'ลอยกระทง 2566' กทม. ออกประกาศห้ามจุดพลุ บั้งไฟ ตะไล ปล่อยโคม ฝ่าฝืนโทษจำคุก
'ลอยกระทง 2566' กทม. ออกประกาศห้ามจุดพลุ บั้งไฟ ตะไล ปล่อยโคม ในเขตกรุงทเพฯ ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 60,000 บาท สูงสุดติดคุก 3 ปี รวมทั้งห้ามขายดอกไม้เพลิงทุกชนิด
กรุงเทพมหานคร ออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2566 โดยรายละเอียดในประกาศ ระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดมาตรการป้องกันอันตรายและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาล "ลอยกระทง 2566" อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มาตรา 49 จึงกำหนดมาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2566 และขอความร่วมมือ
จากผู้ผลิต สะสม จำหน่าย ผู้เล่นดอกไม้เพลิงและโคมลอย ตลอดจนผู้จัดงานเทศกาลลอยกระทง และประชาชน ในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร ดังนี้
1. กรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมและมาตรการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาล "ลอยกระทง 2566" ให้กับประชาชน โดยกำชับผู้อำนวยการเขตดูแลพื้นที่ที่มีการจัดงานเทศกาลลอยกระทง ตรวจสอบความปลอดภัยของท่าน้ำและโป๊ะ หากพบว่าไม่ปลอดภัยให้ปิดการใช้งานทันที รวมถึงพื้นที่จัดงานที่มีเครื่องเล่น ผู้อำนวยการเขตต้องตรวจสอบความปลอดภัยของสถานที่จัดงานอย่างเข้มงวด และจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตรวจตราพื้นที่ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตามสถานที่ต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาจัดงาน โดยประสานงานกับหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมเฝ้าระวังดูแลในพื้นที่ ที่มีคนหนาแน่นโดยใช้กล้อง CCTV เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน
2. ห้ามมิให้ผู้ใดจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่นั้นหากผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามเป็นความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ประสงค์จะขอจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไลโคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ให้ยื่นแบบคำขอรับใบอนุญาต พร้อมแผนการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อผู้อำนวยการเขตพื้นที่ หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ แจ้งศูนย์วิทยุพระราม โทร.199
3. กรุงเทพมหานครได้กำหนดแผนป้องกันอันตรายจากดอกไม้เพลิง และการเล่นโคมลอยและจัดตั้งชุดเฉพาะกิจจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบตรวจตราสถานประกอบการที่ผลิต สะสมและจำหน่ายดอกไม้เพลิงอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง รวมตลอดถึงพลุ ประทัดไฟ ประทัดลม และวัตถุอื่นใด อันมีสภาพคล้ายคลึงกัน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. ขอความร่วมมือสถานประกอบการสถานบันเทิง ผู้จัดงาน หรือเจ้าของพื้นที่ที่จัดงาน "ลอยกระทง 2566" ตรวจสอบความปลอดภัยของสถานที่จัดงาน หากพบจุดเสี่ยงอันตราย หรืออุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหายให้ดำเนินการแก้ไขให้มีความปลอดภัย หรือประสานผู้รับผิดชอบดำเนินการทันที พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิต ทางน้ำให้พร้อมใช้งานประจำจุดเสี่ยง ตลอดจนจัดให้มีเส้นทางเข้า-ออกที่ชัดเจน เพื่อลดความหนาแน่นในพื้นที่ และกรณีเหตุฉุกเฉินให้ประสานงานกับสำนักงานเขตอย่างใกล้ชิด
5. แจ้งเตือนประชาชน เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลบุตรหลานหรือเด็กเล็กอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ หรือพลัดหลง และให้ลอยกระทงในพื้นที่ที่มีความมั่นคงแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นท่าน้ำหรือโป๊ะเรือต้องมีแสงสว่างที่เพียงพอ และมีที่กั้นหรือราวจับเพื่อป้องกันการตกน้ำ หากขึ้นเรือลอยกระทงกลางแม่น้ำควรสวมเสื้อชูชีพ และรณรงค์ให้ผู้มาร่วมงานเทศกาลลอยกระทง งดดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพของมึนมาชนิดต่าง ๆเพื่อป้องกันการพลัดตกน้ำ หรือประสบอุบัติเหตุจากการขับขี่ และผู้เดินเท้าต้องข้ามถนนโดยใช้ทางข้าม หรือที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยให้ความสะดวกหากพบผู้บาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน แจ้งศูนย์เอราวัณ โทร. 1669