ม.116 ข้อหาเดิมๆ ของชอบ ผู้กุมอำนาจรัฐ
ม. 116 เป็นความผิดในหมวดความมั่นคง มีโทษจำคุกสูงสุดถึงเจ็ดปี ซึ่งถือเป็นข้อหาหนักที่มีโทษสูง ทำให้ฝ่ายรัฐมีอำนาจข่มขู่และต่อรองทางการเมืองเพิ่มขึ้น
กรณี พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ให้ดำเนินคดีกับตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านถึง 12 คน เกี่ยวกับการจัดเสวนา “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่บริเวณลานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี
และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ข้อหาที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านโดนยังเป็นข้อหาเดิมๆ นั่นคือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
ว่าไปแล้ว...ไม่ว่ารัฐบาลในยุคใดก็มีการนำข้อหามาตรา 116 มาใช้กับประชาชนที่แสดงความคิดเห็นไปในทางต่อต้านรัฐบาล และคดีความส่วนหนึ่งศาลพิพากษายกฟ้องไป เนื่องจากเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตจึงยังไม่เข้าข่ายเป็นความผิด
ดังนั้นมาดูข้อความเต็มๆของมาตรา 116 ตามประมวลกฎหมายอาญา ว่าบัญญัติไว้อย่างไร
มาตรา 116 บัญญัติว่า ผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอัน มิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กําลังข่มขืนใจ หรือใช้กําลังประทุษร้าย
(2 ) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร
หรือ (3 ) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินเจ็ดปี"
สรุปง่ายๆ คือ ใครก็ตามที่บอก เขียน หรือทำวิธีอื่นๆ เพื่อให้กฎหมายเปลี่ยนแปลง ขัดขืนอำนาจรัฐ หรือทำให้คนจำนวนมากทำผิดกฎหมาย อาจเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายนี้นั่นเอง
และเนื่องจากมาตรา 116 เป็นความผิดในหมวด “ความมั่นคง” ตามประมวลกฎหมายอาญา และมีโทษจำคุกสูงสุดถึงเจ็ดปี ซึ่งถือเป็นข้อหาหนักที่มีโทษสูง เมื่อฝ่ายรัฐนำมาตรา 116 มาใช้กับประชาชน ซึ่งไม่ว่าคดีความและผลของคดีจะดำเนินต่อไปอย่างไร ผู้ต้องหาที่ถูกตั้งข้อหาหนักเช่นนี้ย่อมรู้สึกกลัว เป็นกังวลกับผลคดีของตัวเอง ทำให้ฝ่ายรัฐมีอำนาจข่มขู่และต่อรองทางการเมืองเพิ่มขึ้น
ในอีกแง่หนึ่งข่าวการตั้งข้อหามาตรา 116 ย่อมสามารถขู่ให้คนอื่นในสังคมรู้สึกกลัวและไม่กล้ากระทำในลักษณะเดียวกันได้อีกด้วย