราที่มีโครง
- นวดหน้าอกตามที่แพทย์แนะนำ
- งดทานอาหารแสลง ของหมักดอง อาหารทะเล เป็นเวลา 1 เดือน
- ดื่มน้ำเปล่า งดเครื่องดื่มจำพวกคาเฟอีน นม และน้ำอัดลมหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอก ประมาณ 1 เดือน
- ทายาบริเวณแผลที่ถูกผ่าตัดเสริมหน้าอก เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดคีลอยด์
- เข้าพบแพทย์ตามวันที่นัดเป็นประจำเพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ
สรุปเรื่องทำนม
รูปแบบการเสริมหน้าอกในปัจจุบัน สามารถผ่าตัดเสริมได้หลายแบบ ทั้งการใช้ไขมันส่วนเกินของคนไข้เอง
ฉีดเพิ่มเข้าไป และการใช้ซิลิโคนแต่ละรูปแบบตามความต้องการของผู้ที่จะทำหน้าอก เพื่อเสริมหน้าอกให้มีรูปทรงที่เข้ากับสรีระที่ใช่กับตนเอง นอกจากนี้ผู้ที่เข้ารับการเสริมหน้าอกควรดูแลตัวเองหลังจากการเสริมหน้าอกอย่างเคร่งครัด สิ่งนี้จะช่วยทำให้ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดเห็นผลเร็วมากยิ่งขึ้น