คอลัมนิสต์

สตูลอุ่นเครื่องเปิดตัว"โกแพ วรศิษฎ์"ทายาท"โกเกียรติ"

สตูลอุ่นเครื่องเปิดตัว"โกแพ วรศิษฎ์"ทายาท"โกเกียรติ"

30 ต.ค. 2561

สตูลอุ่นเครื่องเปิดตัว "โกแพ วรศิษฎ์"ทายาท "โกเกียรติ" ค่ายสีน้ำเงิน : คมชัดลึก...ลุยเลือกตั้ง  โดย...  ชิดชนก พุดทอง 


 

          ย้อนสู่สมรภูมิเลือกตั้ง 2554 สนามเล็กๆ ชายฝั่งอันดามันอย่างสตูล มี ส.ส.ได้ 2 คน ตกเป็นของพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับฤดูกาลใหม่ นักการเมืองระดับชาติยังไม่ขยับตัวกันมากนัก

 

 

          แม้สตูลจะมีแค่ 2 เขต แต่การต่อสู้ของผู้สมัคร ส.ส. ก็สนุกสูสีไม่แพ้จังหวัดใหญ่ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ผูกขาดยึดครองพื้นที่เบ็ดเสร็จ 

 

          ที่น่าสนใจในช่วงอุ่นเครื่องเลือกตั้ง สนามเขต 2 (ท่าแพ, ละงู, ทุ่งหว้า, มะนัง และควนกาหลง) มีการเปิดตัว “วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์” อย่างไม่เป็นทางการไปแล้ว


          เอ่ยถึงตระกูล “เลียงประสิทธิ์” แห่ง อ.ละงู คนสตูลจะนึกถึง “โกเกียรติ” สมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ แห่ง หจก.เกียรติเจริญชัย มีธุรกิจมากมาย ทั้งเรือประมง รถบรรทุก แพปลา ท่าเรือ รับเหมาก่อสร้าง สถานีบริการน้ำมัน และสวนปาล์ม นอกจากนี้ยังมีค่ายมวยเกียรติเจริญชัย ที่โด่งดังในยุทธจักรมวยไทย


          “วรศิษฎ์” หรือที่หลายคนเรียกว่า “โกแพ” วัย 29 ปี เป็นบุตรชายของโกเกียรติ ซึ่งจบปริญญาโท MSc Business management : International business จากมหาวิทยาลัยบอร์นมัธ ประเทศอังกฤษ โดยวันนี้ “วรศิษฎ์” มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการ หจก.เกียรติเจริญชัยการประมง, ผู้จัดการค่ายมวยเกียรติเจริญชัย รวมถึงผู้จัดการสโมสรฟุตบอลคาเดนซ่า สตูล ยูไนเต็ด

 

          เนื่องจากบิดาและญาติพี่น้องคลุกคลีอยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่นมานาน จึงทำให้ “โกแพ” มีความสนใจติดตามข่าวสารการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆ


          “วรศิษฎ์” เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สนใจการเมืองตั้งแต่เด็กตามความเคลื่อนไหวเนื่องจากการเมืองจะมีผลต่อการกำหนดแนวทางธุรกิจ แต่ไม่ได้มีแนวคิดที่จะลงเล่นการเมืองเอง เนื่องจากประกอบธุรกิจหลายอย่าง ต้องมาช่วยทางครอบครัว จนทำให้ไม่มีเวลาว่างพอที่จะลงมาเล่นการเมืองได้ และอยู่ในขั้นของการทำธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น


          เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ทายาทตระกูลเลียงประสิทธิ์ ได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ให้ลงสมัคร ส.ส. ใช้เวลาตัดสินใจอยู่ระยะหนึ่ง จึงตอบตกลง

 



          เดิมที “โกแพ” ไม่ได้คิดที่จะเดินเส้นทางทางการเมือง แต่เนื่องจาก 2-3 ปี ที่ผ่านมา มีปัญหาภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ทั้งประเทศ โดยเฉพาะที่ จ.สตูล มีคนวิ่งเข้ามาหาเพื่อปรึกษาเรื่องของเศรษฐกิจ จึงได้รับรู้และร่วมกันแก้ไขปัญหากันมาโดยตลอด


          “อนาคตสตูลจะต้องเปลี่ยนจังหวัดให้เป็นเมืองหลักของภาคใต้ เรามีทรัพยากรเยอะทั้งทางการท่องเที่ยว เราเป็นเมืองท่าที่เชื่อมทั้งฝั่งไทย-มาเลย์ เชื่อมฝั่งอันดามันทั้งหมด เรามีวัตถุดิบมากมาย ถ้าเป็นอาหารก็ควรจะเป็นอาหารที่อยู่ในภัตตาคารได้แล้ว เราไม่ได้ต้องการนักการเมืองที่จะอยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ต้องการนักการเมืองที่จะมาสร้างเมือง ซึ่งพรรคนี้แหละที่กระตุ้นต่อมความรู้สึกของผมมากที่สุด”


          แน่นอน คนหนุ่มอย่างโกแพ มองเห็นโมเดลความสำเร็จของ “บุรีรัมย์” ที่สร้างเมืองได้อย่างรวดเร็วเพียงระยะเวลาไม่กี่ปี จึงหันมามองว่าทำไมบ้านเราจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ จึงได้มีแนวคิดว่าเราต้องลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจให้ประชาชน คือการแก้กฎหมายต่างๆ ที่จะสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ให้อยู่ดีมีสุขมากกว่านี้ได้แล้ว 


          “ปัญหาขณะนี้คือ ข้อจำกัดในเรื่องของประมง จนทำให้พี่น้องชาวประมงเดือดร้อนกันไปทั่ว จนทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่สตูลย่ำแย่ลง ซึ่งหากเราสามารถแก้กฎหมายได้ โดยที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อส่วนรวม แต่ให้ชาวบ้านได้มีช่องทางทำมาหากินได้ดีกว่านี้”


          โกแพยอมรับว่า เป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ก็ได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อแนะนำตัวเองต่อพี่น้องประชน เพื่อบอกกล่าวว่าขออาสาในการที่จะสมัคร ส.ส.เขต 2 ในนามพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งเรียนรู้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.สตูล


          สำหรับภาพรวมพรรคการเมืองปัจจุบัน โกแพมองว่า พรรคการเมืองส่วนใหญ่จะมองแค่การเข้าร่วมกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเท่านั้น เช่นอยากจะเข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาล เพื่อจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาล แต่ตนเองมองว่า เราจะแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านอย่างไร


          คอการเมืองท้องถิ่นอาจมองว่า “วรศิษฎ์” ได้แต้มต่อเพราะบารมีโกเกียรติ แถมยังมีอา สัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล


          ภาพที่พรรคภูมิใจไทย มีโกเกียรติยืนชูมือลูกชาย “โกแพ” ขนาบด้วยแม่ทัพใต้อย่าง นาที รัชกิจประการ ส่งสัญญาณว่า โกเกียรติเอาจริง และเป็นกุนซือใหญ่ด้วยตัวเอง ว่ากันว่าภูมิใจไทยหวังอย่างมากกับสนามสตูล เขต 2 


          “สำหรับนามสกุลเลียงประสิทธิ์นั้น ส่วนใหญ่คนสตูลก็จะรู้จักเยอะ เมื่อคนรู้จักเยอะ ก็ย่อมจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นนามสกุลเลียงประสิทธิ์ ไม่ได้มีผลต่อผมในการที่จะลงสมัคร ส.ส.ในครั้งนี้ จะอยู่ที่ตัวเองมากกว่า ทุกคนอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน แพ้หรือชนะอยู่ที่ตัวเอง อยู่ที่ผลงานที่เราทำ” 


          วัดใจคนสตูลเขต 2 ว่าได้เวลาของ “เลียงประสิทธิ์” ในสนามการเมืองระดับชาติหรือยัง ?