
'นรข.เชียงราย'ผู้พิทักษ์สามเหลี่ยมทองคำ
ส่องภารกิจ'นรข.เชียงราย'ผู้พิทักษ์สามเหลี่ยมทองคำ : ตะลุยกองทัพโดยทีมข่าวความมั่นคง
"สามเหลี่ยมทองคำ" ดินแดนที่เคยเป็นตำนานแหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่ที่สุดของโลกและในปัจจุบันแม้ภาพลักษณ์ที่ว่าจะเจือจางลงไปมาก แต่ปัญหาอื่นก็ยังคงอยู่ ทั้งปัญหายาเสพติด, การหลบหนีเข้าเมือง, ของหนีภาษี ฯลฯ โดยหนึ่งในหน่วยงานความมั่นคงที่พิทักษ์ชายแดนด้านนี้ คือ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตเชียงราย (นรข.เขตเชียงราย)
นรข.เขตเชียงราย ถือเป็นหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือ ขึ้นการบังคับบัญชาโดยตรงกับ นรข. มี พล.ร.ต.รังสรรค์โตอรุณ เป็นผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) โดยกองบัญชาการ นรข.ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.นครพนม ในส่วนของการปฏิบัติงานทางยุทธการของ นรข.เขตเชียงราย ขึ้นการควบคุมกับกองกำลังผาเมือง (กกล.ผาเมือง)
ปัจจุบันมี น.อ.โสภณรัชตาภิรักษ์ เป็น ผบ.นรข.เขตเชียงราย โดยมีหน่วยในบังคับบัญชา 2 สถานีเรือ คือ 1.สถานีเรือเชียงแสนและ2.สถานีเรือเชียงของ ภารกิจหลักคือ การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย, คุ้มครองช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ ตามหลักมนุษยธรรมในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวลำแม่น้ำโขง
นรข.เขตเชียงราย มีพื้นที่รับผิดชอบตามลำแม่น้ำโขงตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ ที่บ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน ไปสิ้นสุดที่แก่งผาได บ้านห้วยลึก ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น รวมระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล 39 หมู่บ้าน
หน่วยข่าว นรข.เขตเชียงราย กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของแนวชายแดนด้านนี้ว่า พื้นที่ในความรับผิดชอบของ นรข.เขตเชียงรายนั้น จะเห็นได้ว่ามีพื้นที่ล่อแหลม สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดกฎหมายอยู่หลายจุด และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งปริมาณและความรุนแรง
ปัจจัยที่เอื้อต่อการกระทำผิดกฎหมาย เนื่องจากมีการพัฒนาพื้นที่ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งฝั่งไทยและฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่ยังขาดการควบคุม และการจัดระเบียบที่รัดกุมเหมาะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา และอาจยกระดับเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติได้โดยง่าย
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวคนเดิมเผยว่า "แนวโน้มการแพร่ระบาดของยาเสพติดในปัจจุบันยังคงเพิ่มสูงขึ้น และนอกจากการลำเลียงผ่านช่องทางชายแดนทางบกแล้ว ยังมีการใช้เส้นทางลำเลียงในแม่น้ำโขงเพิ่มมากขึ้นด้วย"
ส่วนการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น การลักลอบขนสินค้าหนีภาษีเพื่อหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.ศุลกากร ตลอดแนวพื้นที่ชายแดนไทย-ลาวยังคงมีกลุ่มผู้ลักลอบกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เช่น การโจรกรรมรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน, การลักลอบนำสินค้าอุปโภค-บริโภคเข้ามายังประเทศไทย หรือการลักลอบนำข้าวเข้ามา ซึ่งสามารถตรวจยึดได้มากกว่า 30 ตัน
ด้านสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่นั้น หน่วยข่าว นรข.เขตเชียงรายระบุว่า ส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวลาว พม่า จีน และเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ชาวลาว และพม่า ส่วนใหญ่จะเข้ามาตามช่องทางผ่านแดน เพื่อเข้ามาซื้อเครื่องอุปโภค-บริโภค รักษาพยาบาล เยี่ยมญาติ และมีส่วนหนึ่งเข้ามาขายแรงงานในภาคการเกษตร ก่อสร้าง และการบริการในพื้นที่ชายแดนไทยในระยะสั้น รวมทั้งมีขบวนการลักลอบนำพาเข้าไปพื้นที่ตอนในของประเทศด้วย
ขณะที่การเข้ามาของชาว "เกาหลีเหนือ" จะกระทำกันเป็น "ขบวนการ" โดยกลุ่มผู้ที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองจะเดินทางออกจากเกาหลีเหนือผ่านประเทศจีน, ลาว แล้วลักลอบข้ามแม่น้ำโขงเข้ามายังประเทศไทย บริเวณ อ.เชียงแสน หรือ อ.เชียงของจ.เชียงราย
"ผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ประสงค์จะให้ทางการไทยจับกุม เพื่อจะส่งต่อไปประเทศที่สาม โดยเฉพาะเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม จากการปฏิบัติงานที่ผ่านมาทำให้แนวป้องกันสกัดกั้นตลอดลำแม่น้ำโขงมีความเข้มแข็ง สามารถกดดันป้องปรามผู้ที่กระทำความผิดได้เป็นอย่างมาก ทำให้ปัญหาเหล่านี้เริ่มลดลง แหล่งข่าวนรข.เขตเชียงราย ระบุ
จากข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายในด้านต่างๆ ทั้งการลักลอบลำเลียงยาเสพติด, ของหนีภาษี, การหลบหนีเข้าเมือง ฯลฯ แสดงให้เห็นว่า สามเหลี่ยมทองคำยังคงมีภัยที่คุกคามต่อความมั่นคงแฝงเร้นอยู่ แม้ทั้ง 3 ประเทศที่เกี่ยวข้องจะมีการพัฒนาในด้านต่างๆ มากแล้ว จึงเป็นภาระหนักของ นรข.เขตเชียงราย ที่จะต้องสอดส่องดูแลไม่ให้ปัญหาต่างๆ กระทบต่อความมั่นคงของประเทศเรา
.............
(หมายเหตุ : ส่องภารกิจ'นรข.เชียงราย'ผู้พิทักษ์สามเหลี่ยมทองคำ : ตะลุยกองทัพโดยทีมข่าวความมั่นคง)