บุญใหญ่ฝั่งซ้าย 450 ปี พระธาตุหลวงเวียงจันทน์
บุญใหญ่ฝั่งซ้าย 450 ปี พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ : สีสันอาเซียนพระธาตุหลวง
ทุกคืนวันเพ็ญ เดือนสิบสอง คนฝั่งขวาพากันลอยกระทง ส่วนคนฝั่งซ้ายจะเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชนชาวลาว
“บุญทาดหลวง” หรือ “บุญพระธาตุหลวง” มีความสำคัญยิ่งต่อชาวลาว ทั้งที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศ เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ชาวลาวที่ไปพักอาศัยอยู่ในยุโรป และสหรัฐ ก็จะเดินทางกลับมาตุภูมิ เพื่อมากราบไหว้องค์พระธาตุหลวง
ปี 2559 งานบุญประเพณีนมัสการพระธาตุหลวง เริ่มขึ้นแล้ว ปีนี้จัดยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ ครบรอบ 450 ปี แห่งการก่อสร้างองค์พระธาตุหลวง ศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
หลายปีมานี้ งานแสดงสินค้าในบุญพระธาตุหลวงได้แยกไปจัดที่ศูนย์การค้าลาวไอเท็ค โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นมา จนถึงวันสุดท้ายของงานบุญประเพณี
ส่วนงานตามประเพณีนิยมที่ถือเป็นไฮไลท์ของเทศกาล จะเริ่มวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งจะมีพิธีไหว้พระธาตุ และฟังการแสดงพระธรรมเทศนา
บ่ายวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน มีพิธีแห่ปราสาทผึ้ง ซึ่งจะมีขบวนแห่ของประชาชน กับขบวนการแสดงละเล่นต่างๆ เป็นแถวยาวเหยียดทุกปี
เช้าวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงาน ชาวนครหลวงเวียงจันทน์จะตื่นนอนแต่เช้ามืด ทยอยกันเข้าสู่บริเวณลานกว้างหน้าพระธาตุ เพื่อทำบุญตักบาตร ตกค่ำ จะมีการเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุ
ทุกปีที่ผ่านมา บรรดาผู้นำระดับสูง รวมทั้งแขกบ้านแขกเมือง ตลอดจนทูตานุทูต จะร่วมกับชาวนครหลวงเวียงจันทน์ ชาวลาวจากต่างแขวง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในการทำบุญตักบาตร หนุ่มสาวจะแต่งกายตามประเพณีนิยมไปร่วมบุญประเพณี
สำหรับงานบุญพระธาตุหลวงปีนี้ ผู้บริหารนครหลวงเวียงจันทน์ได้วางธีมงานให้เป็น “งานบุญพระธาตุหลวงย้อนยุค” มีการสร้างซุ้มไม้ไผ่ และจำลองบ้านเรือนแบบลาวโบราณ
นอกจากนี้ มีงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศ และสินค้าที่ผลิตในลาว ทั้งสินค้าอุตสาหกรรม และหัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าภายใต้เครื่องหมายการ ODOP หรือสินค้าภายใต้โครงการ “หนึ่งอำเภอ หนึ่งผลิตภัณฑ์” ที่ได้รับการส่งเสริมจากทางการ
ส่วนตำนานพระธาตุหลวงเวียงจันทน์นั้น ได้ก่อสร้างมายาวนานนับพันปี โดยภายในบรรจุพระอุรังคธาตุพระพุทธเจ้า แต่มีการฟื้นฟูบูรณะขึ้นมาใหม่เมื่อ 450 ปีที่แล้ว
ครั้งนั้น พ.ศ.2109 พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรล้านช้าง ทรงย้ายราชธานีจากเมืองเชียงทอง หรือหลวงพระบาง มายังนครเวียงจันทน์ พร้อมกับอัญเชิญพระแก้วมรกตจากนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองของสมเด็จพระราชมารดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มาประดิษฐานยังนครเวียงจันทน์ด้วย
เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ได้บูรณะพระธาตุหลวง ก็ถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ของทุกๆ ปี เป็นงานนมัสการพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ประชาชนชาวลาวจากทั่วสารทิศจะเดินทางมาเฉลิมฉลองพระธาตุหลวง พร้อมกับชมมหรสพมากมายหลายรายการ
ลาวยุคใหม่มีการฟื้นฟูบูรณะครั้งใหญ่ในคราวฉลองครบรอบ 450 ปี การสถาปนากรุงเวียงจันทน์ในอดีต ซึ่งมีการขยายระเบียงทั้งสี่ด้านออกไป ทำให้มีเนื้อที่กว้างขวาง
ปีที่ 450 ของพระธาตุหลวงเวียงจันทร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่แผ่นดินล้านช้าง ได้เปลี่ยนรูปแปลงโฉมครั้งใหญ่ หลังจากนครหลวงเวียงจันทน์ปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุหลวงอีกครั้งในปีนี้ ประกอบด้วย การโอบทองหุ้มยอดจอมพระธาตุ โบกรอยแตกร้าวทั้งหมด ซ่อมแซมหอไหว้ทั้ง 4 ทิศ ทาสีองค์พระธาตุใหม่ทั้งหมด
เฉพาะ “จอมพระธาตุ” โอบด้วยทองคำแท้ๆ รวมน้ำหนัก 10 กิโลกรัม บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้มอบทองคำแท่งแก่องค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว เพื่อนำไปประดับบนยอดจอมขององค์พระธาตุหลวง
บัดนี้ องค์พระธาตุทาสีทองงดงามอร่ามตา มองเห็นแต่ไกล และคาดว่า จะมีมหาชนหลั่งไหลมาร่วมงานเฉลิมฉลองพระธาตุหลวงครบรอบ 450 ปี ระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายนนี้ อย่างมากมาย