
จับตาญวนช็อป'เรือพิฆาต-บินรบ'ลอตใหญ่
จับตาแสนยานุภาพ'กองทัพญวน' ช็อป'เรือพิฆาต-บินรบ'ลอตใหญ่ : ตะลุยกองทัพ โดยทีมข่าวความมั่นคง
ในภูมิภาคอาเซียน "กองทัพเวียดนาม" ได้รับการยอมรับว่า มีแสนยานุภาพทางการทหารเป็นลำดับต้นๆ ของภูมิภาค โดยเฉพาะอิทธิพลจากวีรกรรมในสงครามเวียดนามของทหารเวียดกง หรือในช่วงก่อนหน้านั้นที่สามารถประกาศอิสรภาพจากมหาอำนาจฝรั่งเศสได้สำเร็จ ส่งผลให้เผ่าพันธุ์นักรบเชื้อสายญวนได้รับการกล่าวขวัญในแง่ของความเก่งกล้าในสนามรบไม่แพ้ชาติใดในโลก
สำหรับโครงสร้างของกองทัพเวียดนามในปัจจุบัน ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองกำลังชายแดน และตำรวจน้ำ มีกำลังพลประจำการประมาณแสนกว่านาย โดยจุดเด่นของกำลังรบเวียดนาม คือ รถถัง และปืนใหญ่ขนาดต่างๆ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย และจีนเป็นจำนวนมากในยุคสงครามเวียดนาม
กองทัพเวียดนามได้พยายามสร้างงานวิจัย และพัฒนากองทัพให้ทันสมัยอยู่เสมอ เช่น ความสำเร็จในการทดสอบการบินของ "อากาศยานไร้คนขับ" หรือยูเอวี โดยสถาบันเทคโนโลยีอวกาศของเวียดนาม ซึ่งใช้เวลาในการออกแบบ และวิจัยนานกว่า 5 ปี กระทั่งสามารถสร้างยูเอวีต้นแบบ จำนวน 3 รุ่น รวมทั้งสิ้น 5 ลำ
ด้านกองทัพเรือก็ได้มีการปรับเปลี่ยนให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะการต่อเรือเรือคอร์แว็ตชั้น “ซิกม่า” (SIGMA) จำนวน 4 ลำ ซึ่งเป็นการต่อเรือขึ้นใช้เอง และนับเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของอุตสาหกรรมต่อเรือ และอุตสาหกรรมกลาโหมของเวียดนาม ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถต่อได้เพียงเรือเร็วตรวจการณ์ติดจรวดนำวิถี และเป็นการต่อตามแบบของอดีตสหภาพโซเวียตเท่านั้น
สำหรับเรือเรือคอร์แว็ตชั้น “ซิกม่า” จำนวน 4 ลำ กองทัพเวียดนามได้ขอซื้อระหว่างที่ผู้นำเวียดนามเดินทางไปเยือนเนเธอร์แลนด์ ได้แก่ 1.เรือคอร์แว็ตติดจรวดนำวิถีชั้นซิกม่า หมายเลข 614 (กำลังต่อในเนเธอร์แลนด์) 2.เรือคอร์แว็ตติดจรวดนำวิถีชั้นซิกม่า หมายเลข 613 (กำลังต่อในเนเธอร์แลนด์) โดยทั้ง 2 ลำไม่เปิดเผยระบบเครื่องยนต์กับระบบอาวุธ
3.เรือคอร์แว็ตชั้นซิกม่า 9113 ติดจรวดเอ็กโซเซ็ต หรือเอ็กโซเซ่ต์ (Exocet) โดยเวียดนามกำลังจะเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเรือชั้นนี้ต่อจากกองทัพอินโดนีเซีย โดยซื้อจากเนเธอร์แลนด์ทั้งหมด 4 ลำเช่นกัน และ 2 ลำ กำลังต่ออยู่ในเวียดนาม
4.เรือคอร์แว็ตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้นตารานตุล (Tarantul-1) ของกองทัพเรือรัสเซีย แบบเดียวกับที่มีประจำการในกองทัพเวียดนามจำนวน 6 ลำ และเวียดนามกำลังต่อเรือชั้นมอลลียา (Molniya) อีก 4 ลำ จากโครงการทั้งหมด 10 ลำ ทั้งยังมีเรือชั้นพ็อค (Pauk) อีก 3 ลำ และกำลังต่อชั้นซิกม่า อีก 4 ลำ
รวมแล้วกองทัพเรือเวียดนามจะมีกองเรือคอร์แว็ตใหญ่โตกว่า 20 ลำในเร็วๆ นี้ และจะกลายเป็นกองเรือที่มีขีดความสามารถเป็นลำดับต้นๆ ของภูมิภาคอาเซียนในทันที
นอกจากนี้ กองทัพเรือเวียดนามยังได้จัดซื้อ "เรือดำน้ำ" จำนวน 6 ลำ มูลค่า 1.8 พันล้านดอลาาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.4 หมื่นล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมในกรณีความขัดแย้งในการอ้างกรรมสิทธิ์ของ "หมู่เกาะสแปรตลีย์" ในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีการอ้างกรรมสิทธิ์ร่วมกับอีกหลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
ขณะที่กำลังรบทางอากาศของกองทัพอากาศเวียดนามส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินขับไล่/โจมตีจากค่ายรัสเซีย เช่น เครื่องบินรุ่น Sukhoi Su-30MK2V Flanker-C // Tho Xuan 923 จำนวน 12 ลำ, เครื่องบินรุ่น Sukhoi Su-27PU Flanker จำนวน 2 ลำ, เครื่องบินรุ่น Sukhoi Su-27UB Flanker จำนวน 7 ลำ (รับมอบทั้งหมด 8 ลำ แต่เกิดอุบัติเหตุตกไป 1 ลำ เมื่อปี 2541)
เครื่องบินขับไล่/โจมตี รุ่น Sukhoi Su-27UBK Flanker // Phu cat 93 จำนวน 5 ลำ, เครื่องบินรุ่น Mikoyan MiG-21Bis Fishbed-L/N/UM (Noi Bai, Kep, Da Nang)/ Noi Bai 921, Kep 927, Da Nang 929 จำนวน 60 ลำ เครื่องบินรุ่น Sukhoi Su-22 M3,U Fitter-J // Yen bai 931, Do vinh 937 จำนวน 29 ลำ
เครื่องบินขับไล่/โจมตี รุ่น Sukhoi Su-22 M4, UM3 Fitter-k // Yen bai 931, Do vinh 937 จำนวน 24 ลำ, เครื่องบินรุ่น Sukhoi Su-22 M4P // Yen bai 931 จำนวน 10 ลำ เครื่องบินรุ่น Aero Vodochody L-39C Albatross // Dong Tac 910 จำนวน 26 ลำ
พิจารณาจากกำลังรบในขณะนี้ จึงนับได้ว่าเวียดนามได้เสริมสร้างเขี้ยวเล็บอย่างขนานใหญ่ และอาจส่งผลได้ผลเสียต่อความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ที่มักจะมี "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" โผล่เข้ามามีบทบาทอยู่ด้วยเสมอ
.............................
(หมายเหตุ : จับตาแสนยานุภาพ'กองทัพญวน' ช็อป'เรือพิฆาต-บินรบ'ลอตใหญ่ : ตะลุยกองทัพ โดยทีมข่าวความมั่นคง)