ส่องธุรกิจเช่าเพื่อนเที่ยวเพื่อ “สาวยุ่น!!”
“บอกเลย ถ้าหากทราบว่าใครไปทำสายดาร์กที่อื่นก็จะไม่มีการรับกลับเข้ามาทางสายนี้อีก คือแวดวงนี้มันเช็กกันได้”
โลกยุคใหม่และสื่อออนไลน์เปิดช่องทางและโอกาสให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ แปลกๆ ได้ตลอดเวลา
โดยเฉพาะธุรกิจรูปแบบหนึ่งที่ต้อง “ยอมรับ” และ “เปิดใจ” กันว่ามีแบบนี้ในสังคมโลกแล้ว!! นั่นคือ “ธุรกิจเช่าเพื่อนเที่ยว!!”
แม้หลายคนอาจได้ยินกันมาแล้ว โดยเฉพาะต้นตำรับต้องบอกว่าเป็นแดนยุ่นที่เฟื่องมานาน
แต่ที่บ้านเราเพิ่งมีมาระยะหนึ่ง และหลายคนที่ยังไม่รู้ข้อมูลที่ลึกลงไปว่าธุรกิจนี้ทำอะไร ทำยังไง และทำทำไม?
คนที่จะบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ได้คงหนีไม่พ้น “คนใน”
ทำเอง เล่าได้ลึก!!
ยกหูสอบถามไปเจ้าของธุรกิจรายหนึ่งที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวและจัดหางานพาร์ทไทม์มานาน หากแต่ขอสงวนนามไว้เป็นตัวย่อว่า “น.”
โดยเขาบอกเล่าแง่มุมของงานนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า ในปัจจุบันที่ผู้ที่เปิดธุรกิจลักษณะนี้มากมาย บางทีเพราะโลกยุคใหม่ที่ผู้คนสนใจแต่จอมือถือ ที่ทำให้ธุรกิจลักษณะนี้เติบโตขึ้นมา
ส่วนถ้าจะถามว่า หรือเพราะคนเราเหงามากขึ้น ด้วยโลกที่เปลี่ยนไป น. บอกเลย
“ถ้าพูดตรงๆ ใช่ ทุกประเทศเหงาหมด ญี่ปุ่นก็เหงา โดยเฉพาะสาวชาติที่เราคิดไม่ถึงอย่างเกาหลี ขี้เหงามาก"
แต่ประเด็นหลักคือ คนภายนอกอาจมองธุรกิจนี้ “อีกแบบ” แต่ถ้าได้รู้ความจริง เขาจึงขอพูดแทนเพื่อนร่วมวงการว่า “ไม่ได้มั่ว!”
เพราะในส่วนของพนักงาน หรือ “เพื่อนเที่ยว” ก็มีการรับสมัคร สัมภาษณ์ ดูตัว เหมือนทุกๆ บริษัท แถมบางที่ยังดูไปถึงวันเดือนปีเกิดและโหงวเฮ้ง!!!
มีข้อมูลหนึ่งที่น่าประหลาดใจ คือ เขายอมรับว่าทุกวันนี้มีนักศึกษาชายไทยเข้ามาเป็นงานพาร์ทไทม์หารายได้เสริมจำนวนมาก และมาหมดทั้งมหาวิทยาลัยรัฐ และเอกชน
“นักศึกษาเหล่านี้มีเหตุผลว่านอกจากจะมีรายได้พิเศษแล้ว ลักษณะงานก็สนุก ผ่อนคลาย ได้เที่ยว และบางทีได้ไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่น
ส่วนถามถึงเหตุผลที่ต้องคัดถึงขนาดนี้ เขาบอกว่าเพื่อเป็นการตัดปัญหาทางภาษา เนื่องจากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำ มักมีพื้นฐานทางภาษาดีอยู่แล้ว ขณะที่บางรายสนใจมาเป็นไกด์หรือล่ามแปลภาษาก็ได้
เวลานี้นับจำนวนหัวแล้วรวมทั้งวงการอยู่ในหลัก 300 กว่าคน อายุ 19-35 ปี!
ถามว่าค่าแรงเท่าไหร่ ที่จริง “น.” แจงให้เห็นตัวเลขละเอียดยิบแต่เกรงจะเป็นการโปรโมท หากแต่บอกได้คำเดียวว่า “ดีมาก!!”
แถมเรตราคายังแบ่งเป็นเช่าเที่ยวในไทยและแบบบินไกลไปถึงแดนยุ่น! ซึ่งว่ากันเป็นรายชั่วโมงเลยทีเดียว
“สายดาร์ก” หรือเปล่า?
จากข้างต้นหลายคนอาจร้อนใจ แต่เหมือนจะรู้ทัน “น.” จึงพาเข้าเรื่องทันทีว่าสบายใจได้เลยเพราะกฎเหล็กวางไว้เลยว่า “ต้องไม่มีเรื่องการบริการทางเพศ!!” หรือแบบที่คนในวงการเรียกกันว่า "สายดาร์ก”
“ยอมรับว่าในแวดวงลักษณะนี้อาจจะมีคนที่ให้บริการทางนี้แน่นอน ไม่เถียง แต่ยังมีคนที่เขาเป็นมืออาชีพจริงๆ ที่เขาก็จะเน้นกิจกรรม กินข้าว ท่องเที่ยว การเอนเตอร์เทนทั่วไป ที่เรียกว่ารับจ้างเป็นแฟน
“แต่ถ้าลูกค้ามาบอกว่าอยากได้แบบนั้น ถ้าคนที่ทำอย่างสะอาดนะ เขาจะเชิญลูกค้าไปหาเจ้าอื่น เราไม่รับ"
“แล้วความชัดเจนของการไม่แตะสายดาร์กทำให้คนใช้บริการสายนี้เองก็แฮปปี้ เพราะโดยมากคนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้น มันเหมือนคนละเกรดกัน เราไม่ใช่เกรดล่าง”
อดถามไม่ได้ว่าจะตรวจสอบพนักงานได้อย่างไร
“บอกเลย ถ้าหากทราบว่าใครไปทำสายดาร์กที่อื่นก็จะไม่มีการรับกลับเข้ามาทางสายนี้อีก คือแวดวงนี้มันเช็กกันได้ มันบอกกันได้”
หลักฐานหนึ่งที่ยืนยันคือ ทุกทริปจะไม่มีไปกันสองต่อสอง!!
โดยหากสาวญี่ปุ่นมีเพื่อนมาด้วย เอเย่นต์ก็จะส่งพนักงานไป 1 คนเพื่อบริการลูกค้า 1 ราย แต่หากลูกค้ามาคนเดียว เอเย่นต์ก็จะส่งไกด์ หรือพนักงานผู้หญิงอีกคนไปด้วยกัน
และที่ต้องเน้นคือจะไม่มีการไปอยู่ในที่ลับตาคน โดยหากไปที่บ้านหรือหอพักก็จะอยู่ในสายตาของคนที่ตัวแทนส่งประกบไปด้วย โดยมากจะดีลกับโรงแรม ที่พัก หรือสถานที่ที่มีส่วนสันทนาการไว้บริการ
หรือถ้าดูแล้วมีจุดประสงค์แอบแฝง คือจ้างไปเป็นแฟนที่ญี่ปุ่นแล้วพาไปเจอแฟนเก่า ไปเย้ยแฟนเก่า ก็จะไม่ให้ทำ ไม่รับ เพราะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย การทำร้ายร่างกาย ก็จะปฏิเสธลูกค้าไปทันที
ทำไมต้องสาวญี่ปุ่น
อย่างที่เกริ่นว่ามีผู้ประกอบการหัวใสหันมาออกแบบธุรกิจมุ่งไปที่สาวๆ จาก “แดนปลาดิบ” โดยเฉพาะ
น. บอกว่า เท่าที่เห็นพบว่าชาวญี่ปุ่นมีอัตราคนโสดจำนวนมาก และดูแล้วด้วยผู้คนที่ต้องการความสันโดษมากขึ้นจากโลกภายนอก ไม่ต้องการมีภาระผูกพัน
ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม! จึงอาจมองเห็นโอกาสตรงนี้
ทั้งนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว แต่บางครั้งเป็นแม่บ้าน แม่ม่าย โดยอายุลูกค้าที่พบอยู่ในช่วง 20-50 ปี ลักษณะงานคือเหมือนเป็นเพื่อนเที่ยวและเป็นแฟนปลอมๆ
“คือก็เหมือนเพื่อนทั่วไป เช่น นั่งกินข้าว ไปเที่ยว ไปดูหนัง ฟังเพลง บางครั้งมีการแกล้งเป็นแฟนกันเพื่อตบตาญาติๆ พาไปงานแต่ง เราก็จะมีการเตี๊ยมกันก่อน สร้างสตอรี่ เช่นรูปถ่ายที่ไปเที่ยวกัน เพื่อให้ดูสมจริง”
และหากเป็นลูกค้าสูงอายุ โดยมากลักษณะงานจะเป็นเพื่อนนั่งคุย ช่วยหิ้วของ ถือของ”
อีกอย่างที่ “น.” วิเคราะห์ให้ฟัง คือ ลักษณะพื้นนิสัยของคนญี่ปุ่นพบว่าไม่ค่อยทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจเพราะเป็นประเทศที่มีวินัย
"เรากำหนดกฎกติกาแบบไหน เขาทำตามหมด ไม่นอกลู่นอกทาง สุภาพ ไม่ค่อยโวยวาย ไม่ค่อยเรียกร้องอะไรเพิ่ม ถ้าเป็นคนชาติอื่นแทบไม่ต้องคุย”
ซึ่งตรงนี้ก็ตอบโจทย์ของเจ้าของธุรกิจเองว่าลูกค้าจะทำตามกฎ ไม่ทำให้ธุรกิจเสียหายจากรูปแบบที่วางไว้
ส่วนกฎอีกข้อคือ เอเย่นต์จะไม่มีการปิดบังว่าพนักงานโสดหรือไม่โสด ดังนั้นหากเป็นพนักงานที่ไม่โสดลูกค้าจะรู้ทันทีว่าไม่มีสิทธิ์มาขอสานต่อเป็นแฟนจริงในภายหลัง!
เพราะทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นฐานว่าไม่มีเรื่องของการซื้อขายทางเพศ
ซึ่งตรงนี้ผู้หญิงญี่ปุ่นจะเข้าใจตั้งแต่ต้นว่านี่คือ “กฎ” และทำตามกฎเป๊ะ!! การดีลงานก็วิน-วินทั้งสองฝ่าย!!
ฝ่ายกฎหมายว่าไง
ยังมีความเห็นที่ทีมข่าว “คม ชัด ลึก” ที่ได้พูดคุยกับ ผศ.พ.ต.ท.กฤษณพงศ์ พูตระกูล ประธานบริหารหลักสูตรอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุถึง “ความเสี่ยง” ที่อาจจะเกิดขึ้นว่าถึงแม้กติกาเงื่อนไขการทำงานที่ประกาศไว้จะยังไม่เข้าข่ายความผิดในกฎหมายข้อใด แต่ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมได้
โดยเฉพาะการถูกหลอกลวง ฉ้อโกง แม้แต่การกระทำผิดค้าประเวณี หรือค้ามนุษย์ เพราะอย่าลืมว่าเงื่อนไขของงาน คือไปรับจ้างเป็นแฟนของสาวญี่ปุ่นที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย มีความเป็นไปได้ที่จะก่ออาชญากรรมขึ้นทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้ใช้บริการ และฝ่ายผู้ให้บริการ เนื่องจากอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพสามารถแทรกซึม
“แต่ถ้าเป็นงานที่สุจริตจริงๆ ทำได้ตามเงื่อนไข ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคน แต่ควรคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตัวเอง ความถูกต้องเหมาะสมตามขนบธรรมเนียมของไทย”
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีคำแนะนำว่าต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะบริษัท หรือบุคคลที่จัดหางาน หรือเว็บไซต์จัดหางานมีความถูกต้องน่าเชื่อถือหรือไม่
อย่างไรก็ดีเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่พบปัญหา คือยังไม่มีผู้เสียหายจากงานบริการแบบนี้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงจับตาตรวจสอบอยู่
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความผ่านเว็บจัดหางานดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น การประกาศเชิญชวน รับสมัครการทำงานในลักษณะแบบนี้ยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด
หากภายหลังมีการแจ้งความร้องทุกข์ว่าเป็นการกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เป็นขบวนการหลอกลวงการใช้แรงงาน ขบวนการค้ามนุษย์ การก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด การเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจาร หรือสนองความใคร่ของผู้อื่น การกระทำเพื่อความสนองความต้องการทางเพศ หรือค้าประเวณี ก็จะดำเนินการสืบสวน ติดตาม จับกุม ผู้ต้องหามาดำเนินคดีในฐานความผิดนั้นๆ
แต่อีกด้านหนึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปอีกรูปแบบ และกำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติสามัญขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่!!