ชีวิตดีสังคมดี

ยกเครื่อง 'ยื่นภาษี'  อนาคตไม่มีตกหล่น ไม่มีคืนช้า ทำได้แบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ยกเครื่อง 'ยื่นภาษี' อนาคตไม่มีตกหล่น ไม่มีคืนช้า ทำได้แบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง

15 มิ.ย. 2566

กรมสรรพากร ยกเครื่อง 'ยื่นภาษี' อนาคตนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ไม่มีตกหล่น ไม่มีเรียกเก็บย้อนหลัง ไม่มีคืนช้า ทุกคนตรวจสอบเงินได้ ยื่นภาษีประจำปีแบบง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง

รอบการ ยื่นภาษี2565  ที่ผ่านมาคงทำเอาหลายคนกุมขมับในการยื่นเอกสารต่างๆ บวก ลบ คูณ หาร รายได้ที่เข้ามาหลากลายช่องทาง เล่นเอากว่าจะได้ยืน จะได้คืน ก็ใช้เวลานานจนเกือบจะหมดเวลา "ยื่นภาษี" ตามไทม์ไลน์ของกรมสรรพากรกันไปแล้ว ยื่นเสร็จยังต้องรอลุ้นอีกว่าจะโดนเรียกให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนเวลาจะรอคืนเงินภาษีนั้นนานจนบางคนลืมไปแล้ว

 

 

ปัญหาการ "ยื่นภาษี" จะกลายเป็นเรื่องง่าย และเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำเองได้ อีกทั้งยังลดระยะเวลา ลดขั้นตอนการยื่นภาษี การส่งเอกสารแสดงรายได้ รวมไปทั้งการขอคืนภาษี เพราะต่อจากนี้ไปกรมสรรพากรจะมีการนำเอาระบบเทคโนโลยีในการตรวจเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาใช้การตรวจสอบรายละเอียดหลักฐานต่างๆ เพื่อให้การ ยื่นภาษี เป็นเรื่องง่าย และเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถดำเนินการได้

โดยนายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ได้อธิบายกระบวนการ "ยื่นภาษี" รวมไปถึงแนวทางที่จะนำมาใช้ในอนาคตเพื่อให้การยื่นภาษีในแต่ละปีของคนไทยทุกคนที่มีรายได้ตามเกณฑ์ ทพได้อย่างง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนี้

 

 

  • ใครบ้างที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีและยื่นภาษี

นายวินิจ อธิบาย คนไทยทุกคนที่มีรายได้ไม่เกิน 300,000 บาท เป็นหน้าที่ที่ต้อง ยื่นภาษี รายได้บุคคลธรรมดาทุกกรณี แต่เนื่องจากรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่ต้องชำระภาษีเพิ่มเติม คนกลุ่มนี้จะต้องทำหน้ายื่นภาษีเพื่องแจ้งรายได้อบบไม่ต้องจ่ายภาษีใดๆ

 

 

ส่วนผู้ที่มีรายได้เกิน 300,000 ต่อปีจะต้องยื่นภาษีทุกคน พร้อมกัยชำระภาษีด้วย ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรายได้ในแต่ละปี แต่ทั้งก็สามารถทำการลดหย่อนได้ตามเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนดไว้เอา เช่น ค่าอุปการบิดา มารดา ลดหย่อนเลี้ยงดูบุตร บริจาค ประกันชีวิต กองทุนต่างๆ รวมไปถึงมาตรการของรัฐบาลในปีนั้นๆ เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน

วินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ

 

 

  • ลืม "ยื่นภาษี" ยื่นย้อนหลังได้กี่ปี เสี่ยงจะโดนเรียกย้อนหลังหรือไม่

‘หลายคงปวดใจหากโดนเรียกคืนย้อนหลังแม้ว่าจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก และเราก็ทำได้ขั้นตอนทุกอย่างแล้วไม่ได้มีเจตนาจะเลี่ยงภาษี’ 

นายวินิจ อธิบายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพื่อคลายความกังวลให้แก่ผู้ที่อาจจะลืมยื่นภาษีไปบ้าง หรือยื่นไม่ครบเพราะเอกสารมีจำนวนไว้ว่า ปัจจุบันกรมสรรพากร พยายามจะดำเนินการให้ระบบการ "ยื่นภาษี" สามารถทำได้อย่างง่าย โดยการให้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยโดยเฉพาะช่องทางการตรวจสอบรายได้ของแต่ละคนที่สามารถดูได้เลยผ่านระบบ ระบบ My Tax Account ซึ่งงหากมีการยื่นยันตัวตนด้วย แอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือ แอปพลิเคชัน Thai ID (D.DOPA) ระบบจะเชื่อมโยงข้อมูล และแสดงรายละเอียดรายได้ในแต่ละปีให้ทันที หลังจากนั้นเราสามารถ ยื่นภาษี ผ่านระบบ e-filing ได้เลย ที่ผ่านมามีประชาชนเข้าสู่ระบบนี้มากกว่า 60,000 User  ซึ่งเราเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาการยื่นภาษีได้อย่างดี

 

 

ในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานภายนอก เพื่อให้การลดหย่อนสามารถทได้ง่ายขึ้น เพียงแต่ประชาชนติ๊กข้อมูล และไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมด้วย  โดยคาดว่าในการยื่นภาษีรอบปี 2566 ประชาชนจะทำได้ง่ายด้วยระบบเทคโนโลยีที่กรมสรรพากรจะนำมาให้

 

 

นอกจากนี้กรมสรรพากร ยังมีระบบการส่งจดหมายแจ้งเตือนยังผู้ที่จะต้องชำระภาษีในแต่ละปี ซึ่งแนวทางนี้ช่วยป้องกันการลืม "ยื่นภาษี" ได้เป็นอย่างดี ส่วนการคืนภาษีที่ในอนาคตมีแผนจะนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการตรวจสอบแทนคนที่จะต้องคอยมานั่งตรวจสอบเอกสารทีละเแผ่น ซึ่งเกิดความล่าช้านั้น จะช่วยให้การคืนภาษีของประชาชนทำได้เร็วขึ้น   

 

 

‘หลายคนกลังวลว่าหากยื่นเอกสารไม่ครบ หรือลืมยื่นภาษีจะถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง กรณีไม่ต้องกังวลเพราะประชาชนสามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ 2-5 ปี และกฎหมายก็ให้ความคุ้มครองผอยู่พอสมควร ส่วนหากใครที่ไม่เคยยื่นเลยสัดครั้งก็มีเวลาในการยื่นย้อนหลังได้ 10 ปี’

 

 

  • เตือนประชาชนเจอแบบนี้เป็นมิจฉาชีพแน่นอน

 

ที่ผ่านมามีประชาชนหลายคนเคยตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่แฝงมาในคาบกรมสรรพากร ทำให้กลายคนสูญเสียเงิน รวมทั้งถูกสวมตัวตนเป็นจำนวนมาก  โดยกรรมสรรพากรได้ให้คำแนะนำเอาไว้ ว่า

 

‘เร่งรัด เร่งเร้า ไม่ใช่เราแน่นอน’

 

เพราะตามข้อมูลด้านบนที่บอกว่าเรามีเวลาในการยื่นภาษีย้อนหลังได้แม้ว่าปีนี้เราจะลืม หรือทำเอกสารตกหล่น ดังนั้นหากมีโทรศัพท์เข้ามาแล้วแจ้งให้ประชาชนเร่งรัดไปชำระ หรือยื่นภาษี ให้ประชาชนตั้งสติและอย่างหลงเชื่อ พร้อมทั้งสามารถโทรมาสอบถามกรมสรรพากรได้ที่หมายเลข 1161 ที่ผ่านมาเราสามารถช่วยให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อได้จำนวนมาก

 

 

ส่วนกรณีที่ถูกสวมตัวตน นำชื่อไปจดทะเบียนบริษัท จนกลายเป็นว่าเรามีรายได้จำนวนมาก และต้องจ่ายภาษีแพงๆ ปัญหานี้ให้ตรวจสอบให้ดี และนำหลักฐานมาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จำดำเนินการตรวจสอบให้ เพื่อให้ประชาชนตกเหยื่อมิจฉาชีพแบบง่ายๆ

 

 

‘ประชาชนคนไหนมีความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการยื่นภาษีสามารถเดินเข้ามาปรึกษากรรมสรรพากรได้เลยทันที ไม่อยากให้มองว่าสรรพากรเป็นยักษ์ หรือใจร้ายเจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมช่วยเหลือประชาชน และทำให้ระบบการยื่นภาษี จ่ายภาษี คืนเงิน กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทำได้ด้วยตัวเอง’ นายวินิจกล่าวสรุป