ศาลปกครองยกฟ้องนายกฯ คดีชาวบ้านร้อง ฝุ่น 'PM2.5' ในเชียงใหม่เกินมาตรฐาน
ศาลปกครองเชียงใหม่ยกฟ้อง นายกฯ คดีฝุ่น 'PM2.5'หลังชาวบ้านยื่นฟ้องตั้งแต่ต้นปี 2566 หมดหวังให้รัฐประกาศเขตภัยพิบัติ สุขภาพพังเพราะฝุ่นพิษ
จากประเด็นการที่ภาคประชาชนชาวเชียงใหม่ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีการปล่อยปะละเลยปัญหาฝุ่น "PM2.5" ในพื้นที่โดยไมได้มีการแก้ไขจนส่งผลกระทบต่อการสุขภาพของประชาชนในพื้นที่
ที่ผ่านมา นายภูมิ วชร เจริญผลิตผล นักกฏหมาย ตัวแทนภาคประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในกรณีไม่ได้สั่งการให้แก้ปัญหาผลกระทบจากมลพิษฝุ่นควัน "PM2.5" ตามคดีหมายเลขดำที่ ส.1\2566 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา และเมื่อช่วงกลางเดือนมี.ค.66 ศาลได้มีการนัดไต่สวนสืบพยาน ในกรณีดังกล่าว โดยทางตัวแทนภาคประชาชน นักวิชาการได้มีการยื่นเอกสารงานวิจัยผลกระทบจากฝุ่น "PM2.5" และล่าสุดการวินิจฉัยของศาลปกครองเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 พบว่า ศาลปกครองได้มีคำสั่งยกฟ้อง
โดย ศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีการพิพากษาคดีประชาชนยื่นฟ้องนายกฯรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่การพิพากษาในครั้งนี้ศาลปกครองเชียงใหม่มีคำสั่งยกฟ้อง โดบระบุ รายละเอียดว่า ตามที่ประชาชนชาวเชียงใหม่ได้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีโดยมีการระบุว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก "PM2.5" ในปี 2566 มีปริมาณเกินมาตรฐานจนส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ โดยมีแหล่งกำเนิดมาจากการเผาในที่โล่ง โดยเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการป้องกันแลัรรเทาสาธารณภัยอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการช่วยเหลือด้านการสาธารณสุขให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น "PM2.5"
ทั้งนี้ตามที่ประชาชนได้มีคำร้องว่า ศาลมีคำวินิจฉัยแล้วว่าปริมาณฝุ่น "PM2.5" มีค่าสูงต่อเนื่องตามเกณฑ์ที่วินิจฉัย เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่จัดการกับปัญหาดังกล่าว รวมทั้งไม่มีการพิจารณายกระดับเป็นสาธารณภัยร้ายแรง ข้ออ้างดังกล่าวไม่สามารถรับฟังได้ ศาลจึงมีการยกฟ้อง เนื่องจากพบว่าปริมาณ ฝุ่น PM2.5ในบรรยากาศโดยทั่วไป ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยในระหว่าง ม.ค.-ก.พ. 66 ยังฟังไม่ได้ว่าเป็สถานการณ์ร้ายแรง เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งไปแล้วจึงไม่เป็นการละเลยต่อหน้า
- หมดหวังรัฐดูแลสุขภาพประชาชนช่วงฝุ่น PM2.5 พุ่ง
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว นายภูมิ วชร เจริญผลิตผล นักกฏหมาย ตัวแทนภาคประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึก ว่า จากความพยายามที่ประชาชนต้องการถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานรัฐในการแก้ปัญหาฝุ่น "PM2.5" ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ศาลปกครองกับมีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากให้เหตุผลว่าปริมาณฝุ่น "PM2.5" ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 66 นั้นค่าฝุ่นละอองยังไม่สูงจนเกินค่ามาตรฐาน และยังไม่ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรง จึงมีคำสั่งยกฟ้องไปในที่สุด
สำหรับค่า ฝุ่น PM2.5 ที่มีการตรวจวัดและยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนั้นวัดที่ปริมาณ 100 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ทำให้ศาลเห็นว่าในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 66 ค่าฝุ่นควันยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย แต่เจตนานในการฟ้องร้องของตนเองนั้นต้องการที่จะให้การดำเนินการแก้ไขทันต่อสถานการณ์ในช่วงที่ ฝุ่น PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.66 แต่หากศาลมีคำสั่งยกฟ้องไปแล้วก็คงไม่สามารถดำเนินการอะไรต่อได้ เพราะหากจะมีการอุทธรณ์ไปที่ศาลปกครองสูงสุดก็จะต้องใช้เวลากว่า 2 เดือน ซึ่งก็จะเลยช่วงที่ฝุ่นพุ่งสูงไปแล้ว อีกทั้งปัญหาฝุ่นจะต้องดำเนินการปีต่อปี ดังนั้นการจะฟ้องร้องต่อเนื่องเพื่อให้รัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาในปีหน้าคงไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนประเด็นที่ศาลปกครองชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่มีกาาจัดตั้งศูนย์ดูแลปัญหา ฝุ่น PM2.5 ไปแล้วนั้น ขณะนี้ตนก็ยังไม่เห็นศูนย์ดังกล่าวในพื้นที่เลย
- สั่งสารพัดมาตรการแต่ไม่ประกาศเขตภัยพิบัติ
ขณะที่รัฐบาลได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงอุตสาหกรรม กำชับให้ลดรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบในช่วงนี้ด้วย รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ลักลอบเผา นอกจากนี้ในระยะที่ฝุ่น "PM2.5" หนาแน่น ยังได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดจัดบริการคลินิกมลพิษเคลื่อนที่ในทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำแนะนำและดูแลสุขภาพกับประชาชน แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าฝุ่นควันจะเกินค่ามาตรฐานแต่กลับพบว่ารัฐบาลยังไม่ได้มีการประกาศภาวะภัยพิบัติฉุกเฉินแต่อย่างใด