จับตา 'ฝนตกหนัก' 8-11 ก.ค. กรมชลประทาน เฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
กรมชลประทาน จับตา 'ฝนตกหนัก' 8-11 ก.ค. นี้ เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ประจำพื้นที่เสี่ยง น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามประกาศของ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 8/2566 ลงวันที่ 5 ก.ค. 2566 เรื่องลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคุลมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมี 'ฝนตกหนัก' บางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นนั้น
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์ด้วยฝนคาดการณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในช่วงวันที่ 8-11 ก.ค. 2566 ดังนี้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- จ.อุบลราชธานี (อ.โขงเจียม, สิรินธร)
- จ.นครพนม (อ.เมืองนครพนม, ธาตุพนม)
- จ.มุกดาหาร (อ.เมืองมุกดาหาร, หว้านใหญ่)
ภาคตะวันออก
- จ.ระยอง (อ.เขาชะเมา, แกลง, บ้านค่าย และนิคมพัฒนา)
- จ.จันทบุรี (อ.เมืองจันทบุรี, ขลุง, เขาคิชฌกูฏ ท่าใหม่ มะขาม และแก่งหางแมว)
- จ.ตราด (อ.เมืองตราด, บ่อไร่)
ภาคใต้
- จ.กระบี่ (เกาะลันตา)
- จ.พังงา (อ.กะปง, ตะกั่วป่า)
- จ.ระนอง (อ.เมืองระนอง, กะเปอร์)
- จ.สตูล (อ.ควนกาหลง, ท่าแพ, ทุ่งหว้า และมะนัง)
- จ.ตรัง (อ.เมืองตรัง, กันตัง, ย่านตาขาว, ห้วยยอด วังวิเศษ และหาดสำราญ)
- จ.พัทลุง (อ.ป่าบอน)
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมรับมือ โดยติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และกำหนดจุดเสี่ยงพื้นที่ที่เกิด น้ำท่วม ขังอยู่เป็นประจำ ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ และติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการเตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก พิจารณาบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ และระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที