ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ชี้ชะตา รบ.เสียงปริ่มน้ำ
วันนี้(7 ต.ค.)ได้ฤกษ์ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนฯต่อไป...กับการรอลุ้นของรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำว่าจะสอบผ่านหรือไม่
อาจารย์ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า วันนี้ ่7 ต.ค. จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แล้วนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มีจำนวนเงินถึง 3.2 ล้านล้านบาทมีรายจ่ายที่มากกว่าทุกปี
แม้ว่าตัวเลขจะมาก แต่หากเทียบกับปีที่แล้วก็พบว่างบประมาณบางกระทรวงลดลง บางกระทรวงเพิ่มขึ้น โดยงบประมาณรายจ่ายที่มากก็อยู่ในส่วนรายจ่ายประจำ คือ เงินเดือนข้าราชการ และเป็นการจัดงบประมาณตามยุทธศาสตร์ชาติ
ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดสมัยประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ โดยอาจใช้เวลา 2 วันหรือ 3 วัน ในการอภิปรายพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณวาระแรกเพื่อพิจารณารับหลักการ
การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯซึ่งเสมือนการอภิปรายไม่วางใจคณะรัฐมนตรีแบบย่อมๆ เพราะถ้าโหวตในวาระแรกแล้วรัฐบาลแพ้โหวต รัฐบาลมี 2 ทางเลือก ไม่ลาออก ก็ยุบสภา การลงมติร่างกฎหมายฉบับนี้ในครั้งนี้คงตื่นเต้นกว่าที่ผ่านๆมาเนื่องจากเสียงลงมติที่ปริ่มน้ำของรัฐบาล หากร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรีต้องลาออกหรือยุบสภา
ที่ผ่านมา มีบางฝ่ายจะไปร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญเพราะอ้างว่ารัฐบาลนี้อนุมัติงบซ้ำกับรัฐบาลที่แล้ว
แต่ตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่าการที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าร่างกฎหมายใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายนั้นต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว แต่ขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ฉบับนี้ ยังไม่ผ่านสภาเลย ดังนั้นถ้าจะร้องว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงยังยื่นช่วงนี้ไม่ได้ ต้องรอให้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ผ่านสภาเสียก่อน
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุว่า หากร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่านจะเดือดร้อนทั้งประเทศนั้น เพราะว่าร่างกฎหมายฉบับนี้คือทางรอดของรัฐบาลและประเทศ เพราะหากกฎหมายการเงินนั้นหากรัฐสภาไม่ผ่านความเห็นชอบ หัวหน้ารัฐบาลต้องลาออกหรือยุบสภา
แต่ด้วยเหตุที่"เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ" จึงมีกระแสข่าว รัฐบาลดึง“งูเห่า”จากฝ่ายค้าน ่และฝ่ายค้านออกมาโวยว่า ส.ส.ฝ่ายค้านโดนแกนนำรัฐบาลดึงไปร่วมลงมติให้ร่างกฎหมายฉบับนี้
เชื่อว่าจากนี้ไปแกนนำพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งแกนนำรัฐบาลต้องดำเนินการทุกวิถีทาง เดินสายเพื่อให้ได้เสียง ส.ส. มาสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ของรัฐบาล ให้ได้ และยังต้องคุมเสียงของฝ่ายส.ส.รัฐบาล เอง ไม่ให้แตกแถว และประสานส.ส.ฝ่ายค้านในช่วงลงมติ
แต่ตอนนี้รัฐบาลมี 2 เสียงของฝ่ายค้าน คือ จากพรรคเพื่อไทยตุนในมือไว้แล้ว คือ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม และนายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากุล เพราะสองคนนี้ ประกาศแล้วว่า จะลงมติเห็นชอบให้กับร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อพัฒนาประเทศ
ที่ต้องจับตา คือ การโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ในครั้งนี้ จะมี “งูเห่า”หรือไม่ ซึ่งเมื่อดูตามรูปการณ์ที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ และก่อนหน้านี้มีข่าวว่ารัฐบาลตั้งเป้าจะหาเพิ่มให้ได้อีก 20 เสียงเพื่อมาสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จึงเชื่อได้ว่าจะมี “งูเห่า” แน่