คอลัมนิสต์

สารพัดขวากหนามบนเก้าอี้"นายกฯ"

สารพัดขวากหนามบนเก้าอี้"นายกฯ"

25 ต.ค. 2561

สารพัดขวากหนามบนเก้าอี้"นายกฯ"หาก"บิ๊กตู่" ใช้คำว่านอนมา "อาจต้องคิดใหม่?" : คอลัมน์...  ขยายปมร้อน  โดย...  จักรวาล ส่าเหล่ทู


 

          และแล้ว “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เเห่ง “พรรคเพื่อไทย” ออกมาเขย่าติ้วการเมือง หลังให้ความเห็นแก่สื่อนอกว่า “การปกครองโดยทหารอาจถึงจุดจบ หากฝ่ายประชาธิปไตยได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า 300 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่ง” ฟังดูแล้วสิ่งที่น่าสนใจคือคำว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” ของทักษิณแล้ว แม้ไม่ได้ระบุชัดว่าหมายถึงพรรคไหน แต่ภาพของเครือข่ายพรรคเพื่อไทย ก็ลอยขึ้นมาเด่นชัดทันที

 

 

 

          ขณะนี้พรรคเพื่อไทยแตกหน่อมีพรรคสาขายิบย่อยอยู่เยอะพรรคด้วยกัน (พรรคเพื่อธรรม, พรรคเพื่อชาติ และว่าที่พรรคพลังไทยรักษาชาติ) ประดุจ "ไฮดรา” ที่แพร่กระจายได้เรื่อยๆ แม้เเต่ละพรรคจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องก็ตาม แต่เมื่อดูบุคคลที่เข้าแวะเวียนในพรรคเหล่านี้แล้วพบว่า มันก็คนกันเองในค่ายเพื่อเเม้วทั้งนั้น (ทำไว้รองรับในกรณีที่ยานแม่โดนยุบ อีกกรณีหนึ่งคือ แตกสาขารองรับการเลือกตั้ง ที่มาพร้อมสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อแบบใหม่)


          สูตรเลือกตั้งแบบใหม่ “จัดสรรปันส่วน” ในรัฐธรรมนูญ 2560 กลั่นออกจากแนวคิดของ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสมาชิกคสช. ที่ระบุว่า ”เพื่อต้องการให้ทุกคะแนนเสียงมีความหมาย จึงได้ออกแบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว กาครั้งเดียว ทั้งคนและพรรคได้คะแนนไปด้วย ไม่ว่าคนในเขตจะชนะหรือไม่ คะแนนที่เรากาให้ก็จะถูกนำไปคำนวณจำนวนที่นั่งส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคที่เราเลือกด้วย จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมาเทียบหาจำนวน ส.ส. ที่พึงมีในสภา แล้วหักลบกับจำนวนส.ส.เขตที่แต่ละพรรคได้ หากพรรคไหนมีส.ส.ไม่ถึงจำนวนพึงมี ก็ให้นำ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าไปเติมให้เต็ม”


          แต่ด้วยวิธีการแบบนี้จะทำให้ไม่มีพรรคไหนได้คะแนนเสียงท่วมท้น เหมือนอย่างเมื่อก่อน พรรคเพื่อไทยที่ครองสภาหินอ่อนมานาน (ตั้งเเต่ไทยรักไทย, พลังประชาชน) ก็อาจต้องเจอสถานะ “อาจไม่มีส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ” เลย หากพรรคนี้ได้ส.ส.แบบเขตเยอะจนไม่เหลือโควตาให้แบบ ”ปาร์ตี้ลิสต์”


          ซึ่งพรรคใหญ่ๆ อาจไม่ใช่ตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาล หากแต่เป็น “พรรคขนาดกลาง” ที่วันนี้เนื้อหอมยิ่ง...(เเละมีท่าทีพร้อมเเตะขั้วที่ชนะ หรืออย่างน้อยรับงานของขุนพลท็อปบูทได้ง่ายกว่าพรรคเพื่อเเม้วเเละขั้วสีฟ้า)

 


          ไหนจะมีกลไก "ส.ว.250 คน” ที่คัดเลือกโดย คสช. ร่วมโหวตเลือกนายกฯ ได้ ดูเหมือนว่างานนี้มองง่ายๆ ก็จะเห็นว่า "บิ๊กตู่นอนมา" ได้เป็นนายกฯ อีกสมัยแน่ๆ แต่ตอนนี้บิ๊กตู่คงไม่นั่งสบายๆ แน่นอน เพราะด้วยการแตกสาขาพรรคของเครือข่ายเพื่อไทยที่หวังเก็บคะแนนแบบเขต หวังหว่านคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ด้วย (เรียกได้ว่าเพื่อเเม้วคือศรีธนญชัยยุคโซเชียลมีเดีย)


          หากนำคะแนนเสียงเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่เเล้วมาคำนวณสูตรใหม่เล่นๆ พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส. รวมแล้ว 200 คนขึ้นไป ถ้าหากมีคะแนนของพรรคเครือข่ายเพื่อเเม้วเข้าร่วมด้วย (คงสอบได้จำนวนหนึ่ง) อาจมีลุ้นเกินครึ่งคือ 251 เสียง เเละยังไม่รวมกับพรรคอื่นๆ ที่อาจเป็นพันธมิตรอื่นๆ อย่างพรรคประชาชาติไทย พรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคเสรีรวมไทย เป็นต้น ที่อย่างไรไม่ยืนข้างบิ๊กตู่เเน่นอน (หรือพรรคขนาดกลางเเละเล็กอื่นๆ ที่รอผลหย่อนบัตรก่อนเคาะโต๊ะ)


          มาถึงจุดนี้อย่าเพิ่งโฟกัสว่าเครือข่ายทักษิณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะแก้เกมการเมืองอย่างไร? เพราะควรรอดูการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นอีกหนึ่งตัวแปรด้วย เพราะพรรคสีฟ้าคือพรรคใหญ่อีกพรรคหนึ่งที่อยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเปลี่ยนผู้นำทัพ สามผู้ชิงตำแหน่งต่างขยันลงพื้นที่อ้อนขอคะแนนเสียง


          ถ้าผลออกมาแล้ว “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม เส้นทาง “บิ๊กตู่” ก็อาจไม่ราบเรียบ แต่ถ้าผลออกมาเป็น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และ “เดอะจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร อันนี้ก็มีสิทธิ์ลุ้นว่าเส้นทาง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัย “อาจง่ายขึ้น” เพราะหมอโก๋เองก็สนิทชิดเชื้อกับ ”สุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่หนุนพล.อ.ประยุทธ์ เต็มที่ ส่วนอลงกรณ์เองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งในแม่น้ำ 5 สายของคสช.ด้วย
เเม้หลายฝ่ายมองว่าตอนนี้บิ๊กตู่ขึ้นนำนิดๆ เเละน่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัย (จากกลุ่มสามมิตรที่เดินเครื่องสูบนักการเมืองร่วมวงกับพรรคพลังประชารัฐ เเละพลพรรคหลากสาขาที่มาช่วยงานบิ๊กตู่) แต่เมื่อถึงวันนั้น “การผ่านงบฯ อาจรวมถึงเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ” จะมีขึ้นเเน่นอน อย่างน้อยๆ แม้ขั้วบิ๊กตู่ได้ตั้งรัฐบาล แต่คงไม่ได้อยู่สบายๆ เพราะวันนั้นสภาหินอ่อนที่อัดแน่นด้วย ”นักการเมืองตัวจริง” คงไม่ได้นั่งนิ่งรับฟังหรือเห็นชอบทุกเรื่องเเบบสนช.ที่เป็นหนึ่งในเเม่น้ำ 5 สายของคสช. เหมือนอย่างที่ผ่านๆ มาแน่นอน


          ...ถ้าอีกฝั่งเล่นช่องว่างกฎหมายอย่างไรในการทุบ "เพื่อเเม้ว” นักการเมืองค่ายนี้ก็เล่นกลับได้เหมือนกัน (เเต่รอลุ้นกรรมการว่าจะเชื่อน้ำหนักฝั่งใด)


          นาทีนี้เรียกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ การเลือกตั้งใกล้เข้ามา...ยังคงไม่มีอะไรที่แน่นอน... แม้แต่ฝั่งของพล.อ.ประยุทธ์ ที่หลายฝ่ายมองว่ามีเพียบพร้อมทุกอย่างวันนี้ก็ยังไม่อาจมั่นใจได้....