เพลงไทยที่ฟังก่อนตาย (4) อำลา แกรนด์เอ็กซ์ (3) | คมชัดลึก

 "เชื่อฉัน" เพลงเปิดอัลบั้ม ดังแบบไม่เกรงใจใคร ดังไปทุกหย่อมหญ้า เกิดไม่ทันก็ยังต้องได้ฟังกันบ้างล่ะ เพลงสไตล์นี้กลายเป็นลายเซ็นของ ดนุพล แก้วกาญจน์ ไปในเวลาต่อมา โลกที่ไม่เท่ากัน เพลงรักแบบไม่ธรรมดา ตรงไปตรงมา แต่ลุ่มลึก มีชั้นเชิง แล้วแต่เราจะตีความอย่างไร อยู่ที่เราว่าเราเกิดมาอยู่ในโลกของอะไร ตั้งแต่เราเกิดมา มรดกที่พ่อแม่บรรพบุรุษให้มาโดยไม่ใด้ร้องขอ คือ เผ่าพันธุ์ ชาติกำเนิด ศาสนา เนื้อเพลงคือความท้าทายต่อ ความเชื่อ ความศรัทธา ความเข้าใจต่อความรักในแบบของความต่างที่สุดขั้ว ใครว่ารักไม่มีกำแพง รักไม่มีพรหมแดน ฟังเพลงนี้อาจได้ความเข้าใจไปอีกมุมหากเปิดใจ หลังจากฟังเพลงจบ ก็คิดต่อได้อีกว่า ความรักสวยงามเสมอ แต่ความสุขที่เกิดจากความรัก ก็ไม่ใด้มีให้ทุกคู่เสมอไป

 โบว์สีแดง เพลงที่ ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ แต่งดนตรี ผมอยากจะบอกพี่ตรงนี้ว่า ผมชอบกรู๊ฟเพลงของพี่มากๆ ครับ ทั้งเพลงนี้และเพลงอีกมากมายมหาศาลที่พี่ทำให้กับวงลูกชายพี่ (DR. Kids)  และศิลปินรุ่นหลังอีกเพียบ และเพลงนี้พี่เบิ้ม (มือกลอง) ร้องไว้อย่างน่าฟังมาก ทุกวันนี้ยังฟังได้ไม่เบื่อ หากเป็นผู้หญิง ก็ต้องบอกว่า ไม่สวยเตะตา แต่สวยงามอย่างธรรมชาติ เรียบง่าย และดูดีตลอดมา มีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง

 บริสุทธิ์ คือการฉายภาพของชีวิตใหม่ที่เพิ่งคลอดออกจากครรภ์มารดาได้อย่างงดงาม ไม่ใช่แค่ได้คลอดออกมาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่สะท้อนถึงความอัศจรรย์ของชีวิตใหม่ได้อย่าน่าทึ่ง ความงดงามอย่างบริสุทธิ์ เหมือนผ้าขาวที่พร้อมจะเป็นไปตามการระบายของสีสันในชีวิต โอ้วว...ช่างงดงามเหลือเกิน ในทำนองเดียวกันเสียงของ ดนุพล ขับกล่อมก็ถ่ายทอดความซาบซึ้งเข้าไปในหัวใจผู้ฟังได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่คนไหนฟังเป็นต้องตื้นตัน น้ำตาคลอได้ ขนาดผมยังไม่มีประสบการณ์นี้โดยตรง แต่ก็สัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ได้โดยไม่ต้องพยายาม เพลงนี้เขียนโดย กรวิก (นักเขียนเพลงดังแห่งยุค) เรียกว่าฟังกันตั้งแต่เกิดจนโตก็จะเข้าใจมากขึ้นตามร่องรอยความเหี่ยวย่นบนใบหน้า

 ไม้ไกล้ฝั่ง เป็นเพลงที่ได้ฟังตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งโตยิ่งเข้าใจ ชีวิตบั้นปลายของผู้มีพระคุณ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการทดแทนบุญคุณของลูกหลานก็จะส่งผลให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในชีวิต โดยไม่ต้องมีรางวัลใดๆ มาแปะฝาบ้าน หากมีความกตัญญู พนัส หิรัญกสิ เหมาะสมที่สุดที่เป็นผู้ถ่ายทอดเพลงนี้ ฟังแล้วน้ำตาคลอเบ้าทุกครั้ง ทำให้นึกถึงคุณพ่อคุณแม่ และผู้มีพระคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตเรา ทุกท่านล้วนเป็นส่วนสำคัญให้เราเป็นเรา ในวันนี้ เรียกว่าอยู่มาได้ทุกวันนี้ เพราะมีคนคอยสนับสนุน ส่งเสริม คอยให้กำลังใจ และเป็นแบบอย่างให้เรากราบงามๆ ให้ทุกท่านที่ผ่านมาก ที่อยู่ในชีวิต และที่จะเข้ามาในชีวิตในวันนี้ตรงนี้ครับ

แกรนด์เอ็กซ์-14 ลาวดวงเดือน ปี 2527
 การนำเพลงเก่ากลับมาเรียบเรียงใหม่อีกครั้ง ดนตรีล้ำ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับงานในลักษณะนี้ที่ออกมาก่อนหน้า แต่งานประณีตดีจังครับ

 เริ่มจากความกล้า ท้าทายในการนำเพลง ลาวดวงเดือน จากชื่อดั้งเดิมคือ ลาวดำเนินเกวียน แต่จากการที่เนื้อเพลงมีคำว่าลาวดวงเดือนอยู่หลายครั้ง ผู้คนจึงติดปากเรียกว่าเพลง ลาวดวงเดือน เป็นเพลงไทยเดิมที่ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม ซึ่งไม่มีคนไทยคนใดไม่รู้จัก มาเรียบเรียงได้อย่างทันสมัย

 เหมือนไม่เคย เพลงหัดเล่นกีตาร์ของผมในวัยเด็ก เพลงที่มีคอร์ดกีตาร์อยู่สี่คอร์ด เป็นการเริ่มต้นหัดเล่นกีตาร์จีบสาวได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญใช้สามนิ้วกดก็ได้ โดยไม่ต้องเอานิ้วมาทาบบนเฟรด เพราะสำหรับมือใหม่แล้วโอกาสเสียงบอดได้ง่ายๆ หากเล่นคอร์ดยากเกินไป

 สำหรับอัลบั้มชุดนี้ตัวเพลงคงไม่ต้องพูดถึงกันมาก เพราะส่วนใหญ่เพลงอมตะ เข้าขั้นคลาสสิกทั้งสิ้น ในส่วนของดนตรีนั้นเจ๋งชั้นเทพ

แกรนด์เอ็กซ์-15 หัวใจสีชมพู ปี 2528
 ส่งไปทำแผ่นเสียงที่สิงคโปร์ เป็นอัลบั้มสุดท้ายที่อยู่กับแบบฟูลทีม ก่อนจะมีสมาชิกใหม่เข้ามาเสริมทีม แนวทางของวงจึงพยายามก้าวไปสู่การเป็นสถาบัน ที่ไม่ยึดติดกับบุคคล นั่นหมายถึงสามารถมีสมาชิกเข้าออกได้โดยแนวทางของวงเป็นตัวกำหนด ให้ยืนยงต่อไป

 สมาชิกแกรนด์เอ็กซ์ หลัก 9 คน
1.นคร เวชสุภาพร กีตาร์, ร้องนำ (หัวหน้าวง)
2.ดนุพล แก้วกาญจน์ ร้องนำ
3.ประสิทธิ์ ไชยะโท กลอง, ร้อง
4.วสันต์ สิริสุขพิสัย ออร์แกน, ร้อง
5.เสน่ห์ ศุภรัตน์ ทรัมเป็ต
6.ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ เบส
7.พนัส หิรัญกสิ แซกโซโฟน
8.โชคดี พักภู่ ทรอมโบน
9.ศรายุทธ สุปัญโญ คีย์บอร์ด

 เป็นอัลบั้มก่อนการอำลา สมาชิก 5 คนขอลาออก ได้แก่ วสันต์ สิริสุขพิสัย, เสน่ห์ ศุภรัตน์, ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ, พนัส หิรัญกสิ โดยที่ วสันต์, เสน่ห์, ทนงศักดิ์, พนัส ได้ตั้งวงขึ้นใหม่ในชื่อ “เพื่อน” และ ศรายุทธ สุปัญโญ ออกไปทำงานส่วนตัว

แกรนด์เอ็กซ์-16 สายใย ปี 2528
โด โดโดโด ลาทีโด เรลา
ซอล ฟา เรมีฟาซอล ลา โด โดโดโด
โด โดโดโด ลาทีโด เรลา
ซอล ฟา เรมีฟาซอล ลา ฟา ฟาฟาฟา
 คนธรรพ์รำพัน เพลงเปิดอัลบั้มชุดนี้ที่ทำเอาทึ่ง ทำไมเขียนเพลงได้สนุกอย่างนี้ ร้องตามอยู่ตั้งนานกว่าจะถูกฟังกี่ครั้งก็ยังสนุก เนื้อหาไม่มีอะไรมาก แต่สนุกตรงการใช้เสียงโน้ตในท่อนคอรัส เท่มากครับเพลงนี้

 สายันห์รัญจวน เหงาจับใจ แต่ไพเราะขนาดหนัก ค้นพบว่าบางครั้งความเหงาก็มีความสุขปะปนกันไปโดยแยกกันไม่ขาด

 เพลงช้าหลายเพลงในอัลบั้มนี้ออกแนวหม่น เหงา เศร้า แต่คละเคล้าความสุข สุขุมนุ่มลึก ไม่ตีโพยตีพาย ด้วยวัยที่ตกผลึกทางความรู้สึกนี่เป็นอัลบั้มชุดท้ายๆ ก่อน ดนุพล แก้วกาญจน์ จะแยกตัวออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว และได้รับการตอบรับแบบถล่มทลายด้วยอัลบั้ม ฝันสีทอง

 สมาชิกดั้งเดิม 4 คน คือ นครเวช สุภาพร, ประสิทธิ์ ไชยะโท, โชคดี พักภู่ และ ดนุพล แก้วกาญจน์ ซึ่งมีภารกิจในการเป็นนักร้องนำโดยการดึงทีมนักดนตรีรุ่นใหม่เข้ามาเสริมทีม เพื่อยืดเวลาในการผลัดเปลี่ยน ต่อจากอัลบั้มนี้ นคร เวชสุภาภรณ์ จึงตั้งชื่อทีมใหม่นี้ว่า “แกรนด์เอ็กซ์ แฟมิลี่”

 แกรนด์เอ็กซ์ คือวงในดวงใจของคนฟังเพลงทั้งประเทศในเวลานั้น และผลงานก็อยู่มาจนถึงวันนี้ ด้วยความคิด ความตั้งใจที่ดีในการนำเสนอความบันเทิงให้แก่ผู้ฟังอย่างทุ่มเท

 ขอคารวะ คนดนตรีกลุ่มนี้ที่ทำให้เราได้มีความสุขกับการฟังเพลงและเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของพี่ๆ เหล่านี้ทุกท่าน หากเราทุกคนมีความตั้งใจในเรื่องใดก็แล้วแต่ เราก็สามารถสร้างสรรค์งานจากมันสมองของเรา เพื่อประดับไว้ในโลกนี้ได้เช่นกัน

 ชาตินี้ ยังไงก็ฟังเพลงทั่วไปได้ไม่หมด...
 ขอเลือกเพลงโปรด ฟังก่อนตาย ดีกว่า

โชคชัย เจี่ยเจริญ
[email protected] <mailto:[email protected]>

ข้อมูลบางส่วนจาก
http://th.wikipedia.org/wiki/แกรนด์เอ็กซ์
<http://www.grandexfanclub.com>
หนังสือ "คิดถึงแกรนด์เอ็กซ์" (วีรญาณ์)