คอลัมนิสต์

แกะสูตร  คดีหมอผัสพร-อุ้มทนายสมชาย กำจัดจุดอ่อน คดีบิลลี่

แกะสูตร คดีหมอผัสพร-อุ้มทนายสมชาย กำจัดจุดอ่อน คดีบิลลี่

26 ก.ย. 2562

แกะสูตร ดีเอสไอ ขุด 2 คดีดัง คดีหมอผัสพร-อุ้มทนายสมชาย คลายปมคดีอุ้มบิลลี่ สาวหาตัวฆาตกร... ทั้ง 2 คดี มีความเหมือน-ต่าง กับคดีบิลลี่อย่างไร

    ปิยะนุช ทำนุเกษตรไชย

    หลังการประชุมติดตามคดีฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี วงประชุมคณะพนักงานสอบสวนชุดใหญ่ ลงความเห็นให้อุดทุกช่องว่างในคดี โดยให้พนักงานสอบสวนเร่งศึกษาแนวทางการพิพากษาคดีฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร ที่ถูก นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาฯ ผู้เป็นสามีฆ่าหั่นศพ ซึ่งคดีดังกล่าวต่อสู้กันเต็มเหยียด 3 ศาล โดยทั้ง 3 ศาล ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา พิพากษาให้ประหารชีวิต หมอวิสุทธิ์

          กับคดีอุ้มหาย สมชาย นีละไพจิตร ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งคดีจบที่การยกฟ้อง โดยศาลฎีกาได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2558 ให้ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องจำเลย ทั้ง 5 คน

          โดยคดีดังกล่าวศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายตำรวจคนหนึ่ง ในข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย ขณะที่ผู้ต้องหาที่เหลือให้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่เพียงพอ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิจารณายกฟ้องนายตำรวจรายนี้ เนื่องจากไม่มีพยานเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย

        แหล่งข่าวจากชุดสอบสวนดีเอสไอ เปิดเผยกับทีมข่าว"คมชัดลึกออนไลน์" ว่า เมื่อเปรียบเทียบคดีฆ่าหั่นศพหมอผัสพร คดีอุ้มหายทนายสมชาย กับคดีฆาตกรรมบิลลี่ จะพบความเหมือนของทั้ง 3 คดี คือ ขาดประจักษ์พยาน ไม่มีบุคคลภายนอกรู้เห็นเหตุการณ์นาทีสังหาร มีเพียงพยานแวดล้อมที่ครอบคลุมและชี้ให้เห็น ว่า ก่อนเกิดเหตุฆาตกรรม บิลลี่ถูกจับกุมตัวข้อหาลักลอบเก็บน้ำผึ้งป่า มีของกลางเป็นน้ำผึ้งป่า 5 ขวด ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานชุดจับกุมก็ให้การยอมรับมาโดยตลอดว่า จับกุมตัวบิลลี่จริง แต่อ้างว่าปล่อยตัวไปแล้ว เพียงตอนปล่อยไม่มีใครเห็น…ว่าปล่อย”

        และเมื่อดีเอสไอนำหุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำค้นพบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะของบิลลี่ในร่องน้ำลึกภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า บิลลี่…คนหายที่ตามหากันทั่วทั้งหมู่บ้าน ถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว

    “ ไม่เคยปล่อยตัว ตายระหว่างการควบคุมตัว” เป็นจุดที่ความเป็นเจ้าพนักงาน…หนีไม่ออก

      อย่างไรก็ตาม คดีบิลลี่ก็ยังมีประเด็นอ่อนไหว เพราะจุดที่พบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะไม่ได้ถูกพบในบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ปิด แต่พบในพื้นที่กึ่งเปิดกึ่งปิด กึ่งๆสาธารณะ ผู้ที่จะเข้าไปในพื้นที่อุทยานต้องได้รับอนุญาต

      แต่ในข้อด้อยก็ยังมีข้อดี เพราะวัตถุพยานชิ้นสำคัญถูกพบในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยาน ดีเอสไอจึงต้องนำพยานแวดล้อมทั้งหมดมาตีกรอบช่วงเวลาชั่วโมงสังหาร

      แค่หลักฐานพอฟ้องยังไม่ได้ แต่ต้องมีหลักฐานที่หนักแน่นเพียงพอให้ศาลสั่งลงโทษผู้ก่อเหตุด้วย ในระหว่างนี้ สิ่งที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ต้องทำคือผูกคดีด้วยการนำเสนอพยานแวดล้อมทางนิติวิทยาศาสตร์ เชื่อมต่อให้เห็นภาพเหตุการณ์ว่า บิลลี่อยู่ตรงนี้ ตายตรงนี้ ตายในความรับผิดชอบของกลุ่มผู้ต้องสงสัย 4-5 คน

      ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผลตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูก ถังที่ใช้เผาทำลายศพ และวัตถุพยานทุกชิ้น จะต้องพิสูจน์ถึงรูปคดีร่วมกันฆ่าตนตาย ซึ่งมูลเหตุจูงใจมาจากการขับไล่ชุมชนกะเหรี่ยงออกจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในปี 2554 และคุกรุ่นขึ้นหลังปฏิบัติการเผาบ้านปู่คออี้ ผู้เกี่ยวดองเป็นลุงของบิลลี่ ทำให้บิลลี่ลุกขึ้นมาเป็นแกนนำการต่อสู้โดยงัดประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบขึ้นมาคัดง้างกับฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ นำไปสู่การฆาตกรรมในปี 2557

         ทางด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไขข้อข้องใจว่า การคลี่ปมสังหารแกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอยนั้น พนักงานสอบสวน จำเป็นต้องแกะรอยทฤษฎีศึกษาจากคดีฆ่าหั่นศพหมอผัสพร กับคดีอุ้มหายทนายสมชาย โดยทั้ง 2 คดี มีทั้งความเหมือนและความต่างกับคดีฆาตกรรมบิลลี่ ซึ่งเริ่มต้นจากสำนวนคนหาย แต่ปลายทางคดีต่างกัน

       "คดีหมอผัสพร"มีการเขียนจดหมายอำพรางรูปคดีว่าหมอผัสพรเดินทางไปต่างจังหวัด แต่เมื่อพนักงานสอบสวนแกะรอยจากกล้องวงจรปิดพบว่า หมอวิสุทธ์เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตาย จากนั้นในการตรวจค้นเก็บหลักฐานภายในห้องพักของโรงแรมพบคราบเลือดของหมอผัสพร เมื่อค้นบ่อเกรอะก็พบเศษชิ้นส่วนอวัยวะของผู้ตาย บ่งชี้ถึงการเสียชีวิต โดยหลักฐานทั้งหมดถูกค้นพบภายในเวลา 1 สัปดาห์หลังการหายตัวไป เป็นเหตุให้ จำเลยถูกตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีฆาตกรรมมาตั้งแต่ต้น

       ขณะที่คดีอุ้มทนายสมชาย มีพยานเห็นเหตุการณ์ การเฉี่ยวชนของรถยนต์และการโต้เถียงของทนายสมชายกับตำรวจผู้ก่อเหตุอุ้ม จากนั้นพนักงานสอบสวนแกะรอยคดีจากคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งยืนยันตำแหน่งของทนายสมชายกับกลุ่มนายตำรวจไปจนสัญญาณโทรศัพท์ของทนายสมชายดับลง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยืนยันการเสียชีวิตของทนายสมชาย จึงไม่สามารถดำเนินคดีฆ่าคนตาย พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากับกลุ่มตำรวจได้เพียงกักขังหน่วงเหนี่ยว

     อธิบดีดีเอสไอ ระบุด้วยว่า ในคดีฆาตกรรมบิลลี่นอกจากการพิสูจน์ทราบหลักฐานต่างๆ แล้ว พนักงานสอบสวนยังต้องสมมุติให้ตัวเองเป็นคนร้าย ถ้าเราเป็นคนลงมือฆ่าจะปฏิเสธอย่างไร จะหาข้อแก้ตัวอย่างไรให้หลุดพ้นความผิด ซึ่งการจัดฉากให้ผู้ร่วมขบวนการคนหนึ่งสารภาพ ยอมรับผิดไปคนเดียวแล้วไปกลับคำให้การในชั้นศาล เพื่อสู้กันยาวๆ ก็เป็นไปได้ ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนดีเอสไอก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการสมมุติตัวเองว่า ถ้าเราเป็นเจ้าพนักงานถูกตั้งข้อกล่าวหาทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิดจะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไร

     สำนวนคดีบิลลี่ ซึ่งถูกค้นพบเป็นศพหลังหายตัวไปนาน 5 ปี จึงต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบรัดกุม ช่องว่างที่อาจเป็นจุดอ่อนต้องมีให้น้อยที่สุด