วันชี้ชะตา
บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2562
ในวันนี้ (22 ต.ค.) คณะกรรมการวัตถุอันตราย อันประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 29 คน จะประชุมเพื่อลงมติว่า จะสั่งแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต หรือไม่ ทั้งนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตรายฉบับปี 2535 โดยประธานการประชุมโดยตำแหน่งคือ ปลัด(รองปลัด)กระทรวงอุตสาหกรรม กรรมการประกอบด้วย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงเกษตรฯ อธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ตัวแทนกรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปลัดกระทรวงพลังงาน อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ อธิบดีกรมศุลกากร และผู้ทรงคุณวุฒิ 8 คน
ก่อนการประชุมชี้ขาดจะเริ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายที่เห็นต่างคือฝ่ายที่เคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีมาอย่างต่อเนื่องกับกลุ่มที่สนับสนุนให้ใช้ได้ต่อไป ภายใต้การ “จำกัด” การใช้และใช้อย่างถูกวิธี ทั้งสองฝ่ายก็ได้ยืนยันเจตนารมณ์กันจนถึงนาทีสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผู้รับผิดชอบด้านสุขภาพของประชาชน โดยการนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการ ที่ปรึกษา คณะแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนองค์กรเอกชน ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนการใช้สารเคมีก็ประกาศมาก่อนหน้าว่า จะคัดค้านจนถึงที่สุด เริ่มจากให้กำลังใจคณะกรรมการวัตถุอันตรายในตอนเช้า และถ้ามติออกมาว่าให้แบนสารเคมีเกษตรก็จะประท้วงด้วยการเผาดอกไม้จันทน์ที่หน้ากระทรวงอุตสาหกรรม จึงถือว่า คณะกรรมการวัตถุอันตราย ทั้ง 29 คนกำลังตกอยู่ในภาวะถูกกดดันมากพอสมควร
วันชี้ชะตาซึ่งมีตัวแทนอยู่ในคณะกรรมการ 5 คน แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงก็แสดงความคาดหวังถึง 90% ว่า คณะกรรมการจะมีมติให้แบน ส่วนรัฐมนตรีว่าการบอกว่าไม่ว่าคณะกรรมการจะมีมติออกมาอย่างไร กระทรวงเกษตรฯ ในฐานะหน่วยงานภาคปฏิบัติก็ต้องทำตามนั้น อย่างไรก็ตาม ลักษณะทำนองนี้ บางฝ่ายอาจจะยังไม่ได้รับรู้ว่า ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ได้จัดอบรมการใช้สารเคมีเกษตรทั้ง 3 ชนิด หลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเมื่อวันที่่ 14 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน ให้ “จำกัด” การใช้ โดยหลังวันที่ 20 ตุลาคม ที่เพิ่งผ่านมาได้ 2 วัน กลุ่มผู้เกี่ยวข้องคือผู้ใช้ ผู้รับจ้างฉีดพ่น คนขาย จะต้องผ่านการอบรมที่กระทรวงเกษตรฯ จัดขึ้นตามประกาศบังคับใช้ 5 ฉบับก่อนหน้านี้ หรือมองอีกนัยหนึ่งก็คือ ในระหว่างที่ฝ่ายคัดค้านออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกตลอด 6-7 เดือนก่อน กระบวนการ “ตีตรารับรอง” การใช้สารก็เดินหน้าไปเงียบๆ เช่นกัน
ตามข่าวบอกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายอาจจะลงมติโดยเปิดเผย หรือกรรมการคนใดจะให้ลงมติลับก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ก็ต้องฝากความหวังเอาไว้กับคณะกรรมการทั้งคณะว่า จะพิจารณาอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมไทยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชน ทั้งด้านผู้บริโภค และได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาหนักของชาติ เช่นที่ฝ่ายแพทย์และสาธารณสุขนำเสนอข้อมูลมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน สำหรับเกษตรกรบางกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องใช้ อย่างเช่น กลุ่มไร่อ้อย ยางพารา มันสำปะหลัง ฯลฯ ก็ต้องรับฟังข้อมูลจากพวกเขาเช่นกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ คณะกรรมการจะต้องไม่ถูกอิทธิพลภายนอกครอบงำ อย่างที่บางคนอาจจะถูกตั้งข้อสงสัย ดังนั้น จึงควรจะต้องลงมติกันอย่างเปิดเผย เพราะนี่คือผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-อย.ประกาศจุดยืนสนับสนุนยกเลิกใช้3สารเคมี
-ผงะ สต็อก 3 สารพิษเหลือเพียบ
-บังคับใช้แล้ววันนี้จำกัดใช้ 3 สารเคมี
-สารพิษแพร่รัฐบาล