ท่อ HDPE คืออะไร ราคาท่อ HDPE และข้อควรรู้ก่อนติดตั้งท่อ | คมชัดลึก

ท่อ HDPE หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า ท่อ PE เป็นท่อที่ผลิตขึ้นจากพลาสติกโพลิเอทิลีน         
HDPE ย่อมาจากคำว่า High Density Polyethylene เรามักเห็นท่อ HDPE ในลักษณะของท่อเส้นสีดำ มันวาว สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบประปา ร้อยสายไฟ ร้อยสายเคเบิ้ล สายโทรศัพท์ เนื่องจากท่อมีคุณสมบัติที่ทนทานและยืดหยุ่น จะงานภายใน ภายนอกอาคาร หรือฝังดินก็สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ ท่อ HDPE ขนาดหลากหลาย สามารถเลือกขนาดและความยาวให้เหมาะสมได้ตามการใช้งาน
 

ท่อ HDPE คืออะไร

ท่อ  HDPE หรือท่อ PE เป็นท่อที่มีคุณสมบัติความแข็งแรง ทนทานต่อการบีบอัด การกระแทก เนื้อท่อมีความหนาแน่น แต่ก็ยืดหยุ่น เพราะผลิตจากพลาสติกโพลิเอทิลีน ทำให้สามารถดัดโค้งงอได้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการวางท่อ ท่อ HDPE ขนาดเริ่มต้น 20-1200 มิลลิเมตร 

ท่อ HDPE เป็นท่อสีดำ พื้นผิวเรียบทั้งด้านนอกและด้านใน มันวาว นิยมใช้งานในงานที่ต้องมีการวางท่อคดเคี้ยวไปมาตามโครงสร้าง เช่น ร้อยสายไฟ ท่อประปา นอกจากนี้ยังมีการนำท่อ HDPE ไปใช้งานกับร้อยสายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ล สายไฟเบอร์ออบติกอีกด้วย เรียกได้ว่าใช้งานได้อย่างหลากหลาย ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วน รวมถึงคุณสมบัติการโค้งงอนี้ ทำให้สามารถจัดเก็บท่อเป็นขดวงกลม จึงยิ่งสะดวกต่อการจัดเก็บ การขนส่งให้ประหยัดพื้นที่และเป็นระเบียบ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกันได้ดี ไม่ทำให้เกิดการรั่วซึม จะใช้กับงานประปาก็หายห่วง

     
นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวมาแล้ว ท่อ HDPE ยังมีจุดเด่นที่การต้านเปลวไฟ ทนต่อรังสียูวีและแสงอาทิตย์ ไม่เพียงเท่านั้นท่อชนิดนี้ยังมีคุณสมบัติที่สามารถต้านทานการกัดกร่อนตากปฏิกิริยาทางไฟฟ้า ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยากับสารเคมี ทนทานต่อสภาพอากาศ ทนต่อความเป็นกรดด่าง จึงสามารถใช้งานท่อPE ได้ทั้งงานฝังดิน งานในที่โล่งที่จะโดนฝนหรือแดด หรือจะนำไปใช้ภายในอาคารก็ได้เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า ท่อ HDPE นั้นมีประโยชน์รอบด้านเลยทีเดียว
 

ท่อ HDPE ขนาดต่าง ๆ นั้นมีตั้งแต่ 20 มิลลิเมตร ไปจนถึง 1200 มิลลิเมตร จึงสามารถเลือกไปใช้ได้ให้เหมาะสมกับประเภทและการใช้งาน โดยราคาท่อ HDPE นั้นขึ้นอยู่กับขนาดและความยาว รวมไปถึงความหนาและขั้นคุณภาพของตัวท่อ ซึ่งก็อาจจะมีความแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามแต่ละยี่ห้อ ราคาท่อ HDPE คิดตามเมตร เริ่มต้นที่ขนาด 20 มิลลิเมตร ราคา 13 บาท 

ข้อควรรู้สำหรับอุปกรณ์ท่อ HDPE นั้น สามารถติดตั้งได้กี่แบบ?
 

ด้วยคุณสมบัติของท่อ HDPE ทั้งความทนทาน ยืดหยุ่น รวมถึงท่อ hdpe ราคาไม่แพง ใช้งานได้หลากหลาย ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะสนใจที่จะนำท่อไปใช้ในงานของคุณ ก่อนอื่น เราจะขอแนะนำข้อควรรู้ในการใช้งานท่อ PE อีกหนึ่งอย่าง ซึ่งก็คือการเชื่อมต่อท่อ PE นั่นเอง ตัวท่อ HDPE นั้นนอกจากจะสามารถดัดให้โค้งงอได้โดยไม่ปริแตก หรือรั่วซึมแล้ว ยังสามารถนำมาเชื่อมต่อกันได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วซึม เพราะคุณสมบัติของท่อที่สามารถทนต่อแรงบีบอัดได้เป็นอย่างดี การติดตั้งอุปกรณ์ท่อ HDPE นั้น สามารถติดตั้งเชื่อมต่อได้หลายแบบด้วยกัน ทั้งการติดตั้งข้อต่อท่อ HDPE แบบสวมล็อก , การติดตั้งข้อต่อท่อ HDPE แบบเชื่อม , การติดตั้งแบบอิเล็กโตรฟิวชั่น (electrofusion) , และการติดตั้งข้อต่อแบบเชื่อมสอดนอก-ใน (Socket Fusion)

1. ข้อต่อท่อ HDPE แบบสวมล็อค
 

การต่อท่อ HDPE โดยใช้ข้อต่อแบบสวมล็อค หรือ Compression เป็นการต่อที่จะใช้กับท่อขนาด 20-110 มิลลิเมตร การต่อด้วยวิธีจะทำให้ตัวท่อสามารถทนแรงดันน้ำได้ถึง 10 บาร์ การต่อท่อลักษณะนี้เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในบ้าน เช่น งานสวน หรือการต่อท่อน้ำเข้าบ้าน 
    

การข้อต่อท่อ HDPE แบบสวมล็อค มีขั้นตอนในการต่อท่อที่ไม่ซับซ้อน จะเป็นการใช้อุปกรณ์ท่อ HDPE ที่ใช้สวมล็อคโดยเฉพาะซึ่งมีขนาดพอดีกับท่อ เริ่มจากให้คลายฝาแหวนจับออกประมาณ 3-4 เกลียว จากนั้น วัดระยะที่ต่อโดยดูจากเส้นกำหนดความลึกของข้อต่อ และทำเครื่องหมายที่ท่อ HDPE เพื่อไม่ให้สอดท่อลึกหรือตื้นจนเกินไป จากนั้น สอดท่อเข้าไปในข้อต่อ แล้วขัดฝาให้แน่นจนสุด เพื่อให้แน่ใจว่าท่อแน่นสนิท และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วซึม

2. ข้อต่อท่อ HDPE แบบเชื่อม

    
การต่อข้อต่อท่อ HDPE โดยใช้วิธีการต่อแบบเชื่อม หรือเชื่อมชน เป็นการต่อที่จะใช้ความร้อนทำให้ท่อเชื่อมติดกันถาวร เหมาะกับการเชื่อมต่อท่อ HDPE ขนาดตั้งแต่ 5 นิ้ว ขึ้นไป หรืองานที่จะต้องใช้แรงดันสูง วิธีนี้ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ใช้เครื่องเชื่อมท่อ HDPE และเชื่อมชนปลายท่อกับปลายท่อด้วยแผ่นความร้อน ตามข้อกำหนดอุณภูมิที่ระบุมาตามมาตรฐาน DVS ซึ่งก่อนอื่น จะต้องทำความสะอาดบริเวณปลายท่อที่จะเชื่อมเข้าหากัน ซึ่งจะต้องใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณปากท่อเพื่อขจัดคราบไขมันหรือสิ่งสกปรกที่อาจจะทำให้เกิดรอยรั่ว ในการทำความสะอาดนี้ ห้ามใช้ทินเนอร์เช็ดเด็ดขาด เนื่องจากจะกัดกับผิวหน้าของแผ่นความร้อน
    

ในการเชื่อมข้อต่อท่อ HDPE แบบเชื่อม แนวท่อทั้งสองต้องอยู่ในระนาบเดียวกัน เคลื่อนได้ไม่เกิน 10% ของความหนาท่อ แล้วใช้ความร้อนที่อุณหภูมิ 205 - 220 องศาเซลเซียส 

3. ข้อต่อท่อ HDPE แบบ Electro Fusion
การต่อข้อต่อท่อ HDPE โดยใช้การต่อแบบ Electro Fusion คือการใช้กระแสไฟฟ้าในการส่งไปยังขดลวดในอุปกรณ์เพื่อให้เกิดความร้อนที่จะหลอมละลายเนื้อท่อให้กลายเป็นเนื้อเดียวกันอย่างแนบสนิท วิธีนี้จะช่วยให้รอยต่อมีความแข็งแรงทนทาน ทั้งต่อแรงกระแทกจากภายนอก หรือแรงดันจากภายใน การต่อท่อด้วยวิธีนี้ยังไม่ทำให้เกิดรอยตะเข็บ จึงได้ผิวสัมผัสภายในที่เรียบสนิทกัน ไม่เกิดแรงเสียดทานจากตะเข็บเหมือนวิธีการเชื่อมแบบอื่น
ในการต่อข้อต่อท่อแบบ Electro Fusion จะต้องใช้เครื่องเชื่อมท่อ ซึ่งมีขนาดกะทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย 

4. ข้อต่อท่อ HDPE แบบเชื่อมสอดนอก-ใน (Socket Fusion)
    

การต่อข้อต่อท่อ HDPE แบบเชื่อมสอดนอก-ใน หรือ Socket Fusion เป็นวิธีการเชื่อมต่อโดยใช้ข้อต่ออุปกรณ์ท่อ HDPE และความร้อนจากขดลวด อุณหภูมิประมาณ 250 - 270 งอศาเซลเซียส วิธีนี้จะเป็นการหลอมละลายผิวภายนอกของท่อ เข้ากับผิวภายในขอบอุปกรณ์ เหมาะกับขนาดท่อ PE ไม่เกิน 110 มิลลิเมตร
    

การเชื่อมข้อต่อด้วยวิธีนี้ จะได้รอยเชื่อมที่แนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งยังทนต่อแรงดันได้ดี นอกจากนี้ยังสะดวก รวดเร็ว โดยจะต้องใช้ท่อข้อต่อ และเครื่องเชื่อมในการเชื่อมต่อ ก่อนเชื่อมจะต้องทำความสะอาดตัวท่อบริเวณที่จะเชื่อมให้สะอาดไม่มีคราบสกปรกหรือคราบไขมัน

นอกจากข้อต่อ 4 ประเภทที่ได้กล่าวไว้สำหรับระบบประปาแล้ว ยังมีข้อต่อ HDPE สำหรับท่อร้อยสายไฟ ท่อร้อยสายเคเบิ้ล ที่ต่อง่ายๆ โดยวิธีสวม มีลักษณะที่เด่นชัดจากสีภายนอก ข้อต่อสีดำคาดส้ม ที่ใช้คู่กับท่อ HDPE สีดำคาดส้ม เป็นสัญลักษณ์งานร้อยสายไฟ สินค้าหลักประกอบด้วย ท่อโค้ง 90 องศา ปากแตร ข้อต่อ Type A และ Type C เกลียวนอก หรือเกลียวใน เป็นต้น 

สรุป    

ท่อ HDPE สามารถใช้งานได้หลากหลาย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทนทาน ยืดหยุ่น ใช้ได้ทั้งกับงานในครัวเรือน ไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยท่อ HDPE ราคาเริ่มต้นที่ 13 บาท ต่อความกว้าง 20 มิลลิเมตร ยาว 1 เมตร 
    

การใช้งานท่อ HDPE สามารถดัดให้โค้งงอได้ หรือจะต่อข้อต่อก็สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ใช้ข้อต่ออุปกรณ์ท่อ HDPE และแบบที่ใช้ความร้อนและแรงดันในการเชื่อมต่อ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมและความต้องการ