คอลัมนิสต์

"รังสียูวีซี" เครื่องจิ๋วไฮเทคกำจัด "ไวรัสโคโรน่า"

"รังสียูวีซี" เครื่องจิ๋วไฮเทคกำจัด "ไวรัสโคโรน่า"

05 ก.พ. 2563

รายงานพิเศษ ..หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 

 

                      ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้ป่วย “โรคปอดอักเสบรุนแรง” จากเชื้อ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” (19-nCoV) ยังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากกลุ่มนักเดินทาง ทำให้หลายหน่วยงานพยายามหาวิธีฆ่าเชื้อโรคในเครื่องบิน รถไฟ รถโดยสาร ห้องประชุมขนานใหญ่ ฯลฯ แต่ที่หลายคนอยากรู้คือ มีเครื่องมือไฮเทคกำจัดเชื้อไวรัสร้ายแบบพกพาหรือไม่?

 

 

                      ช่วงนี้เจ้าหน้าที่ด้านรักษาความสะอาดทั่วโลกเคร่งเครียดกับการกำจัดเชื้อโรคโดยเฉพาะในสนามบินและในเครื่องบิน หลายคนเห็นเจ้าหน้าที่เดินหิ้วเครื่องพ่นสารเคมีฆ่าเชื้อโรคเดินฉีดพ่นตามเก้าอี้ผู้โดยสารหรือห้องน้ำ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนออกมาเตือนว่าผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้เป็น “ยาฆ่าเชื้อโรค” นั้น แม้ว่าจะกำจัดได้ทั้งเชื้อไวรัสโคโรนา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสไข้หวัดนก เชื้อรา ฯลฯ แต่วิธีการแบบนี้เรียกว่า “วิธีเปียก” หมายถึงต้องฉีดให้เปียกและทิ้งไว้ถึง 24 ชั่วโมง ถึงจะมีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อไวรัสโคโรนา ยิ่งไปกว่านั้นสารเคมีฆ่าเชื้อเหล่านี้อาจตกค้างเป็นอันตรายต่อผู้ที่สัมผัสก็ได้ หากผู้ฉีดไม่มีความเชี่ยวชาญฉีดด้วยปริมาณที่มากเกินไปหรือฉีดน้อยเกินไปก็ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้

 

                      มีสื่อต่างประเทศหลายสำนักเผยแพร่ข้อมูลว่าสายการบินบางแห่งไม่ได้ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เพราะการจอดพักเครื่องบินอยู่กับที่ 24 ชั่วโมงนั้น ทำให้เสียต้นทุนจำนวนมากโดยเฉพาะสายการบินโลว์คอสต์หลากหลายยี่ห้อที่บินจากประเทศจีนไปทั่วโลก

 

 

 

                      ดังนั้นบางฝ่ายจึงเสนอให้ใช้เทคโนโลยีรังสีอัลตราไวโอเลตเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา 2019!

 

                       “รังสีอัลตราไวโอเลต”  คนไทยคุ้นเคยกับคำเรียกนสั้นๆ ว่า “รังสียูวี”  เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง มีแหล่งกำเนิดหลักมาจากแสงอาทิตย์ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า รังสีนี้เดินทางมาถึงโลกมนุษย์ในรูปแบบของคลื่น และมีความยาวคลื่นหลายชนิดระหว่าง 40-400 นาโนเมตร แต่ที่รู้จักกันดีคือ รังสียูวี 3 ชนิด ได้แก่ รังสียูวีเอ (UVA) รังสียูวีบี (UVB) และรังสียูวีซี (UVC)

 

                      รังสียูวีเอ นำไปใช้งานทั่วไป เห็นได้บ่อยครั้ง เช่นเวลาพนักงานธนาคารตรวจสอบลายเซ็นในสมุดบัญชีจะเปิดหลอดไฟยูวีเอ ที่เป็นแสงสีม่วงๆ ทำให้เห็นลายเซ็นซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ หรือแม้แต่เครื่องดักยุง ดักแมลงวันก็ใช้รังสีชนิดนี้เช่นกันรังสียูวีบี ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาเครื่องมือแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคทางผิวหนัง หรือโรคที่ต้องการบำบัดด้วยแสง

 

\"รังสียูวีซี\" เครื่องจิ๋วไฮเทคกำจัด \"ไวรัสโคโรน่า\"

 

 

                      ส่วนรังสียูวีซี มีความยาวคลื่น 100–280 นาโนเมตร ถูกนำดัดแปลงใช้เป็นเครื่องมือฆ่าเชื้อโรค (Germicidal radiation) ที่ได้ยินบ่อย เช่น เครื่องกรองน้ำยูวี หลอดยูวีฆ่าเชื้อโรค เครื่องผลิตโอโซนรังสียูวี ฯลฯ จากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาระบาดอย่างรวดเร็ว บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสียูวีซี จึงได้โอกาสโหมกระหน่ำทำโฆษณาเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีว่าการเตือนให้ “ล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง” นั้น เป็นเพียงมาตรการป้องกันเท่านั้น แต่ไม่ใช่การกำจัดเชื้อหรือฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง

 

                      ที่น่าสนใจคือบริษัทผลิต “เครื่องยูวีซีฆ่าเชื้อโรคบนเครื่องบิน” ที่ใช้เทคโนโลยีทำแขนขนาดยาวให้ซอกแซกเข้าไปตามซอกในของเบาะที่นั่ง อ้างว่าด้วยการฉายรังสีแค่ไม่กี่เกิน 1 นาทีสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ดีกว่าฉีดพ่นด้วยน้ำยาเคมี

 

 

\"รังสียูวีซี\" เครื่องจิ๋วไฮเทคกำจัด \"ไวรัสโคโรน่า\"

 

 

                      ผู้บริหารบางคนออกมาให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า อุปกรณ์นี้ดีจริงแต่บริษัทเจ้าของสายการบินหลายแห่งไม่ยอมลงทุนซื้อเครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสียูวีซี เพราะไม่มีกฎหมายบังคับด้านสุขอนามัยที่กำหนดให้ต้องทำความสะอาดเครื่องบินหรือที่นั่งผู้โดยสารอย่างไร เมื่อไม่มีกฎหมายหรือระเบียบบังคับก็ไม่มีการทำความสะอาดอย่างจริงจัง เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้ไวรัสร้ายตัวนี้ระบาดได้รวดเร็วจากผู้ป่วยไปยังผู้โดยสารคนอื่นๆ

 

                      ใครที่กำลังมีโปรแกรมเดินทางช่วงนี้คงรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แทบอยากยกเลิกตั๋วเครื่องบิน แต่ถ้าจำเป็นต้องเดินทางจริง สามารถทดลองสั่งซื้อ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสียูวีซีขนาดพกพา ที่นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่หรือพวกกลุ่มส่งเสริมธุรกิจ “สตาร์ทอัพ” กำลังช่วยกันคิดค้นและทดลองวางขายแล้วในรูปแบบ หลอดไฟพิเศษสังเคราะห์รังสียูวีซีเลียนแบบธรรมชาติเพื่อนำมาฆ่าเชื้อโรค (Germical Lamp) ราคาขายตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาท

 

\"รังสียูวีซี\" เครื่องจิ๋วไฮเทคกำจัด \"ไวรัสโคโรน่า\"

 

 

                      มีทั้งที่รูปร่างคล้ายหลอดไฟพกพาสำหรับอ่านหนังสือ ลักษณะเป็นหลอดยูวีซีสีฟ้า สามารถวางฉายแสงไปยังพื้นที่ต้องการทำความสะอาด เช่น ที่นั่งบนเครื่องบิน ประตูลูกบิดห้องน้ำ เตียงนอนในโรงแรม แปรงสีฟัน ฯลฯ มีการอ้างว่าจังหวะของไฟแอลอีดี  ยูวีซี สามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้เกือบ 100% ของภายในไม่กี่วินาที วิธีการคือวางหลอดยูวีซีห่างจากพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาดประมาณ 1–2 เซนติเมตร ประมาณ 10-15 วินาที แล้วค่อยเลื่อนไปพื้นผิวใหม่จนครบ

 

                      นอกจากดัดแปลงเป็นขนาดพกพาแล้ว ยังมีบางบริษัททำเป็นอุปกรณ์เสริมของโทรศัพท์มือถือสามารถชาร์จไฟผ่านสายยูเอสบีได้ด้วย อายุการใช้งานของหลอดแอลอีดี ยูวีซี ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นครั้ง แถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

 

\"รังสียูวีซี\" เครื่องจิ๋วไฮเทคกำจัด \"ไวรัสโคโรน่า\"

 

 

                      อย่างไรก็ตาม “ผู้บริโภค” ต้องระมัดระวังและอ่านคำเตือนพร้อมคู่มือการใช้งานอุปกรณ์รังสีฆ่าเชื้อโรคอย่างละเอียด ไม่ควรนำหลอดยูวีซีมาฉายแสงผ่านผิวหนังหรือร่างกายตัวเองหวังให้ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาโดยตรง เพราะอาจได้รับอันตรายยิ่งกว่าเดิม มีคำแนะนำให้ใช้ถุงมือและแว่นตากันแดดระหว่างที่ใช้รังสียูวีซีฆ่าเชื้อโรคด้วย

 

                      แม้ใช้เพียงไม่กี่นาทีก็ต้องระมัดระวัง ด้วยหลักคิดง่ายๆ ว่าหากรังสีฆ่าเซลล์ไวรัสได้ ก็อาจทำร้ายเซลล์ผิวหนังหรือเซลล์ส่วนอื่นของอวัยวะร่างกายมนุษย์ได้เช่นกัน!

 

ทีมรายงานพิเศษ คมชัดลึก