'แกร็บ' หามาตรการวินวิน ผลักดัน Net Zero รักษ์โลกแล้วปากท้องต้องอิ่ม
'แกร็บ' หามาตรการวินวิน ผลักดัน Net Zero ตั้งเป้าอีก 3 ปี ไรเดอร์ใช้รถ EV 10% พัฒนาเส้นทางรวบออร์เดอร์ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ในการเสวนา Road To Net Zero ซึ่งจัดโดยฐานเศรษฐกิจ ว่า "แกร็บ" เป็น แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงลูกค้า ร้านอาการ ต้องออกแนวทางอย่างไรให้วินวิน กับแนวทางการรักษ์โลก และการสร้างรายได้เพื่อปากท้องความเป็นอยู่ของไรเดอร์ รวมไปถึงผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มทั้งหมด เพื่อเป็นการขับเคลื่อนด้านการลดอัตราการปล่อยคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายในปี 2040 "แกร็บ" จะ ทำ 4 ประเด็นได้แก่ หาเครื่องมือมาทำให้คนขับอยากจะเปลี่ยนรถมาให้รถไฟฟ้า ออฟฟิศของแกร็บเป็นออฟฟิศ รีโนเบิลเอนเนอร์จี้ ลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอน และการการทำ คาร์บอนออฟเซ็ต (Carbon Offset)
นายวรฉัตร กล่าวต่อไปว่า สำหรับเป้าหมายของ "แกร็บ" ประเทศไทยในปี 2026 ได้วางแผนเอาไว้ว่า รถของไรเดอร์ที่วิ่งให้บริการประมาณ 10% จะเปลี่ยนมาเป็นรถ EV ในอีก 3 ปี ซึ่งปัจจุบันเรามีรถหลายหมื่นคันในระบบดังนั้นจะต้องค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับไรเดอร์
พัฒนาระบบเส้นทางโดยการนำเอา เอาแผนที่มาวิเคราะห์เส้นทางการวิ่งใหม่ ทำให้เส้นทางวิ่งสั้นที่สุด ทำให้เส้นทางเดียว หมู่บ้านเดียวกัน สามารถรวมออร์เดอร์ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน และยังเป็นการทำคาร์บอนออฟเซตร่วมกับผู้บริโภค
นอกจากนี้ "แกร็บ" มีการเปิดโปรแกรมที่มีผลกระทบต่อสาธารณชนมาก ๆใน โดยที่ผ่านมาในไตรมาส 4/2565 ได้ออกนโยบายให้คนขับใช้ รถEV พร้อมกับทำความเข้าใจ จัดทำโปรแกรมเช่า ที่ออกแบบมาให้ถูกกว่าค่าผ่อน รวมทั้งมีการเก็บรวมรวบข้อมูล เพื่อนำไปตั้งจุดเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ สำหรับคนขับโดยการให้บริการผ่าน แอปฯ ที่เข้าได้ เฉพาะไรเดอร์ในระบบของแกร็บเท่านั้น ซึ่งแอปฯ จะสามารถเช่ารถขับได้เลือก ตรวจสอบจุดสลับแบตเตอรี่ ปัจจุบันมีไรเดอร์สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก ส่งผลให้จุดสลับแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ
“ ต้องทำให้คนรากหญ้าเข้าใจว่าประโยชน์ที่ได้คืออะไร สามารถลดต้นทุนขอคนขับได้เท่าไหร่ แพลตฟอร์มแกร็บทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมโยงระหว่างสังคม สิ่งแวดล้อม ปากท้องความเป็นอยู่ของไรเดอร์”
ส่วนมาตรการการทำนโยบายการลดอัตราการปล่อยคาร์บอนนั้น ปัจจุบันแกรปพัฒนาแผนที่ที่ละเอียดมากขึ้น กำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดให้แก่คนขับเพื่อประหยัดพลังงาน และลดคาร์บอนที่ปล่อยออกมาได้เพราะเส้นทางที่สั้นลง รวมทั้งการทำคาร์บอนออฟเซตในแพลตฟอร์ม ให้ลูกกค้าบริจาคเงินเพื่อทำคาร์บอนออฟเซต นำเงินไปปลุกป่า เริ่มโครงการ 1 ปี แล้วและมีการปลูกป่า 50,000 ต้น ตั้งเป้าปลูกป่าเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เราให้ความสำคัญด้านเอ็มพาวเวอร์ที่จะผลักดันคนในสังคมได้มีคุณภาพชีวิต มีสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น