ชีวิตดีสังคมดี

ต้นตอ 'น้ำนมดิบ' ขาดตลาด เกษตรกรยุบฟาร์มแบกต้นทุนไม่ไหวทำ โคนม หายจากระบบ

ต้นตอ 'น้ำนมดิบ' ขาดตลาด เกษตรกรยุบฟาร์มแบกต้นทุนไม่ไหวทำ โคนม หายจากระบบ

27 ก.ค. 2566

เปิดสาเหตุ 'น้ำนมดิบ' ขาดตลาด เกษตรกรยุบฟาร์มแบกต้นทุนค่าเลี้ยงไม่ไหวทำ อาหารสัตว์ ฟาง แพงขึ้นหลายเท่าตัว ทำ โคนม หายจากระบบ จำนวนมาก

นายนัยฤทธิ์ จันทร์เล ประธานชุมนุมสหกรณ์สหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย  ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึก ว่า ภาวะ "น้ำนมดิบ" ขาดตลาดในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่เพราะความต้องการใช้น้ำนมในปริมาณมาก แต่ปัญหาดังกล่าวมาจาก โคนม ในระบบที่หายไป เนื่องจากเกษตรกรยุบฟาร์มไปจำหลายรายเพราะเจอกับวิฤกตราคา "น้ำนมดิบ" ตกต่ำ อาหารสัตว์ที่แพงมากยิ่งขึ้น จนไม่สามารถแบกรับต้นทุนการเลี้ยง โคนม ที่ผ่านมามีเกษตรกรผู้เลี้ยง โคนม ประมาณ 18,000 ครอบครัว  ปัจจุบันเหลือเพียง 15,000 ครอบครัว  มีวัวนมในระบบ 500,000 ตัว แต่มีแม่วัวที่รีดนมได้ประมาณ 300,000 ตัว ส่งผลให้ "น้ำนมดิบ" หายไปเกือบ 1,000 ตัน

 

 

ปัจจุบันราคา "น้ำนมดิบ" หน้าฟาร์มอยู่ที่ 19-20 บาท เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศ ซึ่งดูแลผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ ได้มีการขอปรับราคาน "น้ำนมดิบ" หน้าฟาร์มจากคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เพื่อขอปรับราคา น้ำนมดิบ อีก 2.25 บาท แต่ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลกำกับ กิจการ และราคาน้ำนมดิบในตลาด แจ้งว่าอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจึงยังไม่สามารถปรับราคา น้ำนมดิบ หน้าฟาร์มได้ 

นายนัยฤทธิ์  ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่า เกษตรกรฟาร์มโคนม ต้องแบกรับราคาอาหารสัตว์ที่มีราคาสูงขึ้นกว่า 40 % เนื่องจากเกษตรกรต้องซื้ออาหารที่มาจากการนำเข้าทั้งหมด ส่วนใหญ่อาหารสัตว์จะเป็นข้าวโพด กากมันสำปะหลัง ข้าวบาร์เลย์ เหล่านี้ต้องเข้ามาทั้งสิ้น จึงส่งผลให้มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ส่วนอาหารสัตว์ที่ผลิตในประเทศไทยมีเอกชนเข้าไปรับซื้อจนหมดแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่า ราคาฟางก้อนปรับขึ้นมากกว่า 5 เท่า จากปกติซื้อขายที่ 10 บาท ปัจจุบันราคาฟางก้อน ราคา 45-50 บาท ด้วยต้นทุนการเลี้ยงโคนมที่สูงขึ้น จึงทำให้เกษตรกรอยูไม่ได้ต้องยุบฟาร์ม และส่งวัวเข้าโรงเชือด ส่งผลให้โคนมหายไปจากระบบจำนวนมาก และไม่สามารถผลิต "น้ำนมดิบ" เข้าสู่ตลาด  หากภาครัฐไม่มีมาตรการที่จะเข้ามาอุ้มเกษตรกรผู้เลี้ยวโคนมในแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำนมดิบ และยังจะทำให้โคนมหายไปจากระบบจำนวนมาก คาดว่าอาจจะเหลือโคนมแค่ 30% ซึ่งผู้ที่อยู่จะเป็นรายใหญ่เท่านั้น ส่วนเกษตรรายย่อยไม่สามรถดำเนินธุรกิจฟาร์มโคนมต่อไป เพราะมีแนวโน้มที่ต้นทุนการเลี้ยงจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพประกอบข่าว น้ำนมดิบขาดตลาด

 

นายนัยฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางที่ทางชุมนุมสหกรณ์โคนมได้เสนอต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออุ้มเกษตรกรฟาร์มโคนมมีทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้ 
1.เร่งแก้ไขปัญหาราคา "น้ำนมดิบ" ตกต่ำให้เร็วที่สุด โดยที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือไปถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
2.ของบประมาณในการสนับสนุนสำหรับการจัดซื้อแม่พันธุ์โคนมในราคาถูกดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเพิ่มจำนวนโคนมในระบบก่อน
3.หาวิธีการลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ โดยสหกรณ์ฯ ได้มีการหารือกับกรมปศุสัตว์ในการทำอาหารแบบ TMR ซึ่งเป็นอาหารที่ส่วนผสมและมีสารอาหารสำหรับแม่วัวอย่างครบถ้วนในสูตรเดียว และยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมในแก่แม่วัว และยังเป็นการลดต้นทุนของเกษตรกร 

 

ภาพประกอบข่าว น้ำนมดิบ ราคาตกต่ำ

 

"ขณะนี้เกษตรกรฟาร์มโคนมกำลังเผชิญกับปัญหาต้นทุนการเลี้ยงอย่างหนัก ดังนั้นปัญหา น้ำนมดิบ ขาดตลาดจึงไม่ได้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มสูงมากขึ้น แต่เป็นเพราะโคนมมีน้อยลงไม่สามารถผลิตน้ำนมป้อนตลาดได้เพียงพอ หากปล่อยไว้ไม่แก้ปัญหาจะทำให้โคนมหายไปจากระบบมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเกษตรกรอยู่ไม่ได้ ตอนนี้ปัญหา น้ำนมดิบขาดตลาด เพราะโคนมลดลงจึงเป็นปัญหาระดับประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน" นายนัยฤทธิ์ กล่าว