คอลัมนิสต์

ชำแหละ'คุกเขาบิน'แค่ทางออกฉุกเฉิน

ชำแหละ'คุกเขาบิน'แค่ทางออกฉุกเฉิน

03 ก.พ. 2555

ชำแหละ'คุกเขาบิน'แค่ทางออกฉุกเฉิน : ขยายปมร้อน โดยปิยะนุช ทำนุเกษตรไชย

             ตลอดทั้งสัปดาห์ ชื่อเรือนจำกลางเขาบิน ถูกยกมากล่าวอ้างว่า เป็นที่หมายของการย้ายนักโทษคดียาเสพติด 500-600 คน ที่เป็นนักค้ารายสำคัญ หรือติดคุกแล้วยังไม่หยุดพฤติการณ์สั่งซื้อขายยาเสพติด ไปแยกขัง เพื่อตัดวงจรการสั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ
 
             คุกเขาบิน หรือชื่อเดิม ทัณฑสถานบำบัดพิเศษเขาบิน มีเนื้อที่รวม 300 ไร่ ในอดีตเป็นที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาบิน ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ก่อสร้างเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงเพื่อรองรับนักโทษที่ต้องโทษอุกฉกรรจ์ กำแพงโดยรอบเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 7 เมตร ออกแบบเป็นรูปแปดเหลี่ยม ด้านหน้าประตูเป็นตึกอำนวยการ ทิศตะวันออกห่างจากภูเขาหินลับประมาณ 300 เมตร ทิศเหนือยังเป็นเขตป่าสงวนฯ ส่วนทิศตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ถูกใช้เป็นบ้านพักอาศัยของข้าราชการราชทัณฑ์
 
             เรือนจำเขาบินถูกออกแบบมาเพื่อขังนักโทษ โดยมีอัตราความจุมาตรฐานอยู่ที่ 1,470 คน และอัตราความจุเต็มที่ 3,000 คน ปัจจุบันมีนักโทษรายสำคัญในพื้นที่ภาค 7 ถูกคุมขังอยู่ 2,580 คน ภายในแยกพื้นที่เป็นส่วนควบคุมต่างๆ แบ่งเป็น แดนควบคุมผู้ต้องขัง 4 แดน เรือนนอน โรงงานฝึกวิชาชีพ แดนพยาบาล แดนสูทกรรม และแดนการศึกษา ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ว่างจัดเป็นสนามกลางใช้สำหรับออกกำลังกายประจำวัน
 
             สำหรับคนทั่วไปที่ไม่เคยมีประสบการณ์ผ่านคุก ผ่านตะราง อาจมองภาพคุกเขาบินโดยเอาไปเปรียบเทียบกับหนังฮอลลีวู้ดแล้วเผลอจินตนาการไปว่า คุกเขาบินคงจะเป็น “อัลคาทราซเมืองไทย”
 
             แต่จากสภาพทางกายภาพ คุกเขาบินอาจเปรียบได้แค่ “คุกชอว์แชงค์” เพราะยังมีช่องทางจัดส่งสิ่งของตามออเดอร์เข้าไปให้นักโทษในเรือนจำได้ เวลากลางวันก็จะเห็นนักโทษนับพันคนนั่งพักผ่อนในสนาม หรือจับกลุ่มพูดคุยกันตามอัธยาศัย
 
             คุกเขาบิน จึงไม่ได้พิเศษไปจากบางขวาง คลองเปรม จะแตกต่างตรงที่เป็นคุกที่ใหม่กว่า กว้างขวางกว่า ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและมีเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ แต่คนในแวดวงรู้กันดีว่า เครื่องแจมเมอร์ที่ตั้งเสายิงสัญญาณเข้าไปรบกวนคลื่นสัญญาณภายในเรือนจำนั้น ประสิทธิภาพไม่เต็มร้อย ยังมีจุดที่ยังสามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารได้
 
             นอกจากนี้ คุกเขาบิน ยังถือเป็นหนึ่งในคุกรูปแบบเก่า ออกแบบมาสำหรับขังรวมนักโทษตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป โดยให้อยู่ร่วมภายในแดนคุมขังเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่เข้าเวรยาม 10 คน และเฝ้าประจำจุด จุดละ 1 คน
 
             หลังเปิดเรือนนอน 6 โมงเช้าของทุกวัน นักโทษทุกคนในแดนจะออกมารวมกันในโรงเลี้ยง กินข้าว และออกกำลังกายร่วมกันในสนามกีฬากลาง จนกระทั่งเวลา 15.30 น. ได้เวลาเตรียมตัวขึ้นเรือนนอน ทำให้ผู้คุมที่มีอยู่น้อยนิดไม่สามารถสแกนพฤติกรรมของนักโทษเป็น 1,000 คนผ่านระบบกล้องวงจรปิดได้อย่างครอบคลุม แม้กระทั่งเวลาช่วงสั้นๆ ระหว่างนั่งรอคิวเยี่ยมญาติ นักโทษก็ยังมีโอกาสสั่งซื้อ-ขาย "สินค้า" ได้ภายในห้องเยี่ยม ชนิดแทบจะเผาขนผู้คุมเลยทีเดียว
 
             แม้กรมราชทัณฑ์จะมีคำสั่งให้แยกแดนพิเศษ สำหรับคุมขังนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ห้ามไม่ให้มีการฝึกอาชีพหรือหุงหาอาหารภายในแดนความมั่นคงพิเศษ เพื่อตัดวงจรไม่ให้นักค้าระดับหัวกะทิไปยุ่งเกี่ยวปะปนกับนักโทษอุกฉกรรจ์คดีปล้นฆ่า
 
             แต่ในแดนขังอื่นๆ ยังมีโรงฝึกอาชีพ มีแดนสูทกรรมสำหรับหุงต้มอาหาร หนีไม่พ้นการมีรถยนต์ขนส่งวัตถุดิบเข้าออกเรือนจำเป็น 100 คัน โอกาสในการซุกซ่อนอุปกรณ์สื่อสารและยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำยังคงมีอยู่ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งยังไม่นับรวมแก๊งแมวน้ำดีลิเวอรี่ ที่รับจ้างโยนโทรศัพท์ข้ามกำแพงเรือนจำส่งไปให้นักโทษตามออเดอร์
 
             นาทีนี้ ด้วยศักยภาพ คุกเขาบินเป็นแค่ทางออกฉุกเฉิน ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงที่เครือข่ายยาเสพติดจากในเรือนจำเหิมเกริมจนเอาไม่อยู่ เพื่อก้าวไปสู่การสร้างเรือนจำซูเปอร์แมกซ์ หรือคุกซ้อนคุก

 

...................

(หมายเหตุ : ชำแหละ'คุกเขาบิน'แค่ทางออกฉุกเฉิน : ขยายปมร้อน โดยปิยะนุช ทำนุเกษตรไชย)