'ไฟป่า' ยังวิกฤต อาสาดับไฟสำลักควันดับ 1 นครนายกใช้ฮ. 6 ลำโปรยนำ
'วราวุธ' สั่งฮ. 6 ลำโปรยน้ำป่าเขาแหลมยังมีกลุ่มควัน พร้อมช่วยชาวบ้านอาสาดับไฟเสียชีวิตที่เชียงใหม่ตามเกณฑ์กรมอุทยานฯ ขณะที่ผืนป่ากาญจนบุรีไฟป่าลามแล้ว 200,000 ไร่ รุนแรงในรอบ 5 ปี
แม้มีประกาศปิดอุทยานฯ ถึง 100 แห่ง ส่วนป่าไม้อีกเกือบ 20 กว่าป่าทางภาคเหนือ แต่ไม่ได้ทำให้ปัญหา "ไฟป่า" ลดน้อยลง พื้นที่ไฟไหม้ลามไปในจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าถึงลำบาก กฎหมายระบุโทษปรับถึง 2,000,000 ล้าน จำคุกสูงสุดถึง 20 ปี ทว่าตัวเลขป่าที่ถูกไฟเผาแค่จ.กาญจบุรีจังหวัดเดียวถึง 200,000 ไร่ สาเหตุหลักๆ มาจากชาวบ้านเผาป่าเพื่อให้ต้นไม้แทงยอดอ่อนเป็นอาหารให้วัวกิน ยังไม่รวมที่เขาแหลม นครนายกที่เพิ่งควบคุมสถานการณ์ได้ และเชียงใหม่ที่เกิดไฟป่ารายวัน ล่าสุดเมื่อวานนี้ (31 มี.ค. 2566) มีชาวบ้านเสียชีวิตขณะช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า
"นายวราวุธ ศิลปอาชา" รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีดับ "ไฟป่า" ในพื้นที่เขาแหลม นครนายก ว่า วันที่ วันนี้ (1 เม.ย. 2566) สถานการณ์จุดความร้อน (ฮอตสปอต) จ.นครนายกไม่พบตั้งแต่ช่วงเวลาตีสองที่ผ่านมา แต่ยังมีกลุ่มควันบริเวณเขาตะแบก ซึ่งทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเข้าไปดูรายละเอียดประมาณ 50 นาย รวมถึงส่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวง 6 ลำ เข้าพื้นที่เพื่อสนับสนุนการโปรยน้ำ และควบคุมสถานการณ์ ในขณะที่หลายหน่วยงานก็ได้ระดมกำลังกันเข้ามาร่วมสนับสนุน ดังนั้น สถานการณ์ไฟป่าที่จังหวัดนครนายกสามารถควบคุมได้
ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาถึงสิ้นเดือนมีนาคมเกิดจุดความร้อนขึ้นทั้งหมด กว่า 57,000 จุด เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรือพื้นที่อุทยานประมาณ 33,000 จุด ในพื้นที่ป่าสงวนประมาณ 24,000 จุด มาตรการต่างๆ ทางกรมอุทยานฯ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่นับ 1,000 นาย จากทั่วทุกภาคขึ้นมาช่วยสนับสนุนการปฎิบัติงาน นอกจากนี้ กระทรวงทรัพฯ ยังใช้กำลังคนกระจายเดินเคาะประตูตามบ้านนับ 1,000 หลังคาเรือนในพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจและขอความร่วมมือ "อย่าไปเผา" และกำชับกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ ประสานงานกับทุกพื้นที่ โดยเฉพาะ 17 จังหวัดภาคเหนือที่ปิดอุทยานฯ เป็น 100 แห่ง ส่วนป่าไม้ปิดไปเกือบ 20 กว่าป่าภาคเหนือ
"ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ เพราะขณะนี้พบว่าเริ่มมีจุดความร้อนที่ดอยสุเทพเพิ่มขึ้นมา ขอความร่วมมือประชาชนคอยสอดส่อง และขอความกรุณาอย่าทำร้ายพี่น้องประชาชน คนไทยด้วยกันไปมากกว่านี้เลย หากพบเห็นขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน และหากไม่มั่นใจเรื่องการดับ "ไฟป่า" ขออยากเข้าไปใกล้พื้นที่ไฟไหม้เพราะอันตรายมาก" "นายวราวุธ" กล่าว
ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ "นายวราวุธ" บอกว่า ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นชายชาวเชียงใหม่ อายุ 39 ปี ราษฎรที่เข้าไปช่วยดับไฟ คาดว่า พยายามที่จะเข้าช่วยดับไฟป่า แต่ไฟป่าลุกลามขึ้นมากระทั่งหนีไม่ทัน เจ้าหน้าที่ได้พยายามช่วยค้นหาและได้พบร่างเมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 มี.ค. คาดว่าจะเป็นการสำลักควันไฟ และตกลงมาจากพื้นที่ สภาพของผู้เสียชีวิตไม่ได้ถูกไฟไหม้ ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังระดมกำลังช่วยเหลืออยู่ กระทรวงทรัพฯ จะให้ความช่วยเหลือตามกฎเกณฑ์ของกรมอุทยานฯ
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า จังหวัดจะให้การช่วยเหลืออาสาที่เสียชีวิตเต็มที่ ได้สั่งการด่วนให้นายอำเภอแม่ริม เข้าไปดูแลและให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับสวัสดิการ และสิทธิต่างๆ พร้อมกำชับให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครผู้ปฏิบัติงาน
สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ระบุข้อมูลไว้ว่า การประเมินตัวเลขมีพื้นไฟป่าในเขตป่าตะวันตก โดยเฉพาะจ.กาญจนบุรี ประมาณ 200,000 ไร่ ซึ่งพบว่า "ไฟป่า" ปีนี้ถือว่ารุนแรงในรอบ 5 ปี โดยเฉพาะสภาพพื้นที่ถือว่าเป็นวงรอบของเอลนิโญ่ และสภาพป่าที่ค่อนข้างแห้งทำให้ง่ายต่อการจุดไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปีนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับผู้กระทำผิดรายแรกของจังหวัดกาญจนบุรี คือ นายศุภศิลป์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ชาวต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ กำลังถือไฟแช็กแก๊สสีแดง จุดไฟเผาวัชพืชอยู่ในพื้นที่ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิด "ไฟป่า" ประมาณ 20 เมตร จึงทำการควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับฐานความเผาป่าหรือทำด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพไปจากเดิมภายในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติพ.ศ 2562 มาตรา 19 (1) ประกอบมาตรา 41 ซึ่งมีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับสูงสุด 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า