กรงกรรมสระแก้ว "ป๋าเหนาะ" วันที่ไร้บารมี
ลึกๆ แล้ว "เสนาะ เทียนทอง" ยังแค้นในหัวอก อันเนื่องจากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งทีมผู้สมัครส.ส.ของป๋าเหนาะ พ่ายเรียบ และพ่ายยกจังหวัดในรอบ 40 ปี
********************
ควันหลงงานประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562 “ป๋าเหนาะ” จุดประเด็น “งูเห่า” เหมือนดักคอเพื่อนร่วมพรรค “ขอเตือนคนที่คิดจะเป็นงูเห่า ถ้าไปจะถูกประชาชนลงโทษ เขาจะไม่เอา และผมรังเกียจงูเห่า”
คำพูดของป๋าเหนาะ อาจสะใจกองเชียร์เสื้อแดงและคงมีการนำถ้อยวลีนี้ไปปั้นในโซเชียล ตอกย้ำข่าวปล่อยงูเห่าตัวละร้อยล้าน
ลึกๆ แล้ว “เสนาะ เทียนทอง” ยังแค้นในหัวอก อันเนื่องจากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งทีมผู้สมัคร ส.ส.ของป๋าเหนาะ พ่ายเรียบ และพ่ายยกจังหวัดในรอบ 40 ปี
เกิดได้ก็ดับได้
จะว่าไปแล้ว “ป๋าเหนาะ” ทำใจล่วงหน้าว่า เขต 1 และเขต 2 สระแก้ว คงสู้ทีมหลานรัก “ฐานิสร์-ตรีนุช” ไม่ได้ แต่เขต 3 (อ.อรัญประเทศ อ.โคกสูง อ.ตาพระยา และอ.วัฒนานคร) ยังไง ลูกชาย “บอย" สรวงศ์ เทียนทอง ต้องชนะ
เสนาะ และ สรวงศ์ เทียนทอง
บังเอิญว่าผู้ท้าชิงค่ายพลังประชารัฐชื่อ “สุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์” ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนนวรรณ์ จำกัด รับเหมาก่อสร้าง และผู้จัดการตลาดเดชไทย (โรงเกลือ) และเคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอรัญประเทศ
แถมสุรศักดิ์ยังมีน้องชายชื่อ พ.ต.อ.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วและมีกองหนุนชั้นดีที่ป๋าเหนาะก็รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นใคร?
การจัดทีมผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว ค่ายพลังประชารัฐ แยกเป็นสองทีมคือ ทีมหลานรักของป๋าเหนาะขึ้นต่อบ้านริมน้ำของสุชาติ ตันเจริญ แต่กรณีของ “สุรศักดิ์” ต่อสายตรง “บ้านพี่ใหญ่”
สุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์
วันสุดท้ายก่อนหย่อนบัตร ถ้อยวลี “เกิดได้ก็ดับได้” คนแถวโรงเกลือพูดกันให้แซด หัวคะแนนป๋าเหนาะก็รับสภาพว่าแพ้ เมื่อเห็นตำรวจ-ทหาร ตั้งด่านตรวจคุมเข้มแถวชายแดน
สภากาแฟสระแก้วบอกกฎแห่งกรรมมีจริง กรรมไม่เคยละเว้นใคร ไม่ว่ากรรมนั้นจะเป็นบุญหรือบาป
โตมากับทหาร
43 ปีที่แล้วผู้รับเหมาบ้านนอกชื่อ “เสี่ยแหนม” ได้รับการติดต่อจาก “พล.ท.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” แม่ทัพภาคที่ 1 (ยศและตำแหน่งเวลานั้น) ให้ลงสมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี ในสังกัดพรรคชาติไทย เวลานั้นสระแก้วยังไม่ได้แยกออกจากปราจีนบุรี
สมัยโน้น “พล.อ.ยศ” เคยรับราชการอยู่ชายแดนแถวอรัญประเทศ และตาพระยา ซึ่งทหารมักใช้บริการของเสี่ยแหนม ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารบ้านพัก ถนนเลียบชายแดน และบังเกอร์ชายแดน
เสี่ยแหนมตกปากรับคำ พล.อ.ยศ ด้วยต้นทุนทางสังคมที่ช่วยเหลือภาคส่วนราชการ ผลการเลือกตั้งปี 2519 เสนาะ เทียนทอง จึงได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยแรก
ทหารกับเจ้าพ่อวังน้ำเย็นเหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่มาวันนี้ความสัมพันธ์เหมือนเส้นขนาน เพราะเหตุใดเสี่ยแหนมรู้ดีที่สุด
ปลายปีที่แล้วป๋าเหนาะไปพบผู้ใหญ่คนไหน ถ้าจำไม่ได้ให้ไปถามคนชื่อไพศาล
ทิ้งเพื่อไทย..ไม่สอบตก
การที่สองพี่น้อง “หนึ่ง-ฐานิสร์" และ “เหน่ง-ตรีนุช” สร้างแฟนเพจ “ไปด้วยกัน ไปได้ไกล” เป็นเครื่องมือสื่อสารช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา และสังเกตจากการตั้งชื่อเพจ ก็บอกความนัยได้ว่า ทำไมพวกเขาจึงแยกทางจากป๋าเหนาะ
ขวัญเรือน เทียนทอง
20 ปีมานี้ ตระกูลเทียนทอง แบ่งพื้นที่ธุรกิจการเมืองกันชัดเจน โดย “เสนาะ” มอบหมายให้น้องชาย "พิเชษฐ์ เทียนทอง” ดูแลธุรกิจและการเมือง โดยใช้ อ.วัฒนานคร เป็นฐานบัญชาการ
หลังพิเชษฐ์เสียชีวิต ภรรยา-กำนันขวัญเรือนได้เข้ามาดูแลกิจการต่อ โดยมอบให้ลูกชายคนเล็ก “หนุ่ย-อนุรักษ์” บริหารธุรกิจแทนบิดา ส่วนฐานิสร์กับตรีนุช เล่นการเมือง
สงกรานต์ปีนี้ บ้านเขาฉกรรจ์ มีแต่ขวัญเรือนกับลูกๆ
"เทียนทอง” อีกสายหนึ่งคือครอบครัวของ “วิทยา เทียนทอง” ปัจจุบันทายาทของวิทยาดำเนินธุรกิจโรงแรมอยู่ใน อ.อรัญประเทศ และลูกชาย-ทรงยศ เทียนทอง เป็นนายก อบจ.สระแก้ว
ช่วงหาเสียงป๋าเหนาะลำเลิกเบิกประจานหลานรักว่า “เนรคุณ” ขณะที่ “หนึ่ง-เหน่ง" ปราศรัยทุกเวทีว่าเป็นลูกหลานของตระกูลเทียนทอง “ลุงเสนาะ เป็นคนที่รักเหมือนพ่อคนที่ 2 ของครอบครัว”
จะอย่างไรก็ตามสองพี่น้องได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว “ไปด้วยกัน ไปได้ไกล” คล้ายจะบอกว่า การอยู่ใต้ร่มเงาป๋าเหนาะนั้นไปไม่ได้ไกล
ที่สำคัญผลคะแนนที่ออกมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคนที่ทิ้งเพื่อไทยไม่ได้สอบตกทุกคน