คอลัมนิสต์

ยุติข่าวปลอม

ยุติข่าวปลอม

09 ส.ค. 2562

บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2562

 


          ปมข่าวปลอมที่เผยแพร่ในสังคมออนไลน์จนเกิดความสับสนในหลายกรณีนั้น แม้รัฐบาลที่แล้วจะมีกฎหมายและมาตรการจัดการผู้ที่ดำเนินการปล่อยข่าวปลอมอย่างเด็ดขาด และมีการลงโทษไปแล้วหลายกรณี แต่วันนี้ข่าวปลอมยังดำเนินอยู่ และบางกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจนถึงขนาดต้องแจ้งความเอาผิดกันแล้ว ขณะเดียวกัน ส.ส.เหล่านั้นยังให้ข่าวแก่สื่อมวชนตอบโต้ท้าทายกันไปมาจนหลายฝ่ายไม่สบายใจกับการทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทย

 


          มาถึงตรงนี้คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การสาดโคลนใส่กันของบรรดา ส.ส.ดังกล่าวเปรียบสมือนการ “ขว้างงูไม่พ้นคอ” เพราะต้องไม่ลืมว่า “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” คือผู้เข้าไปทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติและติดตามการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรี ดูแลทุกข์สุขของประชาชนและเสนอปัญหาไปยังรัฐบาลให้เร่งดำเนินการแก้ไข แต่เมื่อ ส.ส.บางคนดันมากระทำการฝ่าฝืนตัวบทกฎหมายเสียเอง จึงดูเป็นเรื่องไม่งามนัก


          ภาพ ส.ส.หญิงจากพรรคฝ่ายค้าน และพรรคการเมืองฟากรัฐบาล วิ่งแจ้นขึ้นโรงพักฟ้องร้องเอาผิดกันไปมาอย่างดุเดือด ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และการทำงานของพรรคการเมืองต้นสังกัดโดยตรง และที่สำคัญประชาชนจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมตั้งคำถามด้วยความเอือมระอาว่า พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ เพราะในสภาวะที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยข่าวปลอม และการสร้างสถานการณ์ป่วนเมืองไม่เว้นแต่ละวันเช่นนี้ คนไทยทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลประเทศชาติให้ปราศจากสิ่งเลวร้ายด้านต่างๆ ไม่ใช่พาตนเองลงสนามกลายเป็นต้นตอของข่าวเลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นเสียเอง


          แม้ความผิดที่เกิดขึ้น จะเป็นการกระทำและจิตสำนึกส่วนบุคคล แต่หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือผู้ใหญ่ของพรรคที่ ส.ส.สังกัดอยู่ ควรอบรมมารยาทและพฤติกรรมของสมาชิกพรรคตัวเองให้อยู่ในกรอบจริยธรรมที่ถูกต้อง อย่าประพฤติตนในเชิงสร้างความเสื่อมเสีย ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพเสียงที่ประชาชนไว้วางใจให้เข้ามาทำหน้าที่ในและนอกห้องประชุมรัฐสภา เพราะเงินเดือนและค่าตอบแทนที่ ส.ส.ได้รับนั้นคือภาษีที่คนไทยจ่ายให้


          ส.ส.ควรเป็นแบบอย่าง ด้วยการยุติการสร้าง การกระพือ การแสดงความเห็น การส่งต่อหรือการปล่อยข่าวปลอมออกมาสู่สังคม และที่สำคัญต้องไม่จงใจพาตนเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการดังกล่าวเพียงเพื่อต้องการให้ได้รับการกล่าวถึงในสังคม แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาอาจส่งผลร้ายต่อคนรอบข้าง และประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง เพราะข่าวปลอมที่เคยเกิดขึ้นในอดีตและวันนี้สร้างรอยแผลมากมายให้สังคมมาแล้ว...หยุดเถอะ อย่าใช้วิธี “ถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า” สุดท้ายเมื่อตกลงมามันก็เปรอะเปื้อนเลอะหน้าตนเอง...!