ผวา "หิมะดำ" ปกคลุมเพราะเผาซังตออ้อย สู่วิบากกรรม แมวดาว สัตว์ป่าคุ้มครอง
ผวา "หิมะดำ" เขม่าจากการเผาซังตออ้อยปกคลุมท้องฟ้าจังหวัดเลย สู่วิบากกรรม แมวดาว สังเวยชีวิตเพราะหากินแบบผิดธรรมชาติ
"หิมะดำ" ปกคลุมท้องฟ้าความหวาดผวาของชาววังสะพุง จ.เลย ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อเช้าสู่ช่วงฤดูร้อนแล้งเมื่อไหร่ชาวบ้าน ลุกลามไปจนถึงสัตว์ป่าน้อยใหญ่จำต้องเผชิญกับปัญหา ฝุ่น ควัน จากการ เผาซังตออ้อย ของไร่อ้อยในพื้นที่ อ.วังสะพุง จ.เลยอยู่เป็นประจำ และในปีนี้ก็เช่นกันปัญหาดังกล่าวกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าทางการจ.เลยจะออกประกาศขอความร่วมมือเกษตรกรชาวไร่อ่อย งดเผาซังตออ้อย เพื่อลดปัญหาฝุ่นควัน และ ฝุ่นPM 2.5 ในพื้นที่
ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 66 กลุ่มก้อน "หิมะดำ" ขนาดใหญ่ที่เกิดการจากเผาอ้อย เพิ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เริ่มทำการ เผาซังตออ้อย จนส่งผลให้เกิดไฟลุกลาม ท้องฟ้าเกิดสีแดงฉาดกินพื้นที่เกือบ 20 ไร่ ส่งผลให้ประชาชนในเขตอ.วังสะพุง รวมทั้งสัตว์ป่า ได้รับควาามเดือดร้อนต้องเผชิญกับฝุ่นพิษ ควัน "หิมะดำ" ลอยปลิวว่อนในอากาศ เกาะตามเสื้อผ้า
- ต้นตอปัญหาทำชาวบ้านเผชิญ "หิมะดำ" เขม่าควัน ปกคลุมพื้นที่
ในปี 2566 ในพื้นที่จ.เลยมีการ เผาซังตออ้อย อย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่อ.วังสะพุงมีการเผาอ้อนไม่ต่ำหว่าวันละ 1,000 ไร่ เกษตรกรชาวไร่อ่อยมีการเผาซังตออ้อยทุกวันก่อนตัดอ้อยส่งโรงงาน โดยในพื้นที่มีโรงงานผลิตน้ำตาลจำนวน 2 แห่ง จากพฤติกรรมการเผาที่ไม่ได้เกรงกลัวประกาศหรือกฎหมาย นำมาซึ่งผลกระทบมากมายกับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ หญิงชรา หญิงตั้งท้อง ได้รับผลกระทบมากที่สุด หนำซ้ำไฟที่เกิดการจากเผาไร่อ้อยยังลุกลาวมาใกล้บ้านเรือนประชาชนจนสร้างความหวาดกลัวไปหมด
- จากปัญหา "หิมะดำ" ปกคลุม สู่ วิบากกรรมของ แมวดาว สัตว์ป่าคุ้มครองหายาก
ปัญหาการเผาซังตออ้อยไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงวืถีการหากินของสัตว์ป่าอีกด้วย เมื่อแหล่งอาหารถูกทำลายด้วยเปลวเพลิง สัตว์ตัวเล็ก ๆ อย่าง แมวดาว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าหายาก และสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่อาศัยและหากินในบริเวณไร่อ้อย ต้องออกจากป่ามาหากินในหมู่บ้านจนสุดท้ายต้องสังเวยชีวิตเพราะถูกหมากัด เนื่องจากการออกมาหาอาหารที่ผิดไปจากวิถีธรรมชาติ
ความสูญเสียเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 66 หลังจากที่การโหมเผาอ้อยมาตั้งแต่ช่วงวันที่ 6 ม.ค. 66 ส่งผลให้ แมวดาว เสียชีวิตถูกสุนัขกัดตายในพื้นที่ของ อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งระยะนี้มีการเผาตอซังอ้อยเวลากลางคืน จนไฟลุกลามไปทั่ว สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและสัตว์ป่าที่หากินในไร่อ้อยมีการคาดเดาว่า แมวดาว คงหนีไฟจากการเผาตอซังอ้อย ออกมาหากินใกล้หมู่บ้านและถูกสุนัขกัดตาย
วิบากกรรมของการเผาไม่ได้มีแค่กับมนุษย์ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังกระทบถึงพฤติกรรมการหากินของสัตว์ป่าอีกด้วย อย่างเช่นกรณี แมวดาว หากเกษตรกรหยุดการเผาอ้อย แมวดาว ก็จะยังสามารถหากินในป่าได้ตามปกติ แต่เปลวไฟที่ลุกลามกลับเป็นตัวผลักดันทำให้ต้องออกมาหากินในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยจนส่งผลให้ต้องจบชีวิตลง แม้ว่าที่ผ่านจะมีการออกประกาศห้ามเผาซังตออ้อยแต่ก็ยังพบไม่สามารถควบคุมการเผาซังตออ้อยในพื้นที่ลดน้อยลงไปได้
- รู้หรือไม่ในประเทศไทยไทยมีการเผาในที่โล่งแจ้ง และสร้างมลภาวะในอากาศมากแค่ไหน
จากสถิติเมื่อปี 2564 ระบุว่า ประเทศไทยมีการเผาในที่โล่งแจ้ง ประมาณ 35 ล้านไร่ เป็ฯการเผาจากการทำนาข้าว (นาปรัง/นาปี) 20 ล้านไร่ การเผาบนพื้นที่ป่าไม้ 9.7 ล้านไร่ จากการทำไร่อ้อย 2.7 ล้านไร่ และจากการทำไร่ข้าวโพด 1.9 ล้านไร่ ทุกๆ การเผาซาก ซังตอ อ้อย 1 ไร่ จะส่งผลกระทบต่อสังคมประมาณ 12,000 บาท หรือทุก 1 ตัน จะส่งผลกระทบประมาณ 1,300 บาทต่อตัน แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามเผา แต่ยังมีการลักลอบเผาซากอ้อยอยู่ตลอด และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมีการลักลอบเป็นจำนวนมาก