ภารกิจศิษย์เอก
ก่อนจะถึงวันที่ "อดีตพระพรหมสิทธิ" ได้รับการปล่อยชั่วคราว “สมเกียรติ ศรลัมพ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาภิวัฒน์ ได้นำเรื่องอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ ยังไม่ได้รับการประกันตัวเข้าหารือในสภาฯ ถึง 2 ครั้ง
ครั้งแรก 4 ก.ค.2562 “สมเกียรติ” ได้หยิบยกเรื่องความลำบาก และความทุกข์ของพุทธศาสนิกชน นับแต่อดีตพระพรหมดิลก และอดีตพระพรหมสิทธิ พร้อมด้วยพระราชาคณะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสอีก 3 รูปถูกจับดำเนินคดีในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินผิดประเภท โดยศาลยังไม่อนุญาตให้ประกันตัว
สมเกียรติ ศรลัมพ์
ครั้งที่สอง 10 ส.ค.2562 “สมเกียรติ” ได้ขอหาเรื่องเดิมอีก และทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนฯ เพื่อดำเนินการส่งหนังสือไปให้กองทุนกระทรวงยุติธรรม ในการช่วยในการประกันให้อดีตพระชั้นผู้ใหญ่
ถัดมา วันที่ 11 ส.ค.นี้ "สมเกียรติ" ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก ส.ส.ต่อประธานสภาผู้แทนฯ เพื่อไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
ดังที่รู้กัน รมต.ประจำสำนักนายกฯ มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เลยไม่น่าแปลกใจที่มีเสียงชิตังเม
เครือข่าย“สามมิตร”
ช่วงเลือกตั้ง สื่อหลายสำนักฟันธงว่า “พรรคประชาภิวัฒน์” คือ พรรคสายธรรมกาย เนื่องจากสมเกียรติ ศรลัมพ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค มีศิษย์สายของธรรมกายจำนวนหนึ่งให้การสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีรองหัวหน้าพรรค พล.ต.ไชยนาจ ญาติฉิมพลี อดีตนายกสมาคมเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทางวัดพระธรรมกาย เป็นรองหัวหน้าพรรค
สมเกียรติ ในฐานะศิษย์ธรรมกาย
ตัวละครที่สื่อมองข้ามคือ "นันทนา สงฆ์ประชา" อดีต ส.ส.ชัยนาท และเลขาธิการพรรคประชาภิวัฒน์ แท้จริงแล้ว "มันแกว" หรือนันทนา เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้ "สมเกียรติ" ได้รับตำแหน่งข้าราชการการเมืองในทำเนียบรัฐบาล
จากกรณีดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้สมเกียรติต้องลาออกจาก ส.ส. ทำให้นันทนา ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำ ดับที่ 2 เลื่อนขึ้นเป็น ส.ส.แทน
นันทนา สงฆ์ประชา
สมเกียรติ อดีต ส.ว.นครสวรรค์ และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อไทย ร่วมกับนันทนา ทำธุรกิจตลาดขายส่งดอกไม้ และร่วมคิดร่วมสร้างพรรคประชาภิวัฒน์ โดยพี่ชาย-มณเฑียร สงฆ์ประชา ก็เห็นดีเห็นงาม
เหมือนแยกเดินตามกติกาใหม่ เพราะชัยนาทมี ส.ส. 2 คน กลุ่มสามมิตรขอจอง นันทนาจึงหิ้วกระเป๋าไปสร้างพรรคใหม่