
เอาอย่างไร..ว่ากันมา
คอลัมน์... จี้จุดตายคลายจุดเป็น โดย... เร้นกาย ไร้เงา
จบแล้ว "ละครคณะสามมิตร" แห่งพลังประชารัฐ! หลังกู่ร้องก้องโลกเรียกค่าตอบแทนในการทำงาน...
“อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรคพปชร. พร้อมกับ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, สมศักดิ์ เทพสุทิน สองคีย์แมนกลุ่มสามมิตร แถลงร่วมปิดรอยบาดหมางได้แบบหลายคนงงใจ !
“สีสันทางการเมือง เพราะมันคือวิถีประชาธิปไตย เสียงสะท้อนของผู้แทนฯ คือสิ่งดีๆ ที่แสดงออกมา ไม่ขับเลขาธิการพรรค แต่ปัญหาก็เคลียร์กันได้ ทุกอย่างยุติ เดินหน้าทำงานในครม.กับรัฐสภา และเคารพการตัดสินของลุงตู่ !” คือสาระหลักๆ ที่สามคีย์แมน พปชร.แจ้งไว้
แสดงว่าการต่อรองเก้าอี้ รมต.รอบนี้ยุติและกลุ่มสามมิตรรอการปรับ ครม.ลุงตู่ 2/2 ที่น่าจะเวียนรอบให้คนอกหักได้สมหวังในเร็ววัน...
แต่คนที่งง ! คือ...ทำไมหักมุมไวปานกามนิตหนุ่มเยี่ยงนี้ ? เพราะหลายวันก่อนคนไทยทั่วไปคงได้รับรู้ข่าวสารกันไปแล้ว ดังนั้นน่าจะตรองได้เองว่าอนาคตของ ครม.ลุงตู่ 2 จะทำงานได้คล่องไหม
แน่นอนว่าการตีรวนของคนการเมืองในพลังประชารัฐเกี่ยวกับอาการงอแงหลังส่อแววหลุดโผ ครม. ออกมาในแบบที่ไม่ค่อยบังเกิดในสังคม
เกมนี้เดาใจเลยว่า...ลุงตู่มิปลื้มเลยกับสิ่งที่บังเกิด แต่ก็สะกดใจเอาไว้
และเมื่อพินิจใจความสำคัญสำหรับข้อความที่ลุงตู่ส่งออกมาขอโทษสังคมเกี่ยวกับความวุ่นวายในการตั้ง ครม.ประยุทธ์ 2 มันสะท้อนอะไรบางอย่าง...จนมือลึกลับต้องมีอาณัติสัญญาณลับส่งออกไปตามหลังให้ใครบางคนรับรู้...และสยบ
แต่สิ่งที่บังเกิดนั้นมองข้ามไม่ได้เลยว่าจังหวะพลาดครั้งนี้ส่งผลบวกหลายทวีคูณกับขั้วตรงข้ามลุงตู่โดยพลันทำให้หลายคนยิ้มมุมปากและสั่งเตรียมกำลังพลรอสถานการณ์เดินหาแต้มกันแล้วกับข่าวคราวจากอาคารปานศรีในหลายวันก่อน เพราะรู้แล้วว่าคนงอแงบางขั้วใน พปชร.วางเกมอะไรที่จะตีรวนบนกระดานการเมืองในห้องประชุมสภาผู้แทนฯ และจ่อตรวจงานเสนาบดีที่เป็นคนกันเองจนทำนายได้เลาๆ ว่าลุงตู่อาจจะต้องตกอยู่ในภาวะเป็ดง่อย
แปลว่าฝ่ายค้านไม่ต้องทำการบ้านเยอะ รอจังหวะสวนกลับและรอสัญญาณว่าที่งูเห่าขั้วหนุนลุงตู่จะเดินหมากอย่างไรก็พอ...
แต่ “ขั้วตรงข้ามลุงตู่” ก็ต้องลุ้นว่าพลพรรคสีส้มจะมีชะตากรรมเช่นใดในเพลาอันใกล้นี้...เพราะคีย์แมนหลากพรรคมองว่าเสี่ยเอกแห่งอนาคตใหม่น่าจะหมดอนาคตทางการเมืองไปพักใหญ่ และรอดูว่าผลกระทบที่ข้องเกี่ยวกับพลพรรคสีส้มจะเผยในรูปแบบใด ?
ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญจุดหนึ่งของการเมืองไทย เพราะมีหลากองค์ประกอบที่พัวพันกับหลายปัจจัยทางการเมือง หากมีข้อมูลที่แน่ชัดกว่านี้จะนำมาคลี่ให้สังคมรับรู้ในเพลาหน้า...เพื่อทายทักกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคตกันแต่เนิ่นๆ
ยามนี้ข้อมูลบางส่วนที่สายสืบแคะมาได้นั้น คือ หากลุงตู่กุมสภาพได้ในการตั้ง ครม.ครั้งนี้ แบบไม่ยอมลงให้กับแรงบีบของบางคน และตอนนี้กลุ่มสามมิตรถอยให้เพราะรับทราบบางรหัสลับที่สื่อมาเมื่อค่ำวันจันทร์...และหมอบกระแตไปเมื่อสายวันอังคารแล้ว
ดังนั้นการขึ้นหลังเสือเป็นหัวหน้าพรรค พปชร. ของลุงตู่น่าจะมาไวขึ้นกว่ากำหนด และใครที่งอแงอาจจะวืดในการลงสนามครั้งหน้า
และสายสืบยังควานพบกระแสข่าวลอยลมลือว่าหากวันข้างหน้าใครบางคนยังทำอะไรมั่วๆ กันแบบนี้อีก...ดาบในมือลุงตู่ที่มีอยู่ที่จะทำให้คนใน พปชร.และหลายพรรคชะงักงันคือยุบสภาก่อนเวลาอันควร
ถามว่า คนการเมืองพร้อมรับแรงกระแทกนี้ไหม ?
คำตอบนั้น คือ หลายพรรคคงไม่สุขใจเพราะปัจจัยที่หว่านลงไปยังไม่งอกเงย หากต้องควักสรรพกำลังกันอีกรอบก็คงจะเหนื่อยกว่าเดิม และไม่ต้องมองไกลเลยว่ายามหน้า พปชร.จะเดินสายแตะขั้วกับพรรคอื่นๆ ได้สะดวกไหม ?
แต่คนที่ดิ้นแน่ๆ คือ ส.ส.สองระบบของ พปชร.และอดีตผู้สมัคร ส.ส. เพราะกระแสพรรคยามนี้ “รุ่งหรือร่วง” นั้น คนใน พปชร. คงหาคำตอบได้เอง...
งานนี้เท่ากับว่า พปชร.ขาดทุนจากการบอมบ์ตัวเองและคนเคียงข้าง โดยมิรับฟังกระแสความที่ลุงตู่ส่งมาเลย แม้ยามถัดมาจะออกมาแก้เกี้ยวไปได้แบบงงใจก็ตาม...
ดังนั้นหากจะตัองปิดเกมเร็วเพื่อวางจังหวะเดินหน้า การสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต บางคราวคงต้องกระทำ...และยิ่งชายชาติทหารที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะพินิจทางเลือกที่เหมาะที่สุดไว้ในใจแล้วกับวิถีประชาธิปไตยที่ลุงตู่คือคนกุมชะตาหากวันนั้นมาถึง...กับหลากเหตุทางการเมือง
เดาใจว่า...ลุงตู่คงไม่อยากให้วิธีเดิมๆ ที่หลายคนมิหวังให้มันกลับมาอีกโผล่มาในห้วงเวลาอันใกล้นี้
ยิ่งมองไปยังใจความที่ลุงตู่สรุปว่า “อย่าต้องให้การแก้ปัญหาแบบเดิมๆ ต้องกลับมาอีก” มันแปลความไปไกลไม่ได้เลยว่าโรดแม็พห้าปีที่ลุงตู่วางไว้กับยุทธศาสตร์ชาติยี่สิบปีที่ต้องพัฒนาประเทศอาจยุติหากใครบางคนยังดื้อแพ่งกันเช่นนี้...
คำตอบคงมีเพียงว่า หากจะเอาแบบนี้ ผลลัพธ์จะมาในรูปแบบนี้ ในเมื่อเตือนสติกันแล้วมิสดับรับฟัง...
มันแปลความว่าลุงตู่น่าจะรู้ว่าใครบางคนสั่งหลายกรมกองให้ขัดดาบปลายปืนให้พร้อมสรรพ หากการเมืองในระบบหาทางออกกันไม่ได้
ในเมื่อยังดื้อกันแบบนี้ คำตอบวันนั้นคือตัวใครตัวมันก็แล้วกัน...