คอลัมนิสต์

สวรรค์ที่บ้านนา

สวรรค์ที่บ้านนา

02 ธ.ค. 2558

สวรรค์ที่บ้านนา : ไปสู่ถนนดินลูกรัง โดยเฉลิมศักดิ์ แหงมงาม

           ปัจจุบัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นโรคความดันโลหิตสูงเป็นส่วนใหญ่ นั่นหมายรวมถึงนายกองค์การและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลทั้งหลายทั้งปวงด้วย กว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์เกือบทุกพื้นที่

           นี่ผมเน้นเฉพาะอำเภอที่ผมเคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมื่อไม่นาน

           ผมอยากจะบอกว่า นั่นรวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่โรคเบาหวาน ความดันโลหิต และโรคหัวใจถามหา จนสถานีอนามัยในพื้นที่ต้องเปิดวันเฉพาะกิจ หรือไม่ก็ต้องมีทีมงานอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) ออกพบปะเยี่ยมเยียน ไปวัดความดัน ถามไถ่กันถึงบ้านถึงช่อง เพื่อลดปัญหาโรคดังกล่าวลง

           โรงพยาบาลประจำอำเภอถึงกับมีวันสำหรับรับตรวจโรคดังกล่าวโดยเฉพาะ แล้วเปิดอาคารเพื่อรองรับอีกต่างหาก เพื่อรองรับพี่น้องประชาชน ผู้ป่วยเรื้อรังเป็นโรคดังกล่าวมารักษา รวมถึงรับยาไปกินที่บ้านอยู่ประจำ

           นั่นเป็นเพราะนโยบายการสร้างความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืนให้แก่พี่น้องประชาชนในชนบท เพื่อให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ ด้วยการกระตุ้นให้ชาวบ้านรู้จักการใช้เงิน การลงทุน การทำการเกษตรอย่างจริงจัง

           การกระตุ้นให้เกิดตลาดสินค้าชนบท ตลาดเปิดท้ายขายของ ตลาดแบกะดิน ตลาดชายแดน เพื่อให้เกิดการซื้อง่ายขายคล่องไปทั้งแผ่นดิน ชาวบ้านจะได้มีอยู่มีกินกันทั่วหน้า

           ทว่า สิ่งตามมา ผมไม่รู้ว่าจะคุ้มกับสิ่งที่ได้รับหรือไม่

           เพราะชนบทกลับกลายเป็นตลาดหมุนเงินไปอย่างแน่นอนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะกองทุนพัฒนาสตรี กองทุนกู้ยืมเงินในหมู่บ้าน กองทุนเงินวัดสร้างอุโบสถ กองทุนโอท็อปสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เงินภัยแล้ง เงินแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เงินกองทุนรอบโรงไฟฟ้า แม้กระทั่งเงินของนักการเมืองที่ท่วมทับกันเข้าไป เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชนบท

           ในที่สุด เกษตรกร ชาวบ้านในชนบทจึงเห็นเงินเป็นพระเจ้า สร้างผลผลิตขึ้นมาก็เพื่อสร้างถาวรวัตถุอย่างต่อเนื่องไม่รู้จักพอ อีกไม่นานเราจะเห็นถนนลาดยางเต็มพื้นที่ อ่างเก็บน้ำขนาดยักษ์กำลังจะขยับขยาย บ้านหลังใหญ่ๆ อย่างกับคฤหาสน์ กำลังจะเกิดขึ้นในชนบท แต่ละหลังมีรถประจำตัว ไม่ต่ำกว่าสองสามคัน จอดทิ้งไว้อวดความร่ำรวย ความสะดวกสบาย เพื่อแข่งกันให้ชนบทกลับกลายเป็นสวรรค์เฉกเช่นคนในเมือง

           แต่สิ่งตามมาก็คือ มีคนพิการซ่อนเร้นอยู่มากมาย ทุกหมู่บ้าน ผมเคยใช้เงินทำบุญส่วนตัว รวมถึงเงินกาชาด ช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำ เพื่อช่วยคนตกทุกข์ได้ยากในพื้นที่ ซึ่งซ่อนเร้น ข้าราชการถ้าไม่ขยันออกพื้นที่ก็จะไม่พบบุคคลเหล่านี้ เพราะเขาเหมือนบุคคลไร้คุณค่าในสังคม พิการเพราะอุบัติเหตุ พิการเพราะความเครียด รวมถึงง่อยเปลี้ยเสียขามาแต่กำเนิด

           โรคภัยไข้เจ็บกำลังจะเริ่มถามหามากขึ้นเรื่อยๆ โรคที่คนชนบทไม่เคยรู้จักก่อเกิดเป็นพายุบุแคม โดยเฉพาะโรคที่ฆ่าชีวิตได้อย่างง่ายดายที่สุดขณะนี้ ที่คุณหมอใช้คำว่า ติดเชื้อในกระแสโลหิต กำลังกลับกลายเป็นอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

           จุดของความพอดี ความมั่งคั่ง มั่นคงและยั่งยืนอยู่ที่ไหน รัฐบาลน่าจะระมัดระวังให้จงหนัก ไม่อย่างนั้นจะพากันลงเหววิธีคิดของชาติตะวันตก.