
เร่งแก้'ปากท้อง'กำจัดจุดอ่อนรบ.
เร่งแก้"ปากท้อง"กำจัดจุดอ่อนรัฐบาล : ขยายปมร้อน โดย ศรุติ ศรุตา
หลังจากที่สายฝนโปรยปรายลงมา อย่างเย็นชื่นฉ่ำทั่วพื้นที่โรงพยาบาลศิริราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ ในการพระราชพิธีฉัตรมงคล ด้วยพระพักตร์ที่สดใส พร้อมโบกพระหัตถ์ให้แก่พสกนิกรที่มารอรับเสด็จ
นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พสกนิกรชาวไทยต่างปลื้มปีติ ส่งผลให้อุณหภูมิการเมืองที่ร้อนระอุ ตามสภาพของอากาศยามนี้ ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด
แต่ไม่ว่าอารมณ์ ความรู้สึกของผู้คนที่มีต่อรัฐบาลจะเป็นอย่างไร รัฐนาวาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังไม่พ้นที่จะถูกตั้งคำถาม ถึงผลงานในช่วง 9 เดือน ว่ามีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากน้อยแค่ไหน
ดั่งสำนวนไทยที่ว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” ยังคงใช้ได้กับทุกยุคสมัย เพราะผลงานที่ออกมานั้น ก็เป็นตัวฟ้องการทำงานของรัฐบาลเอง!
ความรู้สึกนึกคิด มุมมองของผู้คนยามนี้ สะท้อนผ่านผลโพลล์ต่างๆ ที่ออกมาได้เป็นอย่างดี ว่าน้ำอดน้ำทนต่อปัญหาที่ระทมทุกข์อยู่ในขณะนี้ ใกล้จะถึงจุดเดือดเมื่อไหร่ เมื่อสถานการณ์ออกมาในรูปนี้ ทำให้นายกฯ ตัวจริงที่สยายปีกอยู่ต่างแดน ต้องรีบเร่งใส่เกียร์ 5 เพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง ของตัวเองให้เร็วที่สุด
แต่ก็ไม่วายมีกระแสข่าวแว่วออกมาล่าสุด "ทักษิณ ชินวัตร" จะยังคงให้น้องสาวลากยาวไปจนกว่า การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 จะผ่านความเห็นชอบ จากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้นจึงจะประเมินอีกครั้งว่าควรจะปรับคณะรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ 3 ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม หรือไม่
เพราะขณะนี้แรงกระเพื่อมทั้งในพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงมากมาย จนทักษิณสุดที่จะทานทน จึงต้องติดเบรกกะทันหัน เพราะเกรงว่าพรรคจะแตกเสียก่อน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเสียงลือในพรรคเพื่อไทยแว่วออกมาว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเลือกใช้วิธียุบสภาเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเมือง หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ และผลการเลือกตั้ง สสร.ออกมาเรียบร้อย
แต่เหมือนพระเจ้าไม่เข้าข้าง เพราะหลังจากประเมินความนิยมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้วพบว่า ความนิยมตกต่ำมากอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยมาจาก 1.การบริหารราชการแผ่นดินที่เหลวไม่เป็นท่า 2.อีกทั้งคนที่เคยตกปากรับคำไว้ว่าจะให้เป็นรัฐมนตรี ในอีก 6 เดือน 8 เดือน ก็ถูกโรคเลื่อนออกไปเป็น 2 ปี ส่วนโควตาของคนเสื้อแดง ที่วาดหวังว่าจะได้เชิดหน้าชูตา เพราะมีแกนนำนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีถึง 2 คน ก็ถูกยื่นโนติสให้เหลือเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น !
3.แม้ว่าปลายเดือนนี้ การกลับมาของอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ทั้ง 111 คน จะสร้างสีสันให้คอการเมืองมีลุ้นว่าจะมีใครเข้าวินบ้าง เพื่อเสริมจุดแข็งให้รัฐบาล ดึงกระแสกลับมาเป็นบวก แต่เอาเข้าจริงตอนนี้ ทักษิณกำลังประเมินสถานการณ์บนเส้นด้าย ที่จะยังไม่ปรับเปลี่ยน ต้องดึงเกมเรื่องการปรองดองให้นิ่งเสียก่อน ดังนั้นทักษิณกลัวว่าหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆเพื่อไทยจะพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
4.กระแสนิยมของทักษิณยามนี้อยู่ในช่วงบัวปริ่มน้ำ แตกต่างจากก่อนมาก เพราะขณะนี้คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ออกอาการฮึดฮัดกับแนวทางที่ "ทักษิณ" ให้ "ยิ่งลักษณ์" ไปยอมสยบต่ออำมาตย์
สะท้อนปฏิกิริยาต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์เสื้อแดง รวมทั้งแดงยูเอสเอ และแดงยุโรป ซึ่งเป็นการผลักเสียงสนับสนุนให้ห่างออกไป ทำให้ยามนี้ก็จะมีก็แต่เสื้อแดงที่รักทักษิณอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่ไม่มีชั้นเชิงการเมืองมาเป็นฐานเท่านั้น การขับเคลื่อนต่างๆ จึงอ่อนแรงไร้พลัง
เมื่อไม่มีแดงอุดมการณ์และแดงล้มเจ้า ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการเคลื่อนไหว และรู้จักจังหวะทางการเมืองเคลื่อนทัพมวลชน จึงทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามแนวทางที่วางไว้อาจเกิดกระแสตีกลับก็เป็นได้
เมื่อรูปการณ์จากหัวมาเป็นก้อยแบบนี้ ทำให้ทักษิณต้องแก้เกม ด้วยการแสดงภาวะความเป็นผู้นำต่อมวลชนคนเสื้อแดง ด้วยการลุกขึ้นสู้กับอำมาตย์อีกครั้ง เพราะจะอาศัยการขับเคลื่อนโดยให้ส.ส.เพื่อไทย ใช้จำนวนเสียงในสภาอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ หากไม่มีการขับเคลื่อนนอกสภาเป็นกองหนุน
สิ่งที่วาดหวังไว้ก็อาจจะไม่สำเร็จ จากกระแสต่อต้าน เช่น ยกเลิกมาตรา 309 เพิกถอนผลทางกฎหมาย ที่ คตส.ได้ดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้ หรือสภาไม่สามารถพิจารณา แก้ไขวาระ 2 และ 3 ให้เป็นผลสำเร็จได้ หรือการขับเคลื่อนในสภามาจบลงแค่ กระบวนการได้มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)
ดังนั้นการพลิกเกมเร็ว แก้ให้ตรงจุดนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้ชาวบ้านเห็นแล้วว่ารัฐบาลพูดอย่าง ทำอย่าง เมื่อความเบื่อหน่ายรัฐบาลเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล หยิบยกขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
มีคำพูดกรอกหูชาวบ้านให้ได้ยินอย่างต่อเนื่องว่า “แพงทั้งแผ่นดิน” ดังนั้นหากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้ สิ่งที่รัฐบาลทำมาก็เปล่าประโยชน์
.................
(หมายเหตุ : เร่งแก้"ปากท้อง"กำจัดจุดอ่อนรัฐบาล : ขยายปมร้อน โดย ศรุติ ศรุตา)