"เปิดผับตี 4" ช่วยกระตุ้นรายได้ ถ้าให้ดีต้องปลดล็อกเวลาขายแอลกอฮอล์ด้วย | คมชัดลึก

ชัดเจนแล้วสำหรับการ "เปิดผับตี 4" หลังจากทีนโยบายนี้ถูกผักดันมาหลายต่อหลายครั้งในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะเริ่มนำร่องในพื้นที่โซนนิ่ง ซึ่งแน่นอนว่ากรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่แรกๆ  ที่จะได้เริ่มทดลอง "เปิดผับตี 4" ก่อน 

 

 

สำหรับการ "เปิดผับตี 4" หลายคน หลายฝ่าย อาจจะกังวลในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัย และการก่อความวุ่นวาย รำคาญ แต่หากมองในแง่กระตุ้นเศรษฐกิจนโยบาย "เปิดผับตี 4" ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในภาคธุรกิจบริการเติบโตมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพที่จะสามารถแข่งขัน และปรับตัวรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น 

 

 

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึก ว่า สมาคมเห็นด้วย นโยบายการ "เปิดผับตี 4" เพราะเป็นการขยายเวลาจากเมเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ทางผู้ประกอบการในย่านถนนข้าวสาร มีความพร้อมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะต้องเตรียมความพร้อมต่อจากนี้คือการหารือกับ สน.ชนะสงคราม และสำนักงานเขตพระนคร  เพื่อวางแผนความปลอดภัยของนักเที่ยว และเพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อาศัยโดยรอบ

 

 

โดยเฉพาะการ "เปิดผับตี 4" ในระยะยาว ซึ่งภาครัฐจะต้องมีการวางแผน จัดโซนนิ่ง เพื่อให้การดูแลพื้นที่ทำได้ดี และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น  และไม่ต้องมีการตั้งด่านตรวจแบบกระจัดกระจายเหมือนที่ผ่านมาซึ่งก็จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำานได้ง่ายขึ้น  อย่างไรก็ตามเบื้องต้นสำหรับการ "เปิดผับตี 4" ในช่วงแรกอาจจะต้องกำหนดพื้นที่ไปก่อน เช่น ในถนนข้าวสาร ย่านสุขุมวิท โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในโซนนี้จะต้องมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นด้วย รวมทั้งมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย 

นายสง่า กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ประกอบในถนนข้าวสารปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 30 ราย โดยมีทั้งผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ และสตรีทฟู้ด ทั้งนี้คาดการณ์ว่าหากมีการ "เปิดผับตี 4" ในระยะสั้นจะสามารถกระตุ้นรายได้ในพื้นที่ถนนข้าวสารให้เติบโตขึ้นราวๆ  20-30% ส่วนในระยะยาวคาดว่าจะเติบโตกว่า 40-50%   ซึ่งเป็นแนวทางที่จะกระตุ้นรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้นไม่ใช่แค่ผับ บาร์ เท่านั้น เพราะผู้ประกอบการร้านอาหารสตรีทฟู้ดโดยรอบก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย ตนเห็นว่านโยบาย "เปิดผับตี 4" หากมีการวางแผนควบคุมให้ดี จะช่วยผู้ประกอบการภาคบริการในประเทศไทยมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น 

 

 

"หลังจากคงจะต้องมีการเรียกผู้ประกอบมาประชุม หารือ และแจ้งมาตรการอีกทั้งเพื่อลดผลกระทบกับชุมชนที่อยู่โดยรอบ เพราะที่ผ่านมาถนนข้าวสารได้รับการร้องเรียนเรื่องเสียงดังมาโดยตลอด หากขยายเวลาเปิดถึงตี 4 จะต้องระบุให้ชัดเจนไปเลยว่าหากร้านเป็นระบบเปิดจะอนุญาตให้เปิดให้แค่ถึงตี 1 เท่านั้น หากผู้ประกอบการต้องการเปิดร้านถึงตี 4 จะต้องปรับปรุงร้านให้เป็นระบบปิดมีที่กั้นเสียงดังจึงจะดำเนินการได้"

 

 

นอกจากการขยายเวลา "เปิดผับตี 4" แล้ว นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร ยังบอกอีกว่า นอกเหนือไปจากการขยาย "เปิดผับตี 4" แล้ว สิ่งหนึ่งที่ภาครัฐควรจะดำเนินการให้สอดคล้องกันคือการปลดล็อกเวลาขายแอลกอฮอล์ จากเดิมที่ห้ามขายในเวลา 14.00-17.00 น. ควรจะปลดล็อกให้สามารถขายได้ รวมไปถึงการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพราะข้อบังคับดังกล่าวให้ความสำคัญเฉพาะกับผู้บริโภค แต่ไม่ได้คำนึงถึงผู้ประกอบการ ซึ่งที่ผ่านมาทำให้เสียโอกาสไปค่อนข้างมาก ดังนั้นหากมีการปลดล็อกขยายเวลาเปิดผับแล้ว ก็ควรจะยกเลิกเวลาห้ามขายเหล้าไปด้วย  

 

 

• ผับปิดตี 4 กทม. จะเริ่มได้เมื่อไหร่ 

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2566 นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า  กรุงเทพมหานคร (กทม.)  ไม่ขัดข้องในนโยบาย "เปิดผับตี 4" ที่ผ่านมาได้หารือกับทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ เรื่อง Soft Power ที่เสนอความคิดร่วมกันที่จะทำให้เรื่องดังกล่าวชัดเจนและก็มีมาตรการรองรับในการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งในปัจจุบันยังเห็นผับที่เปิดเกินเวลาอยู่บ้างถ้าทุกคนออกมาร่วมกันทำให้ถูกกฎหมายและทำให้มีระเบียบในการเข้า-ออกให้ชัดเจน

 

 

ทางส่วนของ กทม. ก็ไม่น่าจะมีข้อขัดข้องอันใดและคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ในการปฏิบัติอาจจะต้องปรับปรุงการแบ่งโซน ให้เหมาะสมกับปัจจุบัน เนื่องจากไม่ค่อยทันสมัยตามการขับเคลื่อนของเมืองที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โดยต้องหารือกับทางตำรวจอีกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังสร้างความรำคาญให้ผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง  โดยเฉพาะการกำกับดูแลไม่ให้เยาวชนเข้าสถานบันเทิงและการทำผิดกฎหมายในเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ คาดว่าเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทดลองเปิดสถานบันเทิงจนถึง 04.00 น. คือช่วงเทศกาลปีใหม่ประมาณ ธ.ค. 2566