เอาไง? "บิ๊กอ๊อด" จะลาหรือต้องโห่ไล่
ถูกเบรกเสียจนคนไทยแทบจะหัวทิ่มกันเลยทีเดียวกับบทความจาก www.soccersuck.com ที่จั่วหัวว่า "10 เหตุผลที่ "บิ๊กอ๊อด" ไม่ควรถูกไล่เมื่อบอลไทยแพ้"
ร่ายยาวถึงคุณงามความดีของ “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” หรือ บิ๊กอ๊อด นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หลังทำคอบอลไทยผิดหวังที่ทีมไทยไปพ่ายแพ้พลังโรตี จบเกมกับอินเดียไปด้วยสกอร์ 1-4 ประเดิมเอเชียน คัพ 2019
ซึ่งแน่นอน ที่หลังเกมนี้คนไทยจะรวมพลังกันถล่มยับตั้งแต่ โค้ช, นักเตะ ไปจนถึง “นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ” หรือบิ๊กอ๊อดของเรานี่แหละ
และต่อให้บิ๊กอ๊อดจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการประกาศยุติสัญญาการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยของ “มิโลวาน ราเยวัช” พร้อมทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของเขาบางส่วน ชนิดมีผลทันทีไปแล้ว
หรือต่อให้บิ๊กอ๊อด ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อกราบขอโทษแฟนบอลชาวไทยยังไง
สุดท้ายแล้ว มันก็ยังไปไม่สุดทางใจของคนไทย เพราะหลายคนมองว่านี่คือการทำพลาดชนิด “ซ้ำซาก” และคนที่ต้องรับผิดชอบอันดับแรกก็คือคนที่นั่งเก้าอี้นายกสมาคม นั่นแหละ
ซ้ำรอยเจ็บ
เอาจริงๆ ถามใจคนไทยที่ผิดหวังในครั้งนี้ ไปหาอ่านได้เลยในโลกโซเชียล คอมเมนต์รุนแรงแสบไส้ บางคนถึงกับใช้คำว่า “ล้มละลายทางเครดิต” ไปแล้วสำหรับบิ๊กอ๊อด !
แต่ถ้าว่ากันเนื้อๆ ที่ผลงานในช่วงที่บอลไทยอยู่ในเงาของนายกสมาคมผู้นี้ ก็พอเข้าใจคนไทยได้ว่ามันเจ็บสักเพียงไหน !
เจาะเวลาหาอดีตคร่าวๆ เช่น ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี (U16) ช่วงปีที่แล้วทำได้เพียงรองแชมป์อาเซียน เพราะแพ้อินโดนีเซีย ในนัดชิงชนะเลิศ
หันไปดูทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี (U19) ยิ่งเครียด เพราะไปตกรอบรองชนะเลิศ โดยแพ้เมียนมา แถมไปชิงอันดับ 3 ก็แพ้อินโดนีเซียอีก ทำได้เพียงแค่ที่ 4 ในอาเซียน
มาถึงทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี (U 23) ก็ฟอร์มเดียวกัน คือ “ตกรอบแรก” เอเชี่ยนเกมส์ ที่อินโดนีเซีย แถมยังนับเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปีอีกด้วย ผลงานหนนี้คือเสมอ กาตาร์ 1-1, เสมอ บังกลาเทศ 1-1, แพ้ อุซเบกิสถาน 1-0
ส่วนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็เพิ่งตกรอบรองชนะเลิศ “ซูซูกิ คัพ” ในบ้านตัวเอง ฉีกดวงใจแฟนบอลไทยทั่วประเทศย่อยยับไปกับตา ทั้งๆ ที่เป็นแชมป์เก่าแท้ๆ
และก็ล่าสุดงวดนี้แหละ ศึกเอเชียน คัพ 2019 ที่มาพ่ายแพ้ต่อทีมชาติอินเดีย ชนิดหมดรูป 4-1 ในนัดแรก แถมยังถูกตอกหน้าด้วยการถูกจารึกลงประวัติศาสตร์ว่า เป็นการแพ้ต่ออินเดีย ในรอบ 33 ปีเลยทีเดียว !
ไม่ต้องหันไปมองฟุตบอลหญิง ทางนั้นก็แพ้รูดกราว 3 นัดในเอเชี่ยนเกมส์ ไล่ตั้งแต่ แพ้ญี่ปุ่น 2-0, แพ้เวียดนาม 3-2 แม้ว่าจะทำผลงานได้เข้ารอบ 2 ก็ข้ามไม่ถึงฝั่ง เพราะโดนพี่จีนถล่มราบ 5-0 ตกรอบกลับบ้าน !
แบบนี้แล้ว จะไม่ให้คนไทยเดือดยังไงไหว แถมลองนึกดีๆ ก็เป็นบิ๊กอ๊อดเองนั่นแหละที่เคยพูดไว้ว่า “ถ้าอยู่กันแบบนี้ไม่เป็นไร ถ้าเป็นผม ผมอาย” ที่มันวนเวียนกลับมาย้อนรอยให้คนไทยได้ถามหาความรับผิดชอบจากบิ๊กอ๊อดอีกครั้งว่า “แล้วเฮียจะอยู่ทำไมครับ !!”
งานนี้เลยอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าบิ๊กอ๊อดไม่พูดเยอะ เก็บคอไว้เจ็บหน้าหนาวบ้าง ก็คงไม่ทำให้คนไทยของขึ้นแรงขนาดนี้ !
เก็บรอยสร้าง
แต่ก็อย่างที่เกริ่นไว้ว่าบทความของ “SS บอลไทย” ซึ่งยกเหตุผล 10 ประการที่แฟนบอลไทยควรรู้เกี่ยวกับบิ๊กอ๊อดซึ่งทำเอาคนที่กำลังก่นด่าอาจมีสะอึก !
เพราะนอกจากข้อมูลทั้งหมด ที่เป็นข้อเท็จจริง ไม่ได้ “มโน” แล้ว อ่านๆ ไป ก็มีมุมฉุกคิดเหมือนกันว่า แท้จริงแล้วเราจะอยากจะเลือกนายแบบไหนกันแน่ ?!
คร่าวๆ ที่นับว่า “บิ๊กอ๊อด” ทำไว้หลังรับเก้าอี้นายก ส.บอลไทย นอกจากประเดิมปีแรกด้วยการทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งได้ในที่สุด ณ อาคาร 40 ปี ในการกีฬาแห่งประเทศไทยฯ จากนั้นบิ๊กอ๊อดก็ยังมีผลงาน (ทางด้านที่ไม่เกี่ยวกับสกอร์ในเกมฟาดแข้ง) ออกมาเรื่อยๆ
ที่เด็ดๆ ซึ่งน่าจะเข้าเส้นคนไทยมากที่สุด ก็คงเป็นเรื่องตัวเลข เพราะจากข้อมูลที่บทความดังกล่าวเล่าไว้ ระบุว่าบิ๊กอ๊อดนั้นใช้เวลา 2 ปี ปลดหนี้กว่าสามร้อยล้านบาทให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ทั้งหนี้สรรพากร และหนี้อื่นๆ ที่เกิดก่อนหน้าที่จะเข้ามาบริหาร
หรืออะไรที่เกี่ยวกับ “ความโปร่งใส” ทางการเงิน ที่คนไทยตั้งคำถามมานานแล้วว่าสมาคมบอลไทยมันก็ “แดนสนธยา” เราดีๆ นี่เอง บิ๊กอ๊อดเคลียร์จบ !
เช่น การสร้างระบบการเงินที่มั่นคงให้แก่ฟุตบอลลีกอาชีพได้อย่างรวดเร็ว การมอบเงินสนับสนุนแก่สโมสรสมาชิกในทุกระดับ
หรือที่จี๊ดๆ ที่ระบุว่า บิ๊กอ๊อดไม่เคย “อมเงิน” นักเตะทีมชาติไทย เช็กได้เลยทุกชุดได้เงินรางวัลตามสัญญาอย่างรวดเร็วทุกสลึง
ยาวไปถึงเรื่องคุณภาพชีวิตของนักกีฬาที่กินอิ่ม นอนอุ่น รวมไปถึงดูแลทุกการเดินทางอย่างดี
ไหนจะการบริหารจัดการเรื่องบัญชีรายรับ-รายจ่ายชัดเจนเป็นครั้งแรก !!! โดยมีการแยกประเภทเรียบร้อยเสร็จสรรพ เช่น บัญชีเงินจากฟีฟ่า, บัญชีเงินจากเอเอฟซี, บัญชีเงินจากเอเอฟเอฟ, บัญชีเงินจากค่าปรับไทยลีก และอื่นๆ ที่บอกเลยพร้อมชี้แจงเงินเข้า-ออกได้อย่างไม่มีติดขัด !
และคงจำกันได้กับข่าวใหญ่ช่วงปี 2560 กับประเด็น “ล็อกผลบอล” ที่บิ๊กอ๊อดจับได้ จนมีการแถลงข่าวเปิดโปงขบวนการที่ประกอบด้วยนายทุน นักฟุตบอล กรรมการ และผู้บริหารทีม งานนี้ได้รับการยกย่องจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ และมีการเชิญเจ้าหน้าที่สมาคม ไปให้คำแนะนำในงานสัมมนาที่ฝรั่งเศส
หรือประเด็นที่ “บิ๊กอ๊อด” เดินหน้าทวงถามผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลฯ ชุดเก่า กับจำนวนเงินกว่า 1 พันล้านบาทที่หายไป !!
ทั้งหมดนี้ แน่น่อนเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่บิ๊กอ๊อดสร้างไว้ ซึ่งถ้าไม่โกรธแค้นกันมากมายมาแต่หนไหน ก็ช่วยกันจด ช่วยกันจำบ้างก็ยังดี !
แต่ถ้าขนาดนี้ยังดีไม่พอ หันไปข้าง FC ของบิ๊กอ๊อดบางคน ก็คงอยากถามฝั่งไล่ส่งเหมือนกันว่า แล้วจะเอาแบบไหน ระหว่างบริหารงานโปร่งใส แต่ผลงานฟุตบอลต้องทำใจว่า “มีขึ้นมีลง” กับบริหารแอบๆ แต่ผลงานงั้นๆ ก็ลองคิดกันดู
นี่ไม่ได้ว่าใคร แต่ก็ต้องติงนิดหนึ่งว่า สรุปมีให้เลือกแค่นี้เองใช่มั้ย ?