ชีวิตดีสังคมดี

ฝุ่น​ 'PM​ 2.5'​ ไร้พรมแดน​ ตั้งกฎหมายอาเซียนเอาผิดต้นตอมลพิษ แก้ได้​จริง?

ฝุ่น​ 'PM​ 2.5'​ ไร้พรมแดน​ ตั้งกฎหมายอาเซียนเอาผิดต้นตอมลพิษ แก้ได้​จริง?

30 มี.ค. 2566

ฝุ่นพิษ​ 'PM​ 2.5'​ หมอกควันปกคลุม​น่านฟ้าทางตอนเหนือของไทย​ยาวนานเกือบ​ 30​ ปี ผู้คนเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้าย​ ล้มป่วยกระทบสุขภาพระยะยาว​ ปัญหาเรื้อรัง​ยังไม่มีทางแก้​ แลหาคนรับผิดชอบไม่มี 'กฎหมายอาเซียน'​ คือทางออกหรือไม่​

"มลพิษทางอากาศ" ไม่มีขอบเขตพรมแดน​ ภาคเหนือของไทยต้องเผชิญ​ กับคุณภาพอากาศที่เลวร้าย​ หมอกควัน​ ฝุ่น​ "PM​ 2.5" ​ ในช่วงฤดูหลังเก็บเกี่ยวข้าวโพดของไทยและรัฐฉาน​ ประเทศเมียนมา​

 

ปริมาณฝุ่น PM 2.5​ พื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทยประจำวันที่ 30 มีนาคม 2566

 

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา​ (20-29มี.ค.)  จุดความร้อนสะสมสูงสุดยังอยู่ที่ประเทศเมียนมา​  จากอิทธิกระแสลมที่พัดผ่านเข้ามาต่อเนื่อง​ แนวโน้ม​ทวีความรุนแรงขึ้น​ไปจนถึงวันที่​ 2​ เม.ย.นี้​ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน​ 2.5​ ไมครอน​ (ฝุ่น​ "PM​ 2.5" ) พุ่งสูงถึง​ 770 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก. /ลบ.ม.)​ ที่​อ.แม่สาย​ จ.เชียงราย​ เกินค่ามาตรฐาน​ถึง​ 14​ เท่า​ (มาตรฐาน​ของไทย​ไม่เกิน​ 50​ มคก. /ลบ.ม.)​

 

 

ประชาชนทยอยล้มป่วย​ด้วยโรค​ "ฝุ่นพิษ"  ยอดสะสม​ 1​ สัปดาห์เกือบ​ 3,500​ คน​ เป็นปัญหา​เรื้อรังที่ไม่เคยถูกแก้ไขอย่างยั่งยืน​   

 

 

ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ภาพรวมของประเทศวันที่ 30 มีนาคม 2566

 


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2550 รัฐบาล​ "พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์" ได้ประกาศให้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเป็นวาระแห่งชาติ จากวิกฤตฝุ่นควันที่รุนแรงมากที่สุดปีหนึ่ง จนถึงปีนี้รัฐบาล "พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ได้ประกาศเมื่อเดือน ก.พ. ยกระดับการแก้ปัญหาฝุ่นพิษให้เป็นวาระแห่งชาติอีกรอบ ซึ่งในขณะนั้นมีปัญหาฝุ่นละออง​ฝุ่น "PM​ 2.5" ในกรุงเทพมหานคร​ รวมทั้งหลายจังหวัดภาคเหนือ​ แต่จนถึงขณะนี้ใกล้สิ้นมีนาคม​ ปัญหากลับรุนแรงมากขึ้น​

 

 

เศษข้าวโพดหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว

 

ต้นตอปัญหาถูกพุ่งเป้าไปที่การเผาเศษวัสดุหลังเก็บเกี่ยวข้าวโพด​ ​ภายใต้เกษตรพันธสัญญาส่งบริษัทอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ขนาดใหญ่​  เกษตรกรถูกบังคับด้วยกฎหมายส่งข้าวโพดแบบหลีกเลี่ยง​ไม่ได้​

 

 

เกิดคำถามตัวโตๆ​ ว่า​ "ใครคือผู้รับผิดชอบกับปัญหา​นี้"  เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดส่งภาคอุตสาหกรรม​ บริษัทอุตสาหกรรม​ หรือรัฐบาลประเทศก่อมลพิษ​ เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ​

 

 

เกษตรกรข้าวโพดเก็บเกี่ยวผลผลิต

 

ข้อมูลจาก​ "​กรีนพีซ" ประเทศไทย​ พบความเข้มข้นของจุดความร้อนบริเวณภาคเหนือตอนบนประเทศไทย และรัฐฉาน ประเทศเมียนมา จากการวิเคราะห์ดาวเทียม Suomi-NPP ระบบ VIIRS
การวิเคราะห์โดยใช้เครื่องมือ Moderate Resolution Imaging Spectroradiometer (MODIS) ที่ติดตั้งบนดาวเทียม Terra and Aqua ของนาซาเมื่อปี 2562 พบว่า​ การเพาะปลูกข้าวโพดครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,646,620 ไร่ ในภาคเหนือของประเทศไทย และ 7,524,550 ไร่ในรัฐฉานของเมียนมา และระหว่างธ.ค.​ ปี 2561 ถึงพ.ค.​ ปี 2562 ภายในพื้นที่ปลูกข้าวโพดระดับอุตสาหกรรมนี้ ปรากฎข้อมูลจุดความร้อน 6,879 จุด ที่ภาคเหนือตอนบนของไทย และ​ 14,828 จุด ที่รัฐฉานของเมียนมา

 

 

ข้าวโพดพืชทางตอนเหนือของไทย​ และรัฐฉาน​ เมียนมานิยมปลูก​

 

 

จากการศึกษานี้ พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่รัฐฉานของเมียนมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลา 6 เดือน จากในธ.ค.​ ปี 2561 ซึ่งมีพื้นที่ 4,006.60 ตารางกิโลเมตร เพิ่มเป็นถึง 12,069.33 ตารางกิโลเมตรในพ.ค. ในขณะที่ในภาคเหนือของประเทศไทย พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดครอบคลุมมากที่สุดอยู่ที่ 5,836.81 ตารางกิโลเมตรในเม.ย.​ ปี 2562 พื้นที่ดังกล่าวนั้นไม่สามารถระบุได้เลยว่าใครเป็นเจ้าของพื้นที่ที่เกิดไฟป่าและก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศจาก "หมอกควัน"

 

 

สถานการณ์​ที่รุนแรงขึ้น​ ทำให้หลายๆ​ ฝ่ายต่างไม่ทานทนกับผลกระทบ​ ชาวอ.แม่สาย​ จ.เชียงราย​ รวมตัวกันเกือบ​ 200​ คน​ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอ​ เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐช่วยแก้ปัญหาฝุ่น​ "PM​ 2.5" ​ เร่งด่วน​ เพราะผู้คนล้มป่วย​ ทั้งเด็ก​ ผู้สูงอายุ​ คนที่มีโรคประจำตัว​

 

 

ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก "เรียนหมอ"

 

 

เช่นเดียวกับ​ เพจเฟซบุ๊ก "เรียนหมอ" ได้เผยแพร่ภาพแสดงออกถึงผลกระทบที่ได้รับ​ แม้จะอยู่ในบ้านแต่ฝุ่น​ "PM​ 2.5" ยังตามทำร้ายถึงในห้องนอน​ และวอนขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ อากาศที่ดีควรจะเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ ไม่ควรจะเป็นสิ่งที่ต้องใช้เงินซื้อ หรือต้องมาอยู่แค่ภายในที่พัก

 

 

"ดร.สนธิ คชวัฒน์" ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย​ ได้ออกมาส่งเสียงอีกคนว่าภาครัฐต้องประกาศเป็นภัยพิบัติสาธารณภัย ตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติ​ป้องกันและสาธารณภัย 2550 

 

 

เร่งทำห้องปลอดฝุ่นพิษให้กับกลุ่มคนเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ โดยห้องปลอดฝุ่นต้องทำด้วยแผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ที่สามารถกรองฝุ่น​ "PM 2.5" ได้ รัฐต้องทำ ก่อนที่ประชาชนจะเจ็บป่วยมากไปกว่านี้ และถ้าประกาศเป็นภัยพิบัติรัฐบาลก็สามารถนำเงินออกมา เพื่อซื้อหน้ากาก​ N95 มาแจกให้กับประชาชน และสั่งให้ทำงานที่บ้าน เรียนที่บ้าน และต้องมีมาตรการชดเชยรายได้

 

 

อย่างไรก็ตาม​ ข้อกฎหมายป้องกันและสาธารณภัย มลพิษทางอากาศไม่เข้านิยามคำว่า "สาธารณภัย" ซึ่งครอบคลุม​ ได้แก่​ อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์น้ำ​เท่านั้น​

 

 

"กรีนพีซ" เสนอทางออกท่ามกลางหมอกควันพิษ คือ การที่รัฐภาคีในกลุ่มอาเซียน ร่วมมือกันรวบรวมข้อมูลจัดทำแผนที่และขอบเขตของพื้นที่สัมปทานของผู้ประกอบการ และห่วงโซ่อาหารของเกษตรพันธสัญญา เพื่อปรับปรุงนโยบายความโปร่งใส และการรับผิดชอบของบริษัทต่อการก่อหมอกควันพิษ และการเปลี่ยนแปลงผืนป่า

 

 

ประชาชนควรมีสิทธิ์รับรู้ข้อมูลว่าใครคือผู้ที่ก่อไฟสร้างมลพิษในอากาศที่เราหายใจ และสามารถติดตามกดดันให้ภาครัฐลงมือตามมาตรการเอาผิดบริษัทอุตสาหกรรม เพื่อที่จะดับต้นไฟและหยุดการก่อหมอกควันพิษได้อย่างแท้จริง

 

 

การทำธุรกิจดังเช่นที่เคยเป็นมาไม่ควรจะเป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้ต่อไป หากขาดกฎหมายเอาผิดบริษัทต่อการก่อเกิดไฟ เราก็จะถูกปิดหูปิดตาด้วยหมอกควันพิษที่เกิดจากอุตสาหกรรมเช่นต่อไป

 

ข้อมูล:กรีนพีซ, air4thai