รถทันตกรรมเคลื่อนที่ สปสช.ยิ้มสดใส เด็ก กทม. ฟันดี | คมชัดลึก

กรุงเทพมหานคร มีประชากรอาศัยหนาแน่รวมถึงประชากรเด็ก ตลอดจนมีโรงเรียนกระจายอยู่ตามเขตต่างๆ เกือบหนึ่งพันแห่ง ขณะที่หน่วยบริการทันตกรรมที่ร่วมให้บริการมีจำกัด เป็นอุปสรรคต่อการดูแลเด็กๆ ให้ได้รับบริการสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมส่งเสริมป้องกันนี้ การให้บริการเชิงรุกในโรงเรียนโดย “รถทันตกรรมเคลื่อนที่” จึงเป็นทางออก
    

ปี 2566 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และชมรมรถทันตกรรมเคลื่อนที่แห่งประเทศไทย ร่วมจัดบริการทันตกรรมด้านส่งเสริมป้องกันในโรงเรียนโดยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ในพื้นที่ กทม. ยิ้มสดใส เด็ก กทม. ฟันดี และได้มีการปล่อยคาราวานรถทันตกรรม เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เข้าร่วม
 

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี  เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า จากบริการช่วง 1 เดือนปี 2565 ด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ 2 คัน จากคลินิกทันตกรรม 1 แห่ง สามารถให้บริการทันตกรรมส่งเสริมป้องกันกับเด็กในโรงเรียนถึง 5,891 คน เคลือบฟลูออไรด์ 5,573 คน และเคลือบหลุมร่องฟัน 2,506 คน ในปี 2566 จึงขับเคลื่อนต่อเนื่อง โดย สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร ประสานชมรมรถทันตกรรมเคลื่อนที่ฯ เพิ่มเติมคลินิกทันตกรรมที่ให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่รวม 4 แห่ง มาร่วมดูแลเด็กชั้นปฐมวัย ชั้น ป. 1, 2 และ 6 จำนวน 288,700 คน ในโรงเรียนพื้นที่ กทม. 453 แห่ง ในสังกัด สช. และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
    

รศ.ทพ.แสวง โพธิ์ไทรย์ ประธานชมรมรถทันตกรรมเคลื่อนที่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า คลินิกทันตกรรมที่ให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ 2566 มี 4 แห่งที่เข้าร่วม ได้แก่ คลินิกทันตกรรมฟอร์จนเชียงใหม่ จำนวน 5 คัน คลินิกบางกอกสไมล์ 3 คัน บ้านรักยิ้ม 2 Dental deliver 1 คัน และโกโก้สไมล์ 1 คัน รวมจำนวน 10 คัน
    

ชมรมรถทันตกรรมเคลื่อนที่ฯ มีความยินดีภายใต้ความร่วมมือนี้ ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ทันตกรรมส่งเสริมป้องกัน กองทุนบัตรทอง ให้กับเด็กๆ ในพื้นที่ กทม. ทั้งตรวจสุขภาพช่องปาก เคลือบฟลูออไรด์ และเคลือบหลุมร่องฟัน ให้บริการโดยทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ด้วยเครื่องมือทันตแพทย์ที่ครบวงจรและทันสมัย ตามมาตรฐานบริการทันตกรรม ผ่านการรับรองโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
 

นายธเนตร สภานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมการจัดการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กล่าวว่า เด็กวัยเรียนที่มีปัญหาสุขภาพช่องปากจะกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กอย่างมาก กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งกลูคอร์ติคอยด์ที่รบกวนการนอนหลับ เมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนเจริญเติบโตลดลง ทำให้เติบโตช้ากว่าปกติได้ ขณะที่ประสิทธิภาพการบดเคี้ยวที่ลดลงยังทำให้กินอาหารได้น้อยลงและขาดสารอาหารได้ อาการปวดฟันนี้ยังอาจทำให้เด็กขาดเรียน ไม่มีสมาธิ สูญเสียฟันเร็วกว่าปกติ ส่งผลต่อพัฒนาทักษะด้านการพูดที่กระทบความเชื่อมั่นในตนเอง ด้วยความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์กับเด็กอย่างมาก ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน นับเป็นสิทธิประโยชน์บัตรทองที่คุ้มค่า ซึ่ง สช. มีความยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่” นายธเนตร กล่าว