คอลัมนิสต์

อัศจรรย์เรือพระที่นั่ง 'สุพรรณหงส์'

08 เม.ย. 2562

คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]

 

 

          วันนี้ยังเป็นวันหยุดราชการ ‘อ๊อด เทอร์โบ’ ขอนำเสนอเรื่องที่เป็นสิริมงคลแก่ปวงชนชาวไทยได้ทราบ นั่นคือกองทัพเรือได้อัญเชิญเรือพระที่นั่ง ‘สุพรรณหงส์’ เพื่อใช้ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 4-6 พฤษภาคม และในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดในช่วงเสด็จพระราชดำเนินไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้

 

 

          พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวางกูร

          เรือพระที่นั่ง ‘สุพรรณหงส์’ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เป็นเรือพระที่นั่งขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายนก ปากแหลมยื่นยาว และมีเขี้ยว ส่วนลำคอยืดยาว ทอดลำตัวเป็นลำเรือ

          ต่อมาในรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้จัดเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ ทรงพระบรมธาตุที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ เมื่อพ.ศ.2370 ต่อมาเรือมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก จึงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ลำปัจจุบันเป็นเรือที่สร้างขึ้นใหม่แทนเรือพระที่นั่งลำเดิมที่ชำรุด จัดเป็นเรือพระที่นั่งกิ่ง มีนาวาสถาปนิกต่อเรือคือ พล.ร.ต.พระยาราชสงคราม รน (กร หงสกุล)

          เริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 แล้วเสร็จประกอบพิธีอัญเชิญเรือลงน้ำ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2454 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชทานนามว่า “เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์”

          ลักษณะตัวเรือ โขนเรือเป็นรูปหงส์ ไม้ลงรักปิดทองประดับกระจก ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 ท้องเรือภายนอกทาสีดำ ภายในทาสีแดง มีความยาว 44.90 เมตร ความกว้าง 3.14 เมตร ลึก 0.90 เมตร กินน้ำลึก 0.41 เมตร หนัก 15.6 ตัน ปัจจุบันเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี กรมศิลปากร คลองบางกอกน้อย

 

          การจัดกำลังพลประจำเรือในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ ใช้กำลังพลกองทัพเรือจำนวน 64 คน ประกอบด้วย ฝีพาย 50 คน นายท้าย 2 คน คนถือธงสามชาย 1 คน พลสัญญาณ 1 คน และคนถือฉัตร 7 คน โดยจะมีการซ้อมย่อยในวันที่ 26 เมษายน  และซ้อมใหญ่วันที่ 30 เมษายน จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยถวายความจงรักภักดี ร่วมชมการซ้อมและพระราชพิธีสำคัญของชาติและจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสืบไป

          เรือพระที่นั่ง ‘สุพรรณหงส์’ และกระบวนเรือถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเอกลักษณ์ของไทยและมีแห่งเดียวในโลกก่อนจะอัญเชิญลงน้ำจะต้องมีพิธีขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และการบวงสรวงตามโบราณราชประเพณี

          เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อหัวเรือพ้นโรงเก็บเรือเมื่อเวลา 08.20 น.

          ขณะนั้นท้องฟ้ากลับมีเมฆเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์ เหลือเพียงแสงแดดอ่อนๆ เป็นประกายสาดลงมาสะท้อนสีทองของเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ที่แวววาว งดงาม ท่ามกลางความตื่นเต้นยินดีของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

          นี่คือความศักดิ์สิทธิ์-อัศจรรย์เรือพระที่นั่ง ‘สุพรรณหงส์’
อ๊อด เทอร์โบ



 ‘วัดโพธิ์’ อันดับ 21 โลก
 เรียน คุณอ๊อด เทอร์โบ

          ผมเป็นเด็กวัดโพธิ์ท่าเตียน อาศัยข้าวก้นบาตรหลวงลุงและพักอาศัยอยู่อย่างมีความสุขและพอเพียง ตอนเรียนอยู่มัธยมซึ่งสมัยไม่มีหอพักหรือห้องเช่ามากเหมือนเวลานี้ เด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ก็ต้องอาศัยอยู่บ้านญาติและเป็นเด็กวัด

          เมื่อมีโอกาสก็จะเข้าไปวัดโพธิ์ถิ่นเก่าเพื่อกราบไหว้พระนอนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำบุญตามกำลังความสามารถและสังเกตเห็นว่าวัดโพธิ์มีนักท่องเที่ยวไปกันมาก

          วันก่อนมีข่าวว่า “ทริปแอดไวเซอร์” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกของประเทศสหรัฐอเมริกา มีสาขาทั่วโลกกว่า 45 ประเทศ ได้ประกาศผลสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดและมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวมากที่สุด ซึ่งได้รับคัดเลือกจากนักท่องเที่ยวหลายล้านคนทั่วโลกที่ได้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง ประจำปี 2558
  
          ปรากฏว่า “วัดโพธิ์” มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาท่องเที่ยว เป็นอันดับ 21 ของโลก คือมีประมาณ 20 ล้านคน นอกจากนี้ ยังสามารถคว้าอันดั 4 สถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดของทวีปเอเชีย รองจากนครวัดประเทศกัมพูชา ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย กำแพงเมืองจีน ปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

          วัดโพธิ์คว้ารางวัลชนะเลิศด้านสถานที่สำคัญที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากที่สุดในประเทศไทยด้วย ส่วนอันดับ 2 คือพระบรมมหาราชวัง วัดอรุณราชวราราม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
   
          วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จ.เชียงใหม่ วัดพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี (วัดพระใหญ่) จ.ภูเก็ต วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่ ปราสาทสัจธรรม จ.ชลบุรี จุดชมวิวเกาะพีพี จ.กระบี่ และวัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ
  
          นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาท่องเที่ยว เพราะต้องการชื่นชมความงามของพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนวัดโพธิ์ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล รูปปั้นฤๅษีดัดตน ยักษ์วัดโพธิ์ สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยถึงปีละเกือบ 2,000 ล้านบาท
  
          ผมจึงขอให้พวกเราได้ภาคภูมิใจและอนุรักษ์ดูแลวัดโพธิ์และวัดวาอารามของไทยให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไป
เสรี (ท่าเตียน)


ตอบคุณ ‘เสรี’ ท่าเตียน
          จดหมายของคุณนำข่าวที่น่ายินดีพอใจยามที่ประเทศไทยของเรากำลังมีปัญหาหลายอย่างรุมเร้า-ผู้คนสับสนและมีความเครียด

          จึงขอให้ประชาชนคนไทยได้ทราบข่าวดีและมีความภาคภูมิใจในเรื่องนี้และร่วมกันดูแลรักษาให้ดี
  
          เราต้องมีความรักชาติและภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย เพราะเรามีทุกอย่างทุกสิ่งครบมากกว่าประเทศอื่น
อ๊อด เทอร์โบ
