"ด.ญ.วรรณรญา วรรณผ่อง" แชมป์โดรนอายุน้อยสุดในโลก | คมชัดลึก

 

          เดือนพฤษภาคมปีนี้มีข่าวเล็กๆ แต่ได้รับความสนใจอย่างมากมายปรากฏบนหน้าสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง จนมีการแปลมานำเสนอผ่านสื่อไทยหลายช่องทาง เป็นข่าวของเด็กหญิงชาวไทยวัย 11 ปี ผู้คว้าแชมป์จากสนาม “ไชน่า โดรน เรซซิ่ง โอเพ่น” ที่ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นสนามทดสอบของการแข่งขันเอฟเอไอ เวิลด์ โดรน เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพส์ ที่จะจัดขึ้นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้

 

 

          ด.ญ.วรรณรญา วรรณผ่อง หรือ น้องมิลค์ ก็คือคนในข่าวข้างต้น ซึ่งตระเวนลงสนามแข่งโดรนระดับอินเตอร์มาแล้วใน 7 ประเทศ รวม 13 ครั้ง ยังไม่นับครั้งล่าสุดที่จะเตรียมตัวเข้าร่วมเอฟเอไอ เวิลด์ โดรน เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพส์ ที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นสนามที่จะรวมนักแข่งโดรนชั้นนำของโลกมาประลองความเร็ว (ของโดรน) กันส่งท้ายฤดูกาลปี 2018 กันระหว่างวันที่ 1-4 พฤศจิกายนนี้
 

 

 

 

          น้องมิลค์ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ เขตประเวศ กทม. พูดคุยกับ “คม ชัด ลึก” ระหว่างการพักฝึกซ้อมในการแข่งขันโดรน เรซซิ่ง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างงาน “วิศวะ'61 หรือ Engineering Expo 2018” ว่า เริ่มหัดบิน (หัดบังคับโดรน) ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เพราะเห็นพ่อเล่นก็เลยอยากเล่นบ้าง หลังจากหัดได้ราว 2 เดือนก็เริ่มเข้าไปแข่งทั้งรายการในประเทศไทยและการแข่งในต่างประเทศ ทุกการแข่งขันแม้มองไปรอบตัวจะมีแต่คู่แข่งที่เป็นผู้ชายและอายุมากกว่า แต่ไม่เคยกังวลหรือหวั่นเกรงเลย เพราะสำหรับน้องแล้วมีความสุขและรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ “เราได้บังคับมัน (โดรน) แล้วก็บินตาม เหมือนเรานั่งบนเครื่องตัวนั้น โลดแล่นไปตามทิศทาง มันก็สนุก”

 

          ที่ผ่านมานอกจากเป็นแชมป์โดรนประเทศไทย แล้วยังเป็นนักแข่งโดรนหญิงคนเดียวและมีอายุน้อยที่สุดในโลก โดยในส่วนของรายการแข่งขันต่างประเทศ น้องมิลค์ ประเดิมสนามแรกที่ประเทศจีน เมื่อปี 2015 ด้วยการคว้าอันดับ 5 หลังจากนั้นก็มีโอกาสไปแข่งระดับอินเตอร์ในอีกหลายประเทศ ได่แก่ เกาหลีใต้ 7 ครั้ง ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมนี และตุรกี ประเทศละ 1 ครั้ง รวมทั้งมีโอกาสหวนกลับไปแข่งในสนามที่ประเทศจีนอีก 2 ครั้งในปีนี้ คือ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่คว้าแชมป์มาได้ และพฤศจิกายนนี้ ที่จะเป็นการชิงแชมป์โลก
 

 

 

 

 

          โดยเฉพาะการแข่งโดรนที่ตุรกี “อาวุธ วรรณพงษ์” พ่อของน้องมิลค์ บอกว่าเป็นการแข่งขันที่เป็นแรงกิ้งของโลก และน้องมิลค์อยู่อันดับ 9 ทำให้ได้รับการติดต่อจาก NEXXBlades ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นทีมแข่งโดรนเบอร์ 1 ของโลก ชักชวนให้เข้าร่วมทีม และปัจจุบันเป็นสมาชิกชาวเอเชียคนเดียวของทีม ทำให้ในการไปแข่งขันต่างประเทศได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากทีม ใส่เสื้อทีมลงแข่ง และทีมส่งไปร่วมแข่งขันในรายการต่างๆ ในฐานะนักกีฬาโซนเอเชีย
 

          เมื่อถามความรู้สึกในเวลาลงแข่งว่าเวลาที่มองไปรอบตัวจะมีแต่นักกีฬาพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้ชายทั้งนั้น แอบมีหวั่นๆ บ้างหรือไม่ “น้องมิลค์” ก็ตอบว่า “รู้สึกเฉยๆ” เพราะเห็นผู้ชายทำได้ ทำไมผู้หญิงจะทำไม่ได้ ซึ่งตรงนี้คุณพ่อช่วยเสริมว่า แม้ข้อจำกัดของความเป็นผู้หญิงอาจทำให้ “ช้ากว่า” นิดนึง เพราะการตัดสินใจไม่เหมือนผู้ชายที่จะห้าวหาญกว่าแต่ก็กำจัดจุดอ่อนนี้ด้วยการมุ่งมั่นฝึกซ้อมมากๆ

 

 

 

          “เวลาที่อยู่กับการบังคับเครื่องบิน “โดรน” ความรู้สึกทุกครั้งก็คือ อยากบินให้เร็วที่สุด เป้าหมายคืออยากเป็นแชมป์โลก” เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในการเป็น “แชมป์โดรนโลก” น้องมิลค์ ฝึกซ้อมอย่างหนักและสม่ำแสมอทุกวัน โดยวันจันทร์-ศุกร์ จะรีบทำการบ้านให้เสร็จระหว่างช่วงพักเพื่อที่ว่าหลังเลิกเรียนจะทุ่มเวลาฝึกซ้อมเต็มที่ตั้งแต่ 4 โมงเย็น-6 โมงเย็น ส่วนวันสาร์-อาทิตย์ ตารางการฝึกซ้อมจะเริ่มตั้งแต่ 11 โมงเช้า-6 โมงเย็น

          อย่างไรก็ตาม ชีวิตประจำวันของน้องก็ยังมีการผ่อนคลายไปพักผ่อนกับครอบครัว ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน และยังเป็นนักดนตรีของโรงเรียนด้วย เพราะชื่นชอบการเล่นคีย์บอร์ดจนเล่นได้เก่งทีเดียว และยังบอกอีกว่าแม้ตระเวนลงแข่งโดรนแต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อผลการเรียน เพราะคุณครูและเพื่อนๆ ช่วยสนับสนุนคอยเป็นกำลังใจ เมื่อไปแข่งต่างประเทศก็จะลาเรียน และคุณครูจะไม่เช็กขาด เพื่อนๆ ก็จะคอยบอกว่ามีการบ้านอะไรบ้างระหว่างนั้นและเมื่อแข่งขันเสร็จทุกคนก็จะถามไถ่ว่าได้อันดับที่เท่าไร

 

 

 

 

          น้องมิลค์พูดถึงมุมมองส่วนตัวว่าคนที่จะเป็นนักกีฬาโดรนเก่งๆ ได้ต้องมีคุณสมบัติ 3 ข้อใหญ่ๆ ได้แก่ ฝึกซ้อมบ่อยๆ พักผ่อนให้มากๆ และบริหารสายตา ซึ่งเคล็ดลับที่น้องใช้อยู่ก็คือการรับประทานผักมากๆ และ นอนคืนละ 8 ชั่วโมง

          คุณอาวุธ เล่าอีกว่า ตั้งแต่น้องมิลค์ตระเวนแข่งขันมายังไม่เคยเจอเพื่อนร่วมแข่งที่อายุน้อยกว่าเลย เจอแต่อายุมากกว่า และแก่สุดที่เคยเจอคือนักแข่งโดรนวัย 60 ปี เจอที่ฮ่องกง “เขามาขอถ่ายรูปกับน้อง บอกว่าตัวเองเป็นนักบินที่อายุมากที่สุดจึงอยากจะมาถ่ายรูปกับนักบินที่อายุน้อยที่สุด” ซึ่งโดยส่วนมากนักแข่งโดรนจะอยู่ในวัยราว 15-30 ปี
 

 

 

 

 

          “ต่อไปนี้องค์กรโดรนจะใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ผมไปประชุมกับชาวต่างชาติ เขามาแสดงความยินดีกับเราที่เป็นแชมป์ และบอกว่าต่อไปนี้กีฬาโดรนจะก้าวหน้ายิ่งขึ้นเป็นหนึ่งในประเภทกีฬาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะมีสนามแข่งโดรนเปิดเพิ่มมากขึ้น และน้องต้องไปในนามของประเทศไทย”