คอลัมนิสต์

'ดาวแดงกำมะลอ'มีไว้ขาย

'ดาวแดงกำมะลอ'มีไว้ขาย

20 มิ.ย. 2556

'ดาวแดงกำมะลอ'มีไว้ขาย : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา


             ผมเชื่อว่าพักนี้ คนอ่านจะเห็นภาพข่าวคนสวม "หมวกดาวแดง" บนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ ผู้สื่อข่าวรุ่นใหม่โตไม่ทันยุคสงครามเย็น ยังนึกไม่ออกเสียด้วยซ้ำไปว่าชุดอะไร จึงรายงานข่าวว่าแต่งกายคล้ายทหาร

             ต้องบอกว่า คนแถวสนามหลวงแต่งกายเต็มยศ เสื้อเขียว กางเกงเขียว หมวกเขียวมีดาวแดงขลิบขอบเหลือง และป้ายอักษรย่อ "ทปท." ติดหน้าอก นี่คือเครื่องแบบทหารหลักของ "กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย" (ทปท.)

             แต่ขอบอกว่า นับแต่ปี 2527 กองทัพปลดแอกฯ ก็ไม่เหลือสภาพความเป็นกองทัพดำรงอยู่ เพราะทหารดาวแดงทยอยออกมอบตัวจนป่าร้าง และขณะนี้ทั่วภาคอีสาน กำลังมีการคัดกรอง "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย" (ผรท.) อันสืบเนื่องมาจากโครงการช่วยเหลือ ผรท. ตามคำสัญญาของกองทัพที่ให้ไว้กับทหารปลดแอกฯ ออกมอบตัวต่อทางการ 

             ที่ผ่านมา รัฐบาลสุรยุทธ์ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็ช่วยเหลือ ผรท.ทั่วประเทศไปแล้ว ประมาณหมื่นคน และยังเหลือ "ผรท.ตกค้าง" ไม่กี่พันคน ซึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังดำเนินการช่วยเหลืออยู่ในเวลานี้

             ปลายสัปดาห์ก่อน สุชาติ สูงเรือง นักข่าวอำนาจเจริญ ส่งรายงานข่าวมาว่า ในปี 2556 คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จ.อำนาจเจริญ มีมติให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่มีปัญหาความเดือดร้อนมาลงทะเบียนรับคำร้องจากคณะกรรมการด้วยตนเอง และยื่นคำร้องด้วยตนเอง

             โดยตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2556 ถึง วันที่ 15 พฤษภาคม 2556 มีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย มายื่นคำร้อง 4,731 ราย ซึ่งแยกเป็นคนพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ 2,949 ราย ได้แก่อำเภอหัวตะพาน, อำเภอลืออำนาจ, อำเภอพนา และอำเภอเมือง 532 ราย, อำเภอปทุมราชวงศา จำนวน 334 ราย, อำเภอชานุมาน 528 ราย, อำเภอเสนางคนิคม 1,554 ราย และที่เหลือเป็นผู้ที่ยื่นคำร้องจากจังหวัดอื่นๆ

             ในฐานะที่ผมเคยเข้าป่าเขต 444 (อำนาจเจริญ-ยโสธร-มุกดาหาร) เห็นตัวเลขข้างต้น ฟันธงได้ทันทีว่า ร้อยละ 98 ของผู้ยื่นคำร้อง ไม่ใช่ "คนป่า" หรือทหารปลดแอกฯ

             ผรท.ตัวจริงที่ตกค้างอยู่ในเขตอำนาจเจริญ ไม่น่าจะเกินร้อยคน เพราะมีการช่วยเหลือไปแล้วตอนที่ออกมอบตัวปี 2525 ก็ได้ที่ดิน 15 ไร่ บ้าน 1 หลัง พอมาถึงรัฐบาลสุรยุทธ์ ได้คนละแสนบาท และรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้คนละสองแสนเศษ

             เหตุที่ตัวเลขผู้ยื่นคำร้องเป็น ผรท. มันสูงเกินจริง เพราะมี "ขบวนการนายหน้าค้าซากสหาย" โดยมีคนกลุ่มหนึ่งออกไปล่ารายชื่อชาวบ้าน โดยอ้างว่า ใครอยากได้เงิน 2.2 แสน ให้ลงชื่อเป็นสมาชิก ผรท. ซึ่งต้องจ่ายเงินให้แกนนำรายละ 2-3 พันบาท

             ที่พิสดารไปมากกว่านั้น ได้เกิด "เจ้ามือรายย่อย" ในหมู่บ้าน คนกลุ่มนี้ จะออกไปหาสมาชิกมาอยู่ในมือ 50-100 คน โดยมีข้อตกลงว่า จะออกเงินค่าแรกเข้าเป็น ผรท.รายละ 2 พันให้ก่อน และเงินก้อนนี้จะถูกส่งไปยัง "เจ้ามือใหญ่" อีกทอดหนึ่ง หากผ่านการคัดกรองเป็น ผรท.แล้ว ชาวบ้านจะได้แค่ 5 หมื่นบาท และส่วนที่เหลือก็ตกเป็นของเจ้ามือรายย่อย

             มาวันนี้ กอ.รมน.ปรับเปลี่ยนวิธีการคัดกรอง ผรท. จากสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ให้บทบาท "แกนนำ ผรท." ก็เปลี่ยนมาเป็น "คนของรัฐ" เป็นตัวหลัก และให้ผู้ยื่นคำร้องเข้ามาสอบสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล

             ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นในหมู่ขบวนการนายหน้าค้าซากสหาย เพราะพวกนี้รู้อยู่แก่ใจว่า โอกาสที่ชาวบ้านจะสอบผ่านเป็น ผรท.ยากขึ้น ไม่เหมือนสองปีก่อน ที่แกนนำ ผรท.เป็นกรรมการคัดกรองเอง จึงสามารถยัดไส้ตัวปลอมเข้าไปรับเงินสองแสนได้

             สำหรับการคัดกรอง ผรท.อำนาจเจริญ รอบนี้ จะบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีข้อครหาเหมือนที่แล้วมา ก็ต้องฝากความหวังไว้กับ พ.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วิจิตร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอำนาจเจริญ ในฐานะประธานคณะทำงานการคัดกรอง ผรท.

             เวลานี้ เจ้ามือรายใหญ่เปิดการติวเข้ม "นักรบดาวแดงกำมะลอ" เพื่อให้สอบผ่าน หากชาวบ้านสอบตกมากเท่าไหร่ ย่อมไม่เป็นผลดีแก่ชีวิตของพวกเขา

...........

(หมายเหตุ : 'ดาวแดงกำมะลอ'มีไว้ขาย : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา)