แม่เหยื่อ "บูลลี่" กับเส้นทางเยียวยาลูกสาว 13 ปี วันนี้ได้ลูกคนเดิมกลับคืน | คมชัดลึก

"บูลลี่" หรือ กลั่นแกล้งคนอื่น 1 ครั้ง เราเคยรู้หรือไม่ว่าส่งผลกระทบมากแค่ไหน สำหรับบางคนเรื่องราวการถูกกลั่นแกล้งไม่ได้จบลงที่โรงเรียน หรือจบแค่ตัวเด็กเท่านั้น เพราะการถูกกลั่นแกล้งยังมีผลกระทบลามไปถึงพ่อ แม่ ผู้ปกครองด้วย 

 

 

หากยังจำกันได้ครั้งที่แล้วทีม คมชัดลึกออนไลน์ ได้นำเสนอเรื่องราวของคนที่เคยถูกกลั่นแกล้ง และถูกเพื่อน ๆ บูลลี่" ตั้งแต่ยังเรียนชั้นประถมจนส่งผลต่อสภาพจิตใจ และการใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็ก แต่ยังโชคดีที่ในทุกวันของเขามี คุณแม่คอยอยู่ข้าง ๆ ปลอบใจ และให้กำลังใจ พร้อมทำทุกวิถีทางที่จะให้เพื่อน ๆ หยุดรังแก "บูลลี่" วันนี้ ทีมข่าว คมชัดลึกออนไลน์ ได้สัมภาษณ์ คุณแม่น้ำผึ้ง อายุ 55 ปี แม่ของน้องแตงโม เด็กหญิงที่เคยถูกเพื่อน "บูลลี่"

• อ่านบทความ น้องแตงโม :  เปิดใจเหยื่อ "บูลลี่" จุกอกทุกครั้ง ลืมไม่ลง แต่ไม่เอามาทำร้ายชีวิตอีก 
   

คุณแม่น้ำผึ้ง อายุ 55 ปี เปิดใจกับ คมชัดลึกออนไลน์ ว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเองสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูก และเริ่มรู้ว่าลูกถูกเพื่อน ๆ แกล้งนั้นคือ น้องแตงโม เริ่มมีอาการซึม ทุกครั้งที่ไปส่งโรงเรียนลูกจะเริ่มมีอาการเศร้า ช่วงแรกเคยแจ้งครูว่าลูกโดน "บูลลี่" ครูรับทราบปัญหาแต่ไม่ได้แก้ไขอะไร จนตัวเองเริ่มรู้สึกว่าสภาพจิตใจของน้องแตงโมเริ่มไม่ไหว และคิดจะย้ายโรงเรียนหนี้ เพราะอยากแก้ปัญหาที่ปลายเหตุดูก่อน  เป็นการรักษาจิตใจของลูกเรา  เนื่องจากในช่วงนั้นลูกโทรมาเล่าบ่อยมากว่าถูกเพื่อนรังแกตลอด เราเป็นแม่แต่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรลูกได้เลย สิ่งที่ทำได้ตอนนั้นคือ พยามรับฟัง ถามเขาว่าอยากให้ช่วยอะไรตอนนั้นทำได้แค่ คอยรับฟัง อยู่ข้างๆ 

 

"ลูกโทรหาบ่อยจนเริ่มจับน้ำเสียงลูกได้ หากมีเรื่องไม่สบายใจเรื่องจะถามก่อนว่า "แม่ว่างมั้ย นั้นเท่ากับว่าลูกมีปัญหา แต่ถ้ามีเรื่องดี ๆ จะถามว่า "แม่ทำอะไรอยู่" ตั้งแต่เล็กจนโตลูกจะเป็นแบบนี้มาตลอด "

 

 

 

 

ใจดีกับลูกตัวเอง เพราะเป็นเหมือนสิ่งแรกที่เราสามารถทำเพื่อเขาได้ ยอมรับว่าช่วงแรกเครียด แต่ด้วยความเป็นแม่ เรารู้แค่ว่าเราเครียดได้ ขอลูกเราอย่างเครียดก็พอ ใจเขาอ่อนโยน ถ้าเจอเรื่องเครียด ลูกคงไม่สามารถรับมือได้ เราโตเป็นผู้ใญ่แล้ว แม่สามารถผ่านมันไปได้  ซึ่งในช่วงนั้นครูประจำชั้นก็ช่วยเหลือมาตลอด คอยดูแลสอดส่องลูกให้เรา และยังให้คำปรึกษาคุณแม่มาตลอด 

 

• เส้นทางเยียวยาลูก 13 ปี จนได้ลูกสาวคนเดิมกลับคืน 

 

แค่การอยู่ข้าง ๆ ยังไม่พอ เพราะสำหรับคนเป็นแม่ต้องการให้ลูกสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข คำปรึกษา หรือการให้กำลังจากแม่และครอบครัวอาจจะไม่เพียงพอดังนั้นคุณแม่จึงตัดสินใจพาลูกเข้ารับคำปรึกษาที่ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ เพื่อให้ลูกได้รับการเยียวยาที่ถูกวิธี ตลอดระยะเวลา 13 ปี ที่พาน้องแตงโมเข้าสู่กระบวนการรักษายอมรับว่าในช่วงแรกอาจจะมีท้อใจบ้าง เพราะขั้นตอน กระบวนทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ตอนนี้รู้สึกว่าคุ้มค่ากับการรอคอย เพราะเราได้ลูกของเราคืน ลูกสามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปได้ ที่สำคัญเรื่องบางเรื่องที่ลูกไม่เคยเล่า ลูกกล้าเปิดใจกับหมอ ทำให้เราได้รู้ว่าลูกเคยผ่านจุดที่หนักที่สุดในชีวิตมาแล้ว นอกจากเราจะได้ลูกเราคืน เรายังได้ลูกที่เป็นคนดี มีคุณภาพ ไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่ทำผิดกฎหมาย 

 

 

• ฝากถึงคนที่เคย "บูลลี่" คนอื่น หรือ ผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูก  

 

คุณแม่น้ำผึ้ง ยังฝากถึงคนที่ "บูลลี่" ด้วยว่า ถึงคนที่ชอบ "บูลลี่" คนอื่นเวลาที่เราแกล้งคนอื่นเราสนุก แต่คนอื่นไม่สนุกด้วย อยากให้นึกถึงจิตใจ ความรู้สึกของคนอื่นบ้าง อย่าลืมว่าจิตใจคนเราแตกต่างกัน ส่วนผู้ปกครองคนไหนที่กำลังเผชิญกับปัญหาแบบตัวเองก่อนอื่นอยากให้รับฟังปัญหาของลูกก่อน ฟังเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร เมื่อรู้สึกว่าลูกใจเย็นแล้วค่อยแนะนำว่าควรจะทำอย่างไร สิ่งที่เขาเล่ามานั้นถูกหรือผิด เพราะปัจจุบันครอบครัวเป็นส่วนสำคัญมากที่จะหล่อหลอม และคอยดูแลจิตใจของลูก และครอบครัวถือว่าเป็นสถาบันที่เยียวยาเด็กได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่ถูกบูลลี่ หรือคนที่มีพฤติกรรม "บูลลี่" เพื่อน